31 ต.ค. 2021 เวลา 17:26 • สุขภาพ
ว่าด้วยเรื่องโควิดและประเด็นที่ไม่ค่อยเห็นคนพูดถึง
ช่วงแรกๆ ที่โควิดเริ่มระบาดประเทศต่างๆ จะต้องตัดสินใจเป็นสองทางหลักๆ 1.ปิดเมือง+ใส่ mask เพื่อชะลอการระบาดและซื้อเวลาเพื่อรอวัคซีน(และยา?) 2.เปิดเมืองกันต่อไปไม่ใส่ mask เพื่อให้คนสร้างภูมิกันเอง
ในประเทศโซนเอเชียเราใส่ mask กันและชะลอการติดได้อย่างเห็นผล ในขณะที่ WHO และ CDC ออกมาประกาศว่า เห้ย มันใช้ไม่ได้ผล อย่าไปใส่ ตอนนั้นเราก็ขำกันว่าอิหยังวะ แล้วหมอของพวกคุณใส่กันทำไม
ใช่ครับพวกหมอเค้าใส่เพราะมันกันติดได้จริงๆ แต่สำหรับผมคิดว่าการที่เค้าออกมาพูดแบบนั้นก็เพื่อประชาชนเค้าเอง ไม่ใช่เพราะเค้าเชื่อแบบนั้นจริงๆ เราต้องเข้าใจสถานการณ์ของฝั่งเมกาตอนนั้นด้วย
ขณะนั้นทางฝั่งเมกาไม่ได้มี mask ที่เพียงพอสำหรับประชาชนทุกคน (การนำเข้าก็ทำไม่ได้เพราะมีข้อจำกัดว่าต้องมีมาตรฐาน N-95 ขึ้นไปหรืออะไรทำนองนี้) และคนก็ติดกันเยอะมากๆ หมอส่วนใหญ่ต้องใส่ mask ซ้ำหลายวัน เอามาทำความสะอาดเอง ลองคิดว่าถ้า Trump ประกาศว่ามันใช้ได้นะ คนไปกว้านซื้อจนหมดตลาด หมอตายหมดคือจบนะครับ ยอดคนตายคงพุ่งสูงมากกว่าใน timeline ปัจจุบัน เพราะงั้นผมเลยคิดว่าตอนนั้นตัดสินใจได้ถูกแล้วที่จะประกาศไปแบบนั้น
ปัญหาคือในกรณีที่ทั้งคู่ WHO/CDC รู้ความจริงว่ากันได้ ทำไมไม่ใช่แค่ CDC ที่พูดแบบนั้น? ทำไม WHO ถึงยอมพูดแบบนั้นด้วย? ทั้งที่เป็นองค์กรระดับโลก และสามารถชะลอการติดได้ทั้งโลก เพราะทุกคนก็ยึดข้อมูลจาก WHO เป็นหลัก ประเด็นนี้ขอเกริ่นไว้ก่อนเผื่อจะได้ใช้ในภายหลัง
ในเมกาตอนนั้นเรารู้ว่ามีกลุ่ม anti-vaxxer อยู่คือพวกต่อต้านวัคซีน ตอนนั้นในไทยคือพูดกันแต่ว่าพวกนี้น่ะโง่ เป็นพวกเชื่อ Trump ไม่ลืมหูลืมตา วัคซีนนั่นแหละคือทางออก แต่จริงๆแล้วในกลุ่มนี้มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ต่อต้านการฉีดวัคซีนอยู่เช่นกัน
นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ให้เหตุผลว่า การที่เราฉีดวัคซีนไปเนี่ยมันจะทำให้เชื้อกลายพันธุ์ได้เร็วขึ้นไปอีก และอันตรายกว่าเดิม แน่นอนกลุ่มที่เชื่อในวัคซีนก็จะบอกว่าวัคซีนมันชะลอการแพร่ระบาดและลดอัตราการตาย ถูกครับวัคซีนช่วยได้จริงๆแต่ส่งผลเสียคือมันกลายพันธุ์ไวขึ้นตามที่เค้าบอก
*เสริม: เค้าเชื่อว่าไวรัสไม่น่าจะเกิดได้เอง น่าจะหลุดจาก lab มากกว่า
นักวิทยาศาสตร์กลุ่มเดียวกันนี่แหละที่บอกว่าพวกเค้าใช้ Ivermectin ในการป้องกันการติดและบรรเทาอาการ ที่ในไทยแทบจะไม่ยกมาเป็นประเด็นเลย แค่บอกว่าเป็นเฟคนิวส์ละจบ ทั้งๆที่มีหลายประเทศมากๆในโลกนำมาใช้ร่วมในการรักษา แน่นอนว่าการใช้ยานี่อาจจะทำให้เชื้อดื้อยาได้เช่นกันอันนี้ผมไม่เถียง ผมแค่ต้องการนำเสนออีกทางว่า ยาก็อาจเป็นทางออกได้ไม่ต่างจากวัคซีน (และถูกกว่า)
ในสถานการณ์ปกติ วัคซีนจะเป็นทางออกเมื่อเรานำเชื้อที่ระบาดอยู่ไปพัฒนาต่อจนมันแข็งแกร่งจัดๆ ล้ำหน้าตัวที่ระบาดไปมากๆ แล้วนำตัวนั้นไปผลิตวัคซีนเพื่อไม่ให้โอกาสตัวปัจจุบันที่ระบาดอยู่มันกลายพันธุ์ไปเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เมื่อนั้นเราก็จะคุมเชื้อได้และหยุดการระบาดทั้งหมด
เพราะงั้นเราจึงควรรู้หรือเปล่าว่าสรุปแล้วเชื้อโควิดเนี่ยมันเริ่มมาจากไหนกันแน่เพื่อประโยชน์ในการสร้างวัคซีนหรือยาให้หายขาด?
อ่าวแล้วสรุปมันมาจากไหน ในซุปค้างคาว? จาก lab ในจีน?
9 Feb 2021
WHO says 'extremely unlikely' virus leaked from lan in China
26 March 2021
Trump CDC chief: Coronavirus 'escaped' from Chinese lab
31 March 2021
China under pressure after WHO chief revives lab leak theory
อ่าวยังไงๆๆๆ
ไวรัสหลุดจาก lab มันสำคัญยังไง? สำคัญมากๆสิครับ ถ้ามันหลุดออกจาก lab จริงๆ ไม่ว่าจะ lab ไหนบนโลก มันจะต้องมี protocol ในการพัฒนาเชื้อตัวนั้นว่ามันมายังไง มันก็จะเป็นแนวทางในการพัฒนายาและวัคซีนให้เร็วขึ้นมากๆ แต่ถ้ามาจากธรรมชาติก็ควรจะย้อนกลับไปดูว่าสรุปแล้วมันกลายพันธุ์มาระบาดสู่คนได้ยังไง
ถ้ามันหลุดจาก lab ใน Wuhan จริง เราไม่ควรจะเชื่อในวัคซีนของจีนมากกว่าเหรอ เพราะเค้ามีแนวทางในการพัฒนาเชื้อเค้า มองกลับมาตอนนี้ก็ชัดเลยว่าเค้าคุมโรคระบาดครั้งนี้ได้ดีเยี่ยมมากๆ เอ้ะ ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมาจากจีนจริงๆ55555 อ่าวแต่วัคซีน mRNA ก็ประสิทธิภาพดีมาก ดีกว่าของจีนเยอะเลย หรือเชื้อมันจะมาจากเมกากันนะ อ่าวก็น่าคิด55555
ว่าด้วยเรื่องทฤษฎีผลประโยชน์ คนที่ได้ประโยชน์มากสุดจากสถานการณ์มักเป็นตัวร้าย ตอนที่ Trump เป็นปธน.ไม่ได้สนับสนุนวัคซีนนะ แต่พอ Biden ขึ้นปุ้บ ก็เดินหน้าเรื่องวัคซีนทันที หรือ democrat จะเป็นตัวการหลังเรื่องนี้ มีทั้งบริษัทวัคซีนและบริษัทประกัน อ่าวก็เป็นไปได้ พอมาคิดถึงเรื่องชุดตรวจไม่กี่ตัง แต่พอไปตรวจที่โรงพยาบาลก็เช็คยอดออกมา $8,000++ ไรงี้ แน่นอนประชาชนไม่ได้จ่าย บริษัทประกันอ่ะจ่าย แต่โครงการ health care ของเมกาก็จ่ายบริษัทประกันอีกที มีแต่ได้กับได้ มันก็น่าสงสัย
แน่นอนว่าที่พูดมาอาจดูเหมือนผมชี้นิ้วไปที่ democrat จริงๆไม่ใช่เลย บริษัทประกันพวกนี้มันทำแบบนี้มานานแล้ว ไม่ใช่แค่ยุคโควิด +วัคซีน mRNA ผลมันดีจริงก็ต้องขายได้ดีเป็นธรรมดา เค้าได้ประโยชน์ก็ถูกแล้ว มันเทคโนโลยีของเค้า
ว่าด้วยเรื่องของ censorship เกี่ยวกับโควิด
ในไทยอาจดูเหมือนเราโดนร้าบานปล่อยเฟคนิวส์มาตลอด และปิดบังข้อมูลความจริง ทั้งหมดที่เรารู้มามันจริงครับที่ว่าเค้าปิด แต่สำหรับเมกาแล้วคนละเรื่องเลย facebook เอย Instagram twitter และอื่นๆอีกมากมายเค้าเป็นเจ้าของหมด ถ้าเค้าจะลบและปิดกั้นทุกโพสต์ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่เค้าอยากปิด มันทำได้ 100% และมันเกิดขึ้นจริงๆกับตัวยา Ivermectin พอมันหลุดออกมาว่าใช้ได้จริง ก็มีข่าวเรื่องยาอัลไซเมอร์รักษาโควิดได้และก็แน่นอนว่ามันใช้รักษาไม่ได้ และ Ivermectin ก็ถูกเหมารวมไปทันทีว่าอย่าเอายากะโหลกกะลามารักษากันมั่วๆ
ตอนเราติดกันช่วงพีคๆ ไม่มีเตียง ไม่มีเครื่องช่วยหายใจที่เพียงพอ เราทำอะไรกันอยู่ เราเรียกร้องกันเรื่องวัคซีน แต่พอมาถึงยา กลับไม่มีใครเรียกร้อง ไม่มีใครถามถึง ทั้งๆที่คนที่ติดที่บ้านไปไหนก็ไม่ได้ ได้แต่รอวันตาย คนพวกนี้เค้าแค่ต้องการอะไรมาช่วยเค้าซักนิดก็ยังดี แน่นอนว่าถ้าได้ฟาวิ คงจะดีที่สุดแต่มันขาดของช่วงนั้น คงจ่ายมั่วๆไปกินเองไม่ได้ ตอนนั้นผมก็คิด ทำไมไม่หายาอื่นมาลองดู ตัวที่ปัดตกว่าเป็นเฟคๆอาจจะจริงก็ได้
หลายๆคนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าทำไมผมดูเชื่อ Ivermectin จัง ต่อต้านเมกาป่าว
ที่ผมเชื่อเพราะผมเคยส่งลิงค์ที่เกี่ยวกับยาตัวนี้และสิ่งที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้คิดให้กับเพื่อน (ขณะนั้นโดนปิดกั้นหนักมากในเมกา) แล้วมันบอกมองไม่เห็น สรุปคือผมส่งไม่ไป มันดูไม่ได้ ตอนนั้นผมเลยเชื่อว่า censorship มันมีอยู่จริงๆ การปิดกั้นในเฟสบุคทุกวันนี้ยังมีอยู่ เราก็น่าจะรู้กันดี แต่รู้ได้ไงว่าคุณไม่ถูกปิดกั้นข้อมูลในช่วงโควิด? ทุกข่าวที่คุณเห็นจะมี banner เล็กๆข้างล่างว่าเอ้ย ให้ไปเช็คกับ WHO นะ และถ้า WHO/CDC มันเกี่ยวข้องกันจริง ทำไมเราถึงจะยังไม่เชื่อว่าเมกาควบคุมสื่อทั้งโลกอยู่จริงๆ
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ประเด็นที่ผมคิดว่าน่าสนใจ อาจมี biased บ้างก็ขออภัย ประเด็นเรื่องวัคซีนก็ไม่อยากแตะมาก เดี๋ยวโดนทัวร์ลง5555 ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้แม้จะอ่านข้ามก็อยากให้ไปดูคลิปนี้ 3 ชม.กว่าๆแต่ผมคิดว่าคุ้มค่ากับการฟัง มันเป็นรายการที่ชอบเชิญนักวิทยาศาสตร์ดังๆมาสัมภาษณ์ ผมว่ามันน่าสนใจดี ขอลาไปเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ถ้าผมพูดแล้วดูเพ้อเจ้อก็ขออภัย แต่อยากให้ลองเปิดใจไปฟังคลิปนี้ครับ🤣
โฆษณา