1 พ.ย. 2021 เวลา 13:20 • ท่องเที่ยว
"Israel In My Memory"
อิสราเอล (ISRAEL) Part 1
การเดินทางออกนอกประเทศไทยเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน มันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เริ่มแรกเลยขอเล่าถึงที่ไปที่มาของการเดินทางในครั้งนี้ก่อนละกันนะ
ก่อนวันรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ประจำปีการศึกษา 2561 จบตั้งแต่ 17 พฤษภาคม 2561 แต่ต้องรอวันรับจริง ก็คือวันที่ 23 มีนาคม 2562 อ่ะ เพราะเรียนจบแล้วก็จะต้องรอเวลาอีกประมาณ 1 ปี ถึงจะได้รับพระราชทานปริญญบัติ
จำไม่ได้ว่าช่วงเดือนไหนที่ครูโยโย่บอกว่าให้ไปทำหนังสือเดิน (Passport)
ไว้นะ จะให้ของขวัญวันรับปริญญา ในใจก็ตื่นเต้นแหละแต่ครูโยโย่ก็ยังไม่ได้บอกว่าของขวัญนั้นคืออะไร
..........................ลุ้นสิคะ...................
โยโย่แค่บอกให้ไปทำหนังสือเดินทางไว้ให้เรียบร้อย และก่อนที่โยโย่จะเดินมาที่ประเทศไทย เพื่อมาร่วมแสดงความยินดีกับฉันในวันที่สำเร็จการศึกษา หลังจากที่ครูโยโย่บอกให้ไปทำ passport น้านนนนน
ยังอีก ยังไม่ไปทำผลัดวันประกันพรุ่งไม่รีบไปทำสักที เพราะตอนนั้นกลัวแพงไม่ค่อยมีตังค์ด้วยแหละ 555+ จนกระทั่งวันหนึ่งเลยตันสินใจไปทำ ไปคนเดียวจ้า ไปทำที่ธัญญ่าปาร์ค จับบัตรคิวกรอกข้อมูลนู่นนี่นั่น รอคิว
ไปแบบเอ๋อๆหน่อยๆ ไม่รู้ไรหรอกเดินตามเขาเข้าไปเรื่อยๆ ถามทุกคนที่พบเจอเมื่อมีอาการ งงๆ 555+
อย่าหาทำนะคะ
........................ขอเล่าข้ามขั้นตอนละกันเนอะ...............
เสร็จเรียบร้อยทู้กกกกกกสิ่งอย่างก็ประมาณ 3-4 ชั่วโมงอ่ะ คือแบบว่าคนเยอะมากวันนั้น ถึงคิวเราที่นั่งรอมานาน วัดส่วนสูง เขียนๆกรอกข้อมูล เข้าไปถ่ายรูป ก็เเบบว่าหน้านิ่งมาก แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ายิ้มได้นะคะ เอ้า????
555+ ก็เรายิ้มอยู่ในใจไง อิอิ เมื่อถ่ายรูปเสร็จ ก็บันทึกรายนิ้วมือ โป้ง ชี้ ซ้าย-ขวา *ถ้าจำไม่ผิดนะคะ*
แล้วก็ไปจ่ายตังค์เลือกให้เค้าส่ง EMS ใช้เวลาเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น (มั้ง 555+) ลืมทำนานละ แล้วก็ได้รับหนังสือเดินทางที่บ้าน ส่งมาตามที่อยู่เลยจ้า (ที่ YWAM)
เมื่อได้หนังสือเดินทางมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสำคัญคือถ่ายรูปส่งให้โยโย่ดู 555+ รายงานสถานการณ์นั่นเอง ตอนนั้นโยโย่ก็ยังไม่ได้เดินทางมาประเทศไทยนะ เพราะโยโย่จะมาประมาณวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562
แล้วหลังจากวันนั้นโยโย่ก็บอกว่าจะพาไปไหน แต่เราน้าน งอ งู ล้านตัวจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา(........ )?????
เพราะที่โยโย่ยังไม่บอกนั้น โยโย่บอกว่าฉันอธิษฐานอยู่รอพระเจ้าให้คำตอบก่อนนะ
.......................ลุ้นอีกครั้ง...................
แล้วหลังจากนั้นไม่กี่วัน โยโย่ก็บอกแบบพูดเบาๆผ่านโทรศัพท์ว่า เราจะไปอิสราเอลกันนะ โอ้ววววววววว OMG. อิสราเอล โอ้วววววววโน่ววววววมันคือความฝันเลยแหละที่จะไปที่ประเทศนี้ อันดับแรกคือตกใจไว้ก่อน :) :)
เพราะก่อนหน้านี้เคยทำงานกับทีมที่มาจากประเทศอิสราเอล แถมรู้จักกับพี่นวลที่เป็นเจ้าของทัวร์ประเทศอิสราเอลโดยเฉพาะที่พาพี่น้องคริสต์เตียนไทยไปเที่ยวประเทศอิสราเอล ตอนที่ไปกับทีมที่โบสถ์สดุดีคือตอนนั้น ได้มีโอกาสคุยกับพี่นวลมันทำให้รู้สึกอยากไปประเทศอิสราเอลมากกกกกก
1
เพราะจำได้ว่าบทสนทนาของฉันกับพี่นวลวันนั้น บนรถไฟฟ้าหลังจากเสร็จจากการไปทำพันธกิจ และนั่ง BTS กลับมาอุดมสุข มันคือบทสนทนาที่พูดถึงประเทศอิสราเอลที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ ในระหว่างนั้นแอบอธิษฐานอยู่ในใจว่า (พระเจ้าถ้าเป็นน้ำพระทัยของพระองค์ขอให้ลูกได้มีโออกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้ไปประเทศอิสราเอล เพราะเป็นประเทศที่อยู่ในพระคัมภีร์)
เพราะว่าอยากจะไปเห็นเมืองเยรูซาเลมว่าจะสวยงามและเป็นเหมือนในพระคัมภีร์หรือไม่ คือเป็นอะไรที่มันโคตรจะตื่นเต้นเลยนะ คือนอนไม่หลับเลยตั้งแต่รู้ว่าจะได้ไปประเทศอิสราเอล
ในตอนนั้นก็คิดอย่างเด็ก อธิษฐานอย่างเด็กนะ เพราะหลายต่อหลายครั้งเราได้ยินข่าวความรุนแรง สงคราม นุ่นนี่นั่นหลายอย่างจากประเทศอิสราเอลนี้ คืออารมณ์เหมือนเราอยู่กรุงเทพ ถ้ามีคนชวนไปยะลา ปัตตานี หรือสามจังหวัดชายแดนใต้ ในหัวเราคือเขตพื้นที่สีแดง ระเบิด การต่อสู้นุ่นนี่นั่น จิตใจก็เเบบกลัวแล้วอ่ะ แต่ทั้งที่ยังไม่เคยไปไรงี้
แต่สถานที่พื้นที่สีแดงนั้นมีหลายอย่างที่คุณคาดคิดไม่ถึง และมันก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น เพราะเคยมีโอกาสไปเยือนถิ่นยะลามาแล้ว น่ากลัวไหมก็มีบ้างแต่ประชาชนก็ยังคงดำรงชีวิตอยู่ และเช่นเดียวกันกับประเทศอิสราเอลค่ะ ตอนแรกมีแต่คนทักท้วงว่า เอ้ยยยยยยจะไปจริงหรอ ไม่กลัวหรอ ไม่กลัวหรอ
เราเลยบอกไปว่า จะกลัวทำไมถ้าพระเจ้าอนุญาติให้ไปพระองค์จะดูแลเราเอง เพราะการขอวีซ่าไปประเทศนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย สำหรับคนธรรมด๊าธรรมดาอย่างเราที่เดินเรื่องเอง ยื่นเอกสารเองทุกขั้นตอน แต่อาจจะง่ายกว่าเยอะถ้าเราจ้างบริษัททัวร์เขาทำให้ ยื่นเอกสารให้ทุกขั้นตอนอะไรแบบนั้น แต่!!!!!!!!!!!!!!!!
เราทำเองค่ะ555+ ทำด้วยความเชื่อ และการอธิษฐาน
1
และแน่นนอนว่าการเดินทางในครั้งนี้ มันจะต้องมีอุปสรรคอย่างแน่นอน นั่นก็คือได้บทเรียนเยอะมากก่อนที่จะได้เดินทางไป และแถมคือก่อนที่จะได้เข้ารับปริญญาบัตร อ๊ะๆๆๆๆๆ สงสัยไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉลองโดยการเป็น "อีสุกอีใสจ้า" เริศมากแม่!!!
ก่อนวันซ้อมใหญ่ 1 สัปดาห์ ก่อนวันรับจริง 2 สัปดาห์ และช่วงเวลา 1-2 สัปดาห์เนี่ยแหละที่โคตรโหดร้าย
คือต้องไปยื่นเอกสารเองที่ สถานทูตเอง คือมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดทั้งกายและใจมากเพราะในตอนนั้น สภาพจิตใจย่ำแย่มาก คือวิ่งออกกำลังกายเพื่อที่ว่าจะได้ใส่ชุดครุยถ่ายรูปสวยๆไรงี้ แต่พอมาเจอแบบนี้ พูดได้คำเดียวว่า ฮาเลลูยา ขอพระเจ้าเยียวยารักษาจิตใจภายใต้สถานการณ์นี้ (อีสุกอีใส)
การขอวีซ่าไปประเทศอิสราเอลสำหรับฉันมันช่างเป็นเรื่องอะไรที่ยุ่งยากมากกกกก ยากระดับปกติไม่พอเป็นอีสุกอีใสนั่นแหละ ไปถ่ายรูปที่ร้านแถวๆสถานทูตอิสราเอลเพื่อแนบไปกับเอกสารการขอวีซ่านั้น คือรูปออกมาสวยงามมมมากค่ะ(ประชดนะ) เห็นครั้งแรกจะร้องไห้ น้ำตาคือตกในเพราะไรรู้ป้ะ คือเม็ดอีสุกอีใสมันขึ้นบนใบหน้าอันสวยงามของฉันอ่ะ ช่างภาพไม่มีการปรับแต่งรูปอะไรเลยค่ะ (ภาษาอิสาน เจ้าคือมาเฮ็ดบาปข่อยแท่ๆๆๆๆๆๆ) ตอนเเรกกะว่าจะไม่ให้ใครเห็น แต่กลัวทุกคนจินตนาการไม่ออก และไม่คิดว่านี่คือเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับคนทั่วไป คือเราก็คนทั่วไปนั่นแหละนะแต่อยากเอารูปมาให้ดูประกอบด้วยเลยละกันกลัวเข้าไม่ถึงฟิลของเราค่ะ คือมันแบบว่า ว้าวมากจริงๆ
 
ไว้รออ่านพาท II นะคะ
Chapter 2 ภาพจัดเต็มกันไปเล้ยยย
#reallife
#Israel-that-I-don't-forget
#เรื่องจริงที่แสนโหดร้ายแต่ตอนท้ายสวยงาม
#TimeOfSeason
#Jamong4625
โฆษณา