2 พ.ย. 2021 เวลา 04:32 • ความคิดเห็น
ความสุขในโลก metaverse ของผู้สูงอายุ
2
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564
ท่านประธานาธิบดี มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แห่งประเทศเฟซบุ๊กออกมาแถลงการณ์ว่า กำลังจะสร้างโลกทิพย์ (metaverse) ข่าวนี้ทำให้โลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ
หลังจากอินเทอร์เน็ตเข้ามาครองโลกเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ทำให้โลกเปลี่ยนไปเป็นเหมือนในหนังวิทยาศาสตร์ที่เคยคิดว่าไม่เป็นจริง ปัจจุบันคนที่อยู่คนละโลกซีกโลกสามารถพูดคุยกันแบบเห็นหน้าได้แล้ว การซื้อของไม่ต้องจ่ายเงินกระดาษ การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไม่ต้องส่งเป็นเอกสารหนาเป็นปึกอีกต่อไป มนุษย์สามารถพูดคุยติดตามข่าวสารผ่าน Social media ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น facebook line zoom whatsapp โดยเฉพาะโลกเฟซบุ๊ก คนนิยมมากที่สุด มีคนเกือบ 3,000 ล้านคนทั่วโลกเข้ามาสิงอยู่ในโลกใบนี้
1
แต่จู่ ๆ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ออกมาบอกว่าจะสร้างโลกใหม่ที่ใหญ่กว่าโลกเฟซบุ๊ก โดยจะสร้างโลก metaverse ขึ้นมา คำนี้มาจากการเอาคำสองคำมารวมกัน meta หมายถึง เสมือนจริง verse หมายถึง universe หรือ จักรวาล อาจจะแปลว่า จักรวาลเสมือนจริง หรือ โลกเสมือนจริง เหมือนสร้างโลกทิพย์อีกใบหนึ่งมาซ้อนทับกับโลกจริง ซึ่งโลกทิพย์นี้ ไม่ได้แค่อ่าน หรือ ดูได้อย่างเดียว แต่สามารถทำให้คนเราเข้าไปสัมผัสได้จริง ๆ เหมือนในตัวอย่างคลิบวิดิโอที่มาร์คนำเสนอ ที่มีผู้หญิงสองคนเพื่อนกัน คนหนึ่งอยู่เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น แต่สามารถไปเที่ยวคลับที่อยู่ไกลถึงไมอามี่ ประเทศอเมริการ่วมกับเพื่อนอีกคน
1
มาร์คบอกว่าโลก metaverse นี้จัดทำขึ้นสำหรับคนรุ่นใหม่ มุ่งกลุ่มเป้าหมายคนอายุน้อยให้เข้ามาใช้งาน อาจจะเป็นเพราะเฟซบุ๊กตอนนี้มีแต่คนแก่เข้ามาขิงกัน แล้วไม่ค่อยมีสาระ เต็มไปด้วยโฆษณา คนรุ่นใหม่ หรือ เด็ก ๆ เบื่อหนีไปเล่นอย่างอื่นเช่น TikTok กันแล้ว
แต่ฉันว่ามาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก คิดผิด โลก metaverse นี้เหมาะกับมนุษย์ป้า มนุษย์ลุงในอนาคต แบบฉันและเพื่อน ๆ มากกว่า
เหตุผลที่คิดแบบนี้เพราะจากประสบการณ์ตัวฉันเอง หลังเกษียณฉันกับเพื่อน ๆ ชอบเดินทางท่องเที่ยว บางครั้งซื้อทัวร์ บางครั้งจัดไปกันเอง สังเกตว่าทริบทัวร์ต่างประเทศส่วนใหญ่ที่ฉันไปเที่ยวมา ลูกค้าเป็นผู้สูงอายุ เพราะคนวัยนี้มีเงินและมีเวลา ตั้งแต่เกิดโรคโควิดระบาด 1-2 ปีมานี้ ทำให้ผู้สูงวัยต้องจับเจ่าอยู่แต่บ้าน ทัวร์ที่ซื้อไว้ก็ถูกเท หรือไม่ก็เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปนาน ๆ คนกลุ่มนี้อายุมากขึ้นคงเดินทางไปมาลำบาก เพราะสุขภาพร่างกายเป็นอุปสรรค คงจะได้อาศัยโลกทิพย์นี้แหละถ้าเป็นจริง
ต่อไปผู้สูงอายุเวลาอยากไปท่องเที่ยวอาจจะเข้าโลก metaverse ไปเที่ยวในสถานที่อยากไป ถ้าอยากไปน้ำตกไนแองการา หรือ ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าลอนดอนอายที่อังกฤษ ก็ไปได้ โดยไม่ต้องนั่งเครื่องบินนานเป็นสิบ ๆ ชั่วโมง หรือ คิดถึงเพื่อนที่อยู่ห่างไกล อยากไปนั่งเล่นหมากรุกกับเพื่อนเก๋ารุ่นเดียวกันที่อีกซีกโลกหนึ่งก็ได้ ตามตัวอย่างที่เห็น ในตอนหนึ่งของคลิบนี้ที่มีคนแก่สองคนนั่งเล่นหมากรุกกัน คนหนึ่งเป็นกายทิพย์ คนหนึ่งเป็นคนจริง
1
ตอนนี้ทั่วโลกเข้าสู่ยุคผู้สูงวัย คนมีอายุยืนยาวมากขึ้น เนื่องจากระบบสาธารณสุขดีขึ้น สวนทางกับการเกิดของเด็กกลับลดลงเพราะคนหนุ่มสาวอยู่เป็นโสดกันมากขึ้น หรือ คู่แต่งงานไม่อยากมีลูกเพราะเป็นการเพิ่มภาระและค่าใช้จ่าย
ถ้าคิดว่าผู้สูงอายุตามไม่ทันเทคโนโลยีใหม่เช่นนี้ แต่ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ควรเอาวิกฤติเป็นโอกาส เป็น gap ว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถพัฒนาคนกลุ่มนี้ให้ตามทัน เหมือนเรื่องเล่าการตลาดที่คลาสสิคเรื่องนี้ บริษัทขายรองเท้าแห่งหนึ่งส่งเซลล์แมนขายรองเท้าสองคนไปสำรวจตลาดในประเทศอาฟริกาใต้ คนแรกกลับมาบอกเจ้านายว่าคงขายรองเท้าไม่ได้หรอกเพราะคนที่นั่นไม่ใส่รองเท้าเลย ในขณะที่คนที่สองตื่นเต้นมากบอกว่า นี้แหละโอกาสที่จะทำให้ได้ขายรองเท้าในประเทศนี้
โลก metaverse คงทำให้การดูหนังดูละครสนุกมากขึ้น เพราะคนดูสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในฉากหนัง เช่น โฮมทาวน์ ชะชะช่า ซีรีส์เกาหลีสุดฮิตเพิ่งจบไป ถ้าขณะดูหนังเรื่องนี้แล้วเราสามารถเข้าไปเดินเล่นชิล ๆที่ตลาดหมู่บ้านกงชิน แวะดื่มกาแฟดริปที่ร้านกาแฟชื่อยาวที่สุดในโลก ร้านกาแฟตอนกลางวันและเบียร์ในคืนเดือนหงาย พอตกเย็นไปนั่งเหงา ๆ เหม่อมองดูทะเลหน้าบ้านหัวหน้าฮง คงจะฟินน่าดู
ในที่สุด ฉันก็ได้อยู่ร่วมสมัยกับ โลก metaverse คงต้องพัฒนาตัวเองเรียนรู้วิชาแปลงร่างเป็นกายทิพย์ เพื่อเตรียมตัวขึ้นยานแม่ metaverse
1
โลกตอนนี้ไปไกลเกินกว่าจินตนาการแล้ว
อ้อยคราฟต์ นักเขียนวัย Yold
รักการอ่าน ชอบการเขียน
และชอบปลูกกุหลาบ
1
ภาพจากคลิปแถลงข่าวของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
บทความที่ 24/1,000
โฆษณา