2 พ.ย. 2021 เวลา 08:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี แบบได้เป็นเจ้าของบริษัทระดับ TOP
อยากลงทุนในหุ้น “Blue Chip” อันดับต้น ๆ ของโลก เช่น Microsoft, Amazon หรือ Apple วิธีแรกที่เราสามารถทำได้นั่นคือการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทนั้นโดยตรงผ่านตลาดหุ้น แต่การจะซื้อหุ้นเหล่านั้น จะต้องใช้เงินจำนวนมากทีเดียว และยังมีความยุ่งยากเรื่องการเปิดบัญชีในต่างประเทศ
2
การลงทุนผ่านกองทุนรวมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำได้เช่นกัน แถมมีข้อดีตรงที่ลงทุนง่าย ใช้เงินไม่เยอะ ยิ่งถ้าใครต้องการลดหย่อนภาษีด้วยแล้ว ลองมองหากองทุนรวม RMF ที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทระดับโลกก็ถือว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจทีเดียว
หุ้น “Blue Chip” คืออะไร ทำไมต้อง Blue Chip??
Blue Chip คือ หุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานดี มีความมั่นคงทางการเงิน และเติบโตต่อเนื่อง ที่มาของคำว่า Blue Chip มาจากเกม Poker ที่เราจะต้องนำเงินไปแลกเป็นชิพเพื่อเล่นเกม ซึ่งชิพที่มีมูลค่ามากที่สุดคือชิพสีน้ำเงิน จึงเป็นที่มาของคำว่า “Blue Chip” นั่นเอง
ข้อดีของการลงทุนหุ้น “Blue Chip” ระดับโลก
1.เป็นหุ้นที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ต่าง ๆ หรือเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง หุ้นเหล่านี้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยในท้ายที่สุด หุ้นเหล่านี้สามารถรอดจากวิกฤตและพลิกกลับมามีกำไรได้เท่ากับช่วงก่อนเกิดวิกฤต หรืออาจมากกว่าเลยด้วยซ้ำ
2.มีโอกาสเติบโตสม่ำเสมอในระยะยาวแม้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นขาลง แต่ในระยะยาวหุ้นเหล่านี้โดยส่วนใหญ่สามารถทำกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีพื้นฐานธุรกิจอันแข็งแกร่ง และมักเป็นธุรกิจที่สามารถครองใจลูกค้า เรียกว่าเป็น “Top of Mind” เวลาผู้คนนึกถึงสินค้าประเภทนั้น ๆ เช่น เราจะนึกถึง iPhone เป็นอันดับแรกเวลาพูดถึงสมาร์ทโฟน
3.มีสภาพคล่องสูงหุ้นที่เป็น Blue Chip มักได้รับความนิยมในวงกว้าง ทำให้จะมีปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างสูงจากนักลงทุนหลากหลายกลุ่ม
เป็นเจ้าของหุ้น Blue Chip พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษี ด้วยกองทุน KT-WEQ RMF
KTAM ขอแนะนำกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-WEQ RMF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นระดับโลกที่มีขนาดใหญ่ ผ่านกองทุนหลัก
AllianceBernstein - Low Volatility Equity Portfolio ชนิด Class I (USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนรวม โดยมีเป้าหมายในการเติบโตของเงินในระยะยาว ด้วยการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีความผันผวนและความเสี่ยงในการปรับตัวลงในอนาคตในระดับที่ต่ำ ด้วยเงินเริ่มต้นในการซื้อหน่วยลงทุนที่ 500 บาทเท่านั้น ก็สามารถลงทุนในหุ้น “Blue Chip” ได้
นอกจากนี้ ยังสามารถรับสิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมจำนวนเงินกับกลุ่มลดหย่อนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ได้แก่ SSF, PVD, กบข., กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน, กอช. และประกันบำนาญ อีกทั้งกำไรจากการขายกองทุน RMF จะได้รับการยกเว้นภาษีอีกด้วย
หุ้นระดับ TOP ของโลกที่ KT-WEQ RMF ลงทุน
เกริ่นถึงหุ้น “Blue Chip” มาเยอะแล้ว หุ้นที่ทาง KT-WEQ ลงทุน (ข้อมูลจาก Fund Fact Sheet กองทุนหลัก AllianceBernstein - Low Volatility Equity Portfolio ชนิด Class I ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564) รู้หรือไม่ว่าใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. Microsoft
บริษัทเป็นผู้ผลิตและพัฒนา Software ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Windows ตระกูล Microsoft Office หรือ OneDrive สำหรับเก็บข้อมูลบนระบบ Cloud เป็นต้น
2. Alphabet
ชื่อนี้หลายคนเห็นแล้วอาจงงว่าคือบริษัทอะไร แต่ถ้าพูดว่า “กูเกิล” ขึ้นมา คงจะเก็ทขึ้นมาทันที เพราะว่า Alphabet เป็น Holding Company ซึ่งถือหุ้นในหลาย ๆ บริษัท รวมถึง Google ด้วย
3. Amazon
ก่อตั้งในปี 1994 โดย Jeff Bezos เริ่มต้นธุรกิจจากการขาย eBook และขยายธุรกิจในด้าน E-Commerce ในเวลาต่อมา โดยในปัจจุบัน Amazon เป็นธุรกิจที่ทำ E-Commerce รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ
4. Roche
บริษัทผลิตยาและเวชภัณฑ์สัญชาติ Switzerland ก่อตั้งขึ้นในปี 1896 โดย Fritz Hoffmann-La Roche หากพูดถึงผลิตภัณฑ์ของ Roche ที่ใกล้ตัวเราที่สุด นั่นก็คือชุดเครื่องตรวจ COVID-19
5. Apple
บริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ โดยมีผลิตภัณฑ์ยอดนิยมอย่าง iPhone, iPad, Mac เป็นต้น
สรุปจุดเด่นกองทุน KT-WEQ RMF
1. มีการกระจายความเสี่ยงในหุ้นทั่วโลก ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงให้มีความผันผวนน้อยกว่าดัชนีอ้างอิง MSCI World Equity Index
2. ลงทุนผ่านกองทุนหลักใช้ที่มีกลยุทธ์บริหารกองทุนแบบ Active Management คือ การเอาชนะดัชนีอ้างอิง โดยกองทุนนี้จะคัดเลือกหุ้นดีทั่วโลกเพื่อสร้างโอกาสเพิ่มผลตอบแทน
3. เงินลงทุนสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้พึงประเมิน และเมื่อรวมจำนวนเงินที่ซื้อ RMF + SSF + PVD/กบข./กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน + กอช. + ประกันบำนาญ แล้วไม่เกิน 500,000 บาท
ทั้งนี้ ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญของกองทุน คือ ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์/ ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุน และ ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน โดยกองทุนนี้ มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน KT-WEQ RMF
สำหรับใครที่อยากสร้างโอกาสรับผลตอบแทนกับบริษัทระดับ Top ของโลกเหล่านี้ที่มีความมั่นคงสูง พร้อมได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ด้วยเงินเริ่มต้น 500 บาท ต้องบอกเลยว่า KT-WEQ RMF เป็นกองทุนที่น่าสนใจ เรียกว่ายิงปืนนัดเดียว ได้นก 2 ตัว
รายละเอียดกองทุนเพิ่มเติม คลิก https://www.ktam.co.th/rmf-ltf-fund-detail.aspx?IdF=13
หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ (Fund Fact Sheet) ของกองทุน คลิกhttps://www.ktam.co.th/document_fund/fundfactsheet/Factsheet_th_KT-WEQ%20RMF.pdf
สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต KTC หรือใช้คะแนน KTC FOREVER ทุกๆ 1,000 คะแนน แทนเงินลงทุน 100 บาท ได้ด้วยนะ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ บลจ. กรุงไทยและบัตรเครดิต KTC กำหนด และยังสามารถลงทุนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ง่าย สะดวก ปลอดภัย อีกด้วย
ดาวน์โหลดเลยวันนี้ :
คำเตือน
ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุน RMF และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน อนึ่ง ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนที่กรมสรรพากรกำหนด และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับพร้อมเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฏากร
2
ศึกษารายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ www.ktam.co.th
บลจ.กรุงไทย โทร 02-686-6100 กด 9 หรือ ธนาคารกรุงไทย และ ผู้สนับสนุนการขาย (ถ้ามี)
โฆษณา