2 พ.ย. 2021 เวลา 08:28 • ข่าวรอบโลก
ปริศนาจีนไม่ยอมเปิดเมือง
ในเรื่องการรับมือกับโควิด เพราะเหตุใดจีนถึงสวนกระแสโลก ขณะที่ชาวบ้านเริ่มเปิดเมือง จีนยังยืนยันจะปิดประเทศต่อไป
5
ในขณะที่ชาวบ้านเปลี่ยนมาฉีดวัคซีน mRNA จีนยังไม่ยอมอนุมัติการใช้วัคซีน mRNA
1
และในขณะที่ทุกคนบอกว่าต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิด จีนยังคงยืนหยัดในนโยบาย Zero Covid ต้องกดตัวเลขให้เป็นศูนย์ให้ได้แม้ในการระบาดรอบใหม่ในปัจจุบัน
1
คำถามแรกคือ จีนจะเปิดเมืองเมื่อไหร่?
1
ศ.เกาฟู่ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคของจีน ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ถอดความได้ว่า จีนจะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะเปิดประเทศต่อเมื่อฉีดวัคซีนได้เกิน 85% ของประชากรในต้นปีหน้า
3
ความหมายก็คือ ภายในปีนี้ (สองเดือนที่เหลือ) จีนจะยังคงไม่เปิดประเทศอย่างแน่นอน ดังนั้น ถึงไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน ก็ยังไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมา
โอกาสจะเปิดประเทศได้เร็วที่สุดคือ ต้นปีหน้า และถ้าเปิดจริง คงใช้วิธีค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการ ไม่ได้เปิดแบบปลดล็อคทันทีทันใด
3
และเงื่อนไขคือต้องดูสถานการณ์การฉีดวัคซีน ซึ่งต้องฉีดเข็ม 2 ให้คลอบคลุมมากกว่า 85% ของประชากร เพื่อจะได้กดการระบาดและกดอัตราการป่วยหนักและการตาย
4
แต่ถึงจะฉีดเกิน 85% ก็น่าจะยังมีคำถามมากมาย เช่น คนที่ฉีดไปนานแล้ว ต้องเริ่มฉีดใหม่ไหม ถึงตอนนั้นจะมีเชื้อกลายพันธุ์อีกไหม ประสิทธิภาพวัคซีนจีนต่อเชื้อกลายพันธุ์ในเวลานั้นเป็นอย่างไร มั่นใจได้แน่นอนไหมว่าเปิดแล้วจะไม่ระบาดหรือสูญเสียรุนแรง ซึ่งน่าจะมีการทดลองทยอยเปิดบางเมืองบ้างพื้นที่ชิมลางดูก่อน
6
หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ปีหน้าจีนจะมีงานใหญ่ระดับชาติ 2 งาน คือ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในเดือนมีนาคม ซึ่งจีนประกาศชัดแล้วว่าจะยังคงใช้มาตรการสาธารณสุขที่เข้มงวด และเปิดรับเฉพาะนักกีฬา ไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
9
กับอีกงานสุดสำคัญคือ การประชุมครั้งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในรอบ 5 ปี ซึ่งจะจัดในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า
1
สำหรับรัฐบาลจีนแล้ว ในปีหน้าความมั่นคงจะมาเป็นอันดับหนึ่ง รัฐบาลจีนย่อมจะเลือกแนวทาง "Zero Covid" ไม่ยอมเปิดประเทศต่อไป หากถึงตอนนั้นยังคงมีความเสี่ยงเรื่องการระบาดในวงกว้างและการป่วยหนักหรือตายในอัตราสูง จากปัญหาประสิทธิภาพของวัคซีนหรือปัญหาเชื้อกลายพันธุ์
2
ปริศนาต่อมา ก็คือ ทำไมจนถึงตอนนี้จีนยังคงไม่ยอมอนุมัติการใช้วัคซีน mRNA?
เรื่องวัคซีน mRNA นี้ไม่ใช่ว่าจีนไม่มีของ เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Fosun ได้สิทธิจากบริษัท BioNTech ของเยอรมัน (เจ้าเดียวกับที่ร่วมพัฒนาวัคซีนไฟเซอร์) โดย Fosun พร้อมผลิตและกระจายวัคซีน mRNA ในจีนทันที ขอเพียงรัฐบาลจีนเปิดไฟเขียว
3
คำตอบคงไม่ใช่ว่าจีนไม่ไว้เนื้อเชื้อใจในความปลอดภัยของเทคโนโลยีใหม่ เพราะ ศ.เกาฟู่เอง ก็ยังให้สัมภาษณ์ถึงความสำคัญที่จีนต้องคิดค้นวัคซีนด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4
เบื้องหลังการชะลอไฟเขียววัคซีน mRNA ของจีนน่าจะมี 3 ปัจจัย ได้แก่
1
หนึ่ง ต้องการช่วยบริษัทซิโนฟาร์มและซิโนแวค ซึ่งบริษัทแรกเป็นรัฐวิสาหกิจ ส่วนอีกบริษัทก็ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน รัฐบาลจีนคงหวังจะช่วยให้การผลิตและกระจายวัคซีนเชื้อตายถึงจุดคุ้มเม็ดเงินมหาศาลที่ลงทุนไป ก่อนที่ในตลาดจะมีวัคซีน mRNA มาเป็นคู่แข่ง
35
จีนอาจเลือกใช้วัคซีน mRNA มาฉีดเป็นเข็ม 3 แต่จีนจะยังไม่เข็นออกมาใช้ จนกว่าจะฉีดเข็ม 2 ได้ 85% ของประชากรเรียบร้อยก่อน เพราะไม่มีเหตุผลที่จะต้องรีบร้อนให้คนสับสนและตั้งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนเชื้อตาย หรือให้คนเกิดความลังเลที่จะฉีดวัคซีนเชื้อตาย แถมในจีนเองก็ยังไม่มีการระบาดใหญ่ในขณะนี้ และยังไม่คิดเปิดประเทศอยู่แล้วด้วย
11
ปัจจัยที่สองที่ชะลอ mRNA คงเกี่ยวกับการทูตวัคซีนด้วย จีนย่อมไม่ต้องการดิสเครดิตวัคซีนเชื้อตายของจีนเอง หลีกเลี่ยงที่จะมีกระแสว่า ขนาดจีนเองยังเปลี่ยนมาใช้ mRNA
10
ส่วนปัจจัยสุดท้าย จีนคงต้องการรอการพัฒนาวัคซีน mRNA ของจีนเอง ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงทดลอง Phase 3 หากสำเร็จ ก็จะได้อนุมัติวัคซีน BioNTech และเริ่มฉีดเป็นเข็ม 3 ปูพรมพร้อมกันกับวัคซีน mRNA ของบริษัทจีนเอง ตอนนั้นจีนก็จะปลุกกระแสชาตินิยมได้ว่า ไม่ใช่มีทางเลือกแต่วัคซีน mRNA ของฝรั่ง (ที่บริษัทจีนได้สิทธิมาผลิตกระจายในจีน) แต่ยังมีวัคซีนmRNA ที่คนจีนคิดและพัฒนาเองด้วย
8
สำหรับปริศนาข้อสุดท้าย เหตุใดจีนจึงยังยืนหยัดนโยบาย Zero Covid ซึ่งบัดนี้น่าจะเหลือจีนเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยังดึงดันแนวทางนี้ และเป็นทางเลือกที่มีต้นทุนทางเศรษฐกิจที่สูงมาก
1
คำตอบอยู่ที่สามความพิเศษของจีน
5
พิเศษแรกคือ จีนเป็นตลาดขนาดใหญ่ สามารถพึ่งพาตลาดภายในได้ นักท่องเที่ยวจีนก็เที่ยวและบริโภคภายในจีนเอง เศรษฐกิจก็ยังหมุนเวียนพอไปได้ แม้เศรษฐกิจจะไม่ดี แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่จนรับไม่ไหว
5
พิเศษที่สอง คือ รัฐบาลจีนต้องการทดลองการอยู่ให้ได้ถ้าต้องปิดประเทศ ใช้โควิดเป็นโอกาสในการเปลี่ยนโมเดลเศรษฐกิจมาพึ่งพาภายในประเทศมากขึ้น ลดการพึ่งพาภายนอกลง
17
ท่ามกลางความขัดแย้งในการเมืองโลก จีนเริ่มเตรียมว่า ถ้าตะวันตกเลิกคบจีน ทำสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี หรือไปถึงคว่ำบาตรจีน หรือถึงจุดเกิดสงครามในภูมิภาคที่ตัดขาดการค้าโลก หรือบีบให้จีนต้องปิดประเทศ จีนจะอยู่ด้วยตัวเองได้อย่างไร โควิดเป็นโหมดทดลองให้แก่รัฐบาลจีน
23
พิเศษที่สาม คือ จีนประเมินแล้วว่า เมืองใหญ่ของจีนมีประชากรหนาแน่นมาก และทรัพยากรด้านสาธารณสุขของจีนไม่สามารถรับมือกับการระบาดใหญ่ได้ หากเกิดการระบาดในเมืองใหญ่ของจีนจริง จะคล้ายกับสถานการณ์การระบาดในอินเดีย ที่ยอดผู้สูญเสียจะมากมายจนรัฐบาลจีนและประชาชนจีนยอมรับไม่ได้ และจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความศรัทธาต่อรัฐบาลโดยตรง
9
พูดอีกอย่างคือ เศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลจีนยังพออยู่ได้ เพราะตอนนี้ใครๆ ก็เจ็บตัวกันหมด แต่ถ้าเกิดระบาดหนักและล้มตายกันอย่างมากมายแบบในอินเดีย รัฐบาลจีนอยู่ไม่ได้แน่นอน
10
ศ.เกาฟู่ กล่าวในบทสัมภาษณ์ว่า นโยบาย Zero Covid ของจีนเป็นนโยบายซื้อเวลาเพื่อสาม “รอ” ได้แก่ รอฉีดวัคซีนให้ครบประชากร รอการคิดค้นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รอการคิดยารักษาที่มีประสิทธิภาพ
3
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ผู้นำจีนเลือกไม่อยู่ร่วมกับโควิดในขณะนี้ จนกว่าจะมั่นใจได้ว่า เมื่อเปิดประเทศแล้ว จะสามารถควบคุมยอดผู้ติดเชื้อและยอดการตายได้อย่างแน่นอน แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ ก็ยังไม่ยอมเสี่ยงที่จะคลายล็อคแม้ในปีหน้า ซึ่งจะมีการจัดประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในรอบ 5 ปี
6
ดังนั้น เปิดไม่เปิดเมืองจึงขึ้นกับ “สามรอ” ของ ศ.เกาฟู่ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ ถ้ายังมาไม่ถึง ก็อย่าแปลกใจที่จีนจะยังคงยืนหยัดนโยบาย Zero Covid ต่อไป แม้ทั่วโลกจะคลายล็อคกันแล้ว เพราะสำหรับรัฐบาลจีน ความมั่นคงมาก่อนปากท้อง และสาธารณสุขมาก่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 2022 ที่จะสำคัญยิ่งในการเมืองจีน
15
โฆษณา