Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หุ้นพอร์ทระเบิด
•
ติดตาม
2 พ.ย. 2021 เวลา 15:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วิเคราะห์หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ( AMATA WHA ROJNA) พร้อมกับเกล็ดความรู้เรื่อง NAV ตัวเลขสำคัญที่ใช้หามูลค่า
1
หุ้นกลุ่มกลุ่มนิคม เป็นหนึ่งในทรีม Reopening play ที่ถูกดันขึ้นมาจากกลุ่มทรีมเปิดเมืองพร้อมๆกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ห้าง สายการบิน และโรงแรม
แต่สังเกตไหมว่าหลังจากที่ท่านนายกประกาศเปิดเมืองเมื่อช่วงปลายเดือน ตุลาคม หุ้นหลายๆกลุ่มข้างต้นโดน Sell on fact
ทำไมมันแข็งกว่าเพื่อนๆ ??
หรือเค้ามองภาพนักธุรกิจ/นักลงทุน จะเข้าประเทศมาก่อนนักท่องเที่ยว ??
วันนี้ขอมาแชร์ไอเดียร์เล็กๆน้อยๆในหุ้นกลุ่มนี้นะครับ
หุ้นในกลุ่มที่น่าสนใจ
AMATA - พัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีบริษัทในกลุ่มดำเนินธุรกิจด้านสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการหลังการขาย ทั้งน้ำประปา กระแสไฟฟ้า และจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น
WHA - บริษัทฯ เป็นผู้นำในการให้บริการแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดยสามารถจำแนกส่วนธุรกิจได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจพัฒนาและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Logistics Hub) ธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม (Industrial Development Hub) ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities & Power Hub) และธุรกิจให้บริการด้านดิจิทัล (Digital Platform Hub) อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีนโยบายในการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ฯ (WHART HREIT และ WHABT) เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการในอนาคตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทรัสต์ฯ และกองทุนรวมฯ
ROJNA - พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปนิคมอุตสาหกรรมและธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า ธุรกิจกิจผลิตน้ำเพื่ออุตสาหกรรม
ใครมีส่วนไหนบ้างเท่าไหร่ แอดมีบทความเก่าๆเขียนไว้พอสมควร ลองกลับไปอ่านดูนะ
- ภาพรวมกลุ่มนิคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จะมี 4 ประเทศ ที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ คือ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดเนเซีย
1
อินโด ตัดออกก่อน เพราะด้วยประเทศที่มีประชากรค่อนข้างเยอะ + โซนนั้นมีภูมิประเทศเป็นเกาะการตั้งโรงงานจะเน้นเพื่อการ support ใน zone นั้นๆมากกว่า
มาเลเซีย มีภูมิประเทศใกล้กับสิงค์โปร์ธุรกิจเด่นๆจะเป็นพวก Etron และสินค้า IT แต่ระบบ logistic หากส่งไปยังประเทศ Mainland สำคัญทางธุรกิจของจีน ยังจำเป็นต้องขนส่งทางเรือ การทำ Cross Boarder จึงทำได้ค่อนข้างยาก
จึงเหลือ 2 ประเทศหลักคือไทยกับเวียดนาม
1
ประเทศไทยมีจุดเด่นเรื่อง ราคาที่ดินที่ถูกกว่าเวียดนาม Infrastructure พร้อมมากกว่า แต่ก็มีเสถียรภาพทางการเมืองที่ต่ำกว่าเวียดนาม และ มีประชากรวัยแรงงานที่น้อยกว่าเวียดนาม ดังนั้นจึงเห็นได้จากรูปว่า ทั้งไทยและเวียดนามจะเน้น ชิ้นส่วนเหล็ก พลาสติก ยาง เป็นส่วนใหญ่ แต่จุดต่างคือ ไทยเน้นยานยนต์ด้วย
แต่เวียดนามเป็น garment เนื่องจากในเวียดนามค่าแรงต่ำกว่าไทยนั่นเอง
ก็ดีกันในคนละมุมระหว่างไทยและเวียดนาม แต่โชคดีของคนไทยคือหุ้นนิคมในตลาดหุ้นไทยนั้นมีการลงทุนใน 2 ประเทศนี้อยู่แล้ว
- ปัจจัยเร่งในการเติบโตของกลุ่มนี้
ขออนุญาตแชร์ในมุมมองส่วนตัวนะครับนอกจากเรื่อง Pend Up demand จากการหายไปในช่วงโควิดแล้วนั้น แอดยังมองว่ามีอีก 4 ปัจจัยน่าลุ้นสำหรับหุ้นกลุ่มนิคม
1.การสนับสนุนจากภาครัฐ เพราะโจทย์หลักปีหน้าคือเรื่องกระตุ้น GPD จากสูตร GPD คือ I + G + C + (X-M) นั้นหมายความหว่าหนึ่งวิธีคือกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน (ตัว I) ซึ่งอาจจะมีนโยบายใหม่ๆมากระตุ้นในส่วนนี้ก็เป็นได้
2.ค่าเงินที่ค่อนข้างอ่อน อย่าลืมว่าในเงินที่เป็นเงินสกุลหลัก การมาลงทุนในประเทศที่ค่าเงินอ่อนลงนั้นในแง่ทางเศรษฐศาสตร์มันคือการซื้อของเท่าเดิมในราคาที่ถูกลงนั้นเอง
3.การย้ายฐานการผลิตจากจีน ทั้งก่อนหน้าที่โดน Tradewar รวมถึงมี Regulation ที่ค่อนข้างโหดร้ายในช่วง 1 ขวบปีที่ผ่านมาจากทางรัฐบาล ก้มีโอกาสที่นักลงทุนจะหันมาลงทุนในภูมิภาคนี้มากขึ้น
4.แนวโน้มการเติบโตของ EEC จากการเตรียม การ PR Roadshow เขตพิเศษ ECC จากภาครัฐที่มีจุดขายใหม่คือ สนามบินอู่ตะเภา และ รถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน ที่ดูทางรัฐบาลเองคาดหวังไว้สูงว่าจะเป็นตัวที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
ก็ถือว่าเป็นหุ้นที่น่าลุ้น ถ้าเทียบกับราคาที่ยัง laggard และ story ต่างๆ ที่รออยู่ข้างหน้า
แม่ UPSIDE อาจจะดูไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ดูว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจเหมือนกันสำหรับสาย Momentum play
ลองทำการบ้านดูนะครับ
เกล็ดความรู้
NAV คือ อะไร ?
NAV ย่อมาจาก Net Asset Value หรืออธิบายง่ายๆก็คือ ทรัพย์สินสุทธิ ทั้งหมดที่สิ่งๆนั้นมี ทรัพย์สินสุทธิทั้งหมดนั้น ผ่านการนำมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ลบกับหนี้สินทั้งหมด หรือเขียนให้อ่านง่าย ๆ ว่า ทรัพย์สิน (Assets) – หนี้สิน (Liabilities)
โดยปกติแล้ว NAV จะใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการกองทุนรวมหรือ ETF รวมถึงสินทรัพย์ต่างๆในกลุ่มที่มีสินทรัพย์มาก ถ้าเป็นหุ้นเราจะเรียกหุ้นประเภทนี้ว่าหุ้นสินทรัพย์มาก (Asset Play)
ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม มันคือมูลค่ารวมของสินทรัพย์ทั้งหมดแล้วเค้าขายได้มูลค่าเท่าไหร่ จะเอามาหารต่อจำนวนหุ้น เกิดเป็น NAV ต่อหุ้น
ซึ่งไม่มีทางขายได้ทั้งหมดจริงๆ เพราะเค้าต้องเหลือสินทรัพย์เพื่อใช้บริหาร และที่ดินเพื่อเอาไปพัฒนา
แต่จุดน่าสนใจคือ ถ้าย้อนไปในปี 2555-2556 ตลาดมี Pend Up demand นิคมหลังน้ำท่วมเหมือนกันทำให้ช่วงนั้นตลาดเล่นจนราคาหุ้นเกือบไปเท่า NAV
ในขณะที่ 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดค่อนข้าง Discount กลุ่มนี้ที่ - 40 % จาก NAV
ซึ่งตรงนี้นักลงทุนต้องไปพิจารณาเองนะครับว่าควรจะขายกันในความถูกแพงเท่าไหร่
บทความนี้ไม่ได้ชี้นำนะครับเป็นเพียงการแชร์ไอเดียร์เท่านั้นนะครับผม ^^ สู้ๆ
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.05%
TFEX สัญญาละ 18-20
กับโบรคเกอร์
แนะนำหุ้นโดยที่ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาต
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
m.me/prberd
9 บันทึก
10
1
10
9
10
1
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย