3 พ.ย. 2021 เวลา 13:29 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หุ้นกู้ vs หุ้นสามัญ ต่างกันอย่างไร
โอกาสดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่องทางลงทุนนะคะ เพราะ ปตท.สผ. กำลังเปิดจำหน่ายหุ้นกู้ ซึ่งเป็นการจำหน่ายหุ้นกู้ดิจิตัล ครั้งแรกในเอเชีย แถมยังซื้อง่ายขายคล่องตลอด 24 ชม. ผ่านแอฟเป๋าตังค์ที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดีอีกด้วยค่ะ
ในส่วนของรายละเอียดผลิตภัณฑ์และการซื้อขาย สามารถเข้าดูที่ลิ้งนี้ได้เลยค่ะ
แต่บางท่านอาจยังสงสัยว่า แล้วหุ้นกู้คืออะไร ทำไมถึงได้รับความนิยม และมันต่างจากหุ้นสามัญอย่างไร มาเรียนรู้ไปด้วยกันเลยค่ะ
หุ้นกู้ (Bonds) คือ ตั๋วสัญญาใช้เงินระยะยาวประเภทหนึ่งที่ออกโดยผู้กู้ ซึ่งระบุว่าผู้กู้ ได้กู้ยืมเงินจำนวนหนึ่งจากผู้ให้กู้ หรือผู้ถือหุ้นกู้ โดยผู้กู้สัญญาว่าจะจ่ายคืนเงินจำนวนดังกล่าวในอนาคตและจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายงวดตามวันที่กำหนดไว้ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยผู้ถือหุ้นกู้จะมีสภาพเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทที่ออกหุ้นกู้นั่นเอง
1
หุ้นกู้ จัดเป็นหลักทรัพย์ที่ให้รายได้ประจำ เนื่องจากการจ่ายดอกเบี้ยและชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้นั้น ได้ระบุไว้แน่นอน ณ เวลาที่ออกและกำหนดเป็นจำนวนเงินคงที่ ตลอดอายุหุ้นกู้ ดังนั้นผู้ซื้อหรือผู้ถือหุ้นกู้จะทราบถึงกระแสเงินสดในอนาคตที่จะได้รับนับ จากวันที่ซื้อจนถึงวันครบกำหนดไถ่ถอนได้ค่ะ
หุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายจะต้องระบุข้อมูล ดังนี้
- อายุหุ้นกู้ หรือระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอน
- มูลค่าที่ตราไว้ หรือ มูลค่าเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน ซึ่งเป็นเงินต้นที่ผู้กู้ต้องชำระคืน ณ วันครบกำหนดไถ่ถอน โดยปกติจะเท่ากับ 1,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ยที่ระบุไว้บนใบหุ้นกู้ ซึ่งแสดงถึงร้อยละของมูลค่าที่ตราไว้ มักจะจ่ายเป็นรายปีหรือรายครึ่งปี
ส่วนหุ้นสามัญ (Common Stocks) หรือ หุ้นทุน คือ ตราสารทุนที่บอกถึงความมีส่วนร่วมในความเป็นเจ้าของในบริษัท ซึ่งออกโดยบริษัทมหาชนจำกัด ที่ต้องการระดมเงินทุนจากประชาชน
1
เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของในธุรกิจนั้น ๆ โดยตรง เช่น การมีสิทธิเข้าประชุมและลงคะแนนเสียงในที่ประชุม มีสิทธิร่วมตัดสินในปัญหาสำคัญในที่ประชุมผู้ถือหุ้น
และผลตอบแทนที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะได้โดยตรง ก็อย่างเช่น
- เงินปันผลจากกำไรในธุรกิจตามอัตราที่ที่ประชุมใหญ่กำหนด และไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัท และอาจไม่มีการจ่ายเงินปันผลเลยก็ได้
- เงินกำไรจากการขายหุ้น ถ้าหุ้นปรับตัวสูงขึ้นจากราคาที่ซื้อไว้
- สิทธิในการจองซื้อหุ้นใหม่ ในกรณีที่มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน
- ฯลฯ
โดยหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่มากกว่า 80% ของหุ้นนั้น เป็นหุ้นสามัญนี่เองค่ะ
สำหรับความแตกต่างระหว่างหุ้นกู้และหุ้นสามัญนั้น จะเห็นได้ชัดเจนให้ดูตอนที่เลิกบริษัท กล่าวคือ หากเกิดกรณีกิจการดำเนินการต่อไปไม่ไหวเป็นอันต้องเลิกกิจการ ผู้ถือหุ้นกู้จะมีสิทธิ์มาเรียกคืนเงินของตนเองก่อน เพราะว่าเป็นเงินกู้ยืม
แต่ผู้ถือหุ้นสามัญ จะเป็นรายสุดท้ายที่จะได้เงินคืน หรืออาจไม่ได้คืนเลยก็ได้ ถ้าบริษัทไม่มีจ่าย เนื่องจากผู้ถือหุ้นสามัญมีสถานะเดียวกันกับเจ้าของ หรือความเป็นเจ้าของบริษัทนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็แล้วแต่ ก่อนจะลงทุนใด ๆ ต้องไม่ลืมว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ต้องตรวจสอบข้อมูลกันดี ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ
โชคดีในการลงทุนทุกท่านค่ะ
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้กันเสมอค่ะ
🌷🌷❤❤🙏🙏🙏🙏❤❤🌷🌷

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา