3 พ.ย. 2021 เวลา 09:54 • ธุรกิจ
“Stress” ความเครียด อาการสำหรับกลุ่มคนยุคใหม่ มีที่มาจากการใช้ชีวิตที่ต้องตัดสินใจตลอดเวลา ในชีวิตแต่ละวัน
ความเครียด“Stress” ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีใครสนใจกับเรื่องนี้สักเท่าไรนักทั้งยังมองว่าเป็นเรื่องอะไรก็ไม่รู้ไม่ต้องนำมาใส่ใจ แต่เมื่อมองดูในปัจจุบันนี้ เรื่องนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยความเครียดนั้นได้มีการทำการวิจัย ทดลองต่างๆมากมายทั้งมีผลการวิจัยยืนยัน ไม่มีผลการวิจัยยืนยันมาแล้ว ว่าจะส่งผลร้ายต่อร่างกายคนๆหนึ่งได้มากกว่าที่คิดมากนัก
โดยความเครียดนั้นอาจแบ่งได้เป็นหลายประเภท เช่น ความเครียดเฉียบพลัน ความเครียดเฉียบพลันเป็นช่วงเวลา ความเครียดเรื้อรังที่อาจนำไปสู่ความผิดปกติของร่างกายและทางจิตใจได้
และในเมื่อความเครียดที่เกิดขึ้นนั้นเราได้เรียนรู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเลย จึงต้องหาวิธีป้องกันแม้จะเล็กน้อยแต่ก็พอจะช่วยได้อย่างเช่น การออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ การตั้งเป้าหมายเพื่อควบคุมสถาณการณ์ให้ดีเพื่อจัดการกรอบของความเครียด รวมถึงการปรึกษาจิตแพทย์เมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะความเครียดคือภัยร้ายที่เข้ามาสู้ร่างกาย และจิตใจอย่างเงียบๆ ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอาจกลายเป็นภัยเงียบที่คอยกัดกินตัวเราไปเรื่อยๆ
แบบนี้เราจึงควรรู้วิธีที่จะคลายเครียดไว้บ้างเพื่อช่วยในการบำบัดความเครียด ความกลัดกลุ้มใจ ลงบ้างเพื่อไม่ให้ส่งผลร้ายต่อร่างกาย
1.ออกกำลังกาย คลายเครีด โดยถ้ารู้สึกกำลังเครียดอาจเดินออกมายืดเส้น ยืดสายสัก10นาที แล้วค่อยกลับไปทำงานใหม่ วิธีนี้จะทำให้ฮอร์โมนเอนดอร์ฟีนทำงาน เพื่อช่วยในการหันเหความสนใจให้ไปทางอื่นบ้าง ช่วยให้ไม่จดจ่อกับความเครียดตรงหน้ามากเกินไป
2.นั่งสมาธิ ฝึกจิต โดยเมื่อคุณรู้สึกเครียด ความคิดในหัวจะวิ่งวนอยู่ตลอดเวลาโดยการนั่งสมาธิจะทำให้ตัวเราไม่มีอะไรทำนอกจากคิดวนเวียนอยู่แต่ปัญหาแต่ต้องนั่งหลับตาลงอยู่อย่างนั้น แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเราจะมุ่งไปที่การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก และส่งผลให้ชีพจรเต้นลงอย่างช้าๆ ทำให้เราลืมเรื่องเครียดและมีสมาธิเพิ่มขึ้นอย่างมาก
3.จัดสรรเวลาในชีวิตประจำวัน Work Life Balance นี่คือคำพูดที่ชาวญี่ปุ่นที่พูดขึ้น เพราะการจัดสรรเวลาอย่างลงตัวจะช่าวยให้ชีวิตส่วนตัวดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เราไม่เอาความเครียดมาคิดตลอดเวลา เพราะในเวลานี้เรากำลังโฟกัสงานที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งให้เสร็จในเวลา และมีตารางเวลาที่ชัดเจนในการทำสิ่งต่างๆ และรู้จักปล่อยวางงานที่ยังไม่เสร็จให้เรียบร้อย
4.ผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง วิธีอาจเรียกได้ว่าเป็นการหันเหความสนใจที่ทำได้ง่ายที่สุด แต่อาจยังไม่ได้ผลในตอนแรกแต่คุณจะลืมเวลาเวลาไปเลยเมื่อได้ทำในสิ่งนี้ เพราะจะเป็นการปล่อยปล่อยเพื่อให้คุณได้ทำตามใจตัวเอง ทั้งการดูหนัง ฟังเพลงสบายๆ ใน10-15 นาที สมองจะสู่ภาวะพักผ่อนและปลอดโปร่ง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายเราเริ่มรู้สึกผ่อนคลายจากสิ่งที่ทำอยู่ส่งผงให้ความเครียดค่อยๆลดลงไปตามระยะเวลา
5.ถอนหายใจยาวๆ ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการถอนหายใจเป็นเรื่องไม่ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วการถอนหายใจยาวๆเวลาเครียด จะเป็นการช่วยให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานดีขึ้น เกิดความสมดุลทางอารมณ์ขึ้นร่างกาย ซึ่งจะส่งสัญญานให้ร่างกาย ไม่เก็บสะสมความเครียดเอาไว้
6.ยืนให้ยืดหลังให้ตรง นี่อาจเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายแต่คนในสมันยนี้มักจะเดินกันด้วย หลังที่ค่อมลงไป จนติดเป็นนิสัย โดยคุณหมอได้บอกว่า แค่เรายืนยืดหลังตรงเพียงแค่ 2นาที ก็จะมีส่วนช่วยให้ฮอร์โมนความเครียดลดลงได้ ฉะนั้นให้ดีจงเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า เพียงเรายืดหลังให้ตรงก็จะช่วยให้ตัวเราเองสามารถลดความเครียดที่พบเจอลงได้ครับ
วิธีที่นำเสนอเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ความเครียดสามารถบรรเทาลงได้ แม้ว่าจะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดี แต่วิธีเหล่านี้ก็ช่วยได้เพื่อให้เรามีวิธีจัดการความเครียดจากการทำงาน จากการพบเจอปัญหาต่างๆในแต่ละวัน ซึ่งดีกว่าการไม่รู้อะไรเลย และปล่อยให้ความเครียดเข้ามาทำลายร่างกาย จิตใจ เราไปทีละนิดๆ
เพราะแบบนี้การรู้วิธีจัดการความเครียดจึงช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ แบบนี้เราก็ได้เรียนรู้แล้วว่าความเครียดในยุคนี้เกิดขึ้นได้ง่าย แต่กลับกันเราก็มีวิธีเรียนรู้ที่จะควบคุมความเครียดนั้นด้วยเช่นกัน เพิ่อที่จะทำให้ชีวิตของเรามีความสมดุลเกิดขึ้นทางด้านการใช้ชีวิต การทำงาน เพิ่อที่เราจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุขกับเรื่องราวของชีวิตในทุกๆวัน
ขอบคุณที่ติดตาม
โฆษณา