รู้จัก Stardew Valley เกมที่ถูกสร้าง โดยคนเดียว นาน 4 ปี
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดสถิติที่น่าสนใจขึ้นในอุตสาหกรรมเกม
เมื่อเกมอินดี้ ที่ชื่อว่า “Stardew Valley” สามารถทำยอดขายได้ทะลุ 15 ล้านชุด
ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นยอดขาย ที่ถล่มทลายมากสำหรับเกมอินดี้
จากเรื่องนี้ ก็ได้ทำให้ Eric Barone เจ้าของและผู้พัฒนาเกมที่ทำทุกอย่างขึ้นมาเพียงคนเดียว
ตั้งแต่ เขียนโคดเกม ออกแบบตัวละคร คิดเนื้อเรื่อง ไปจนถึงทำเพลงประกอบ มีมูลค่าทรัพย์สินพุ่งสูงขึ้น จนแตะหลัก 1 พันล้านบาท
แล้ว Eric Barone สร้างเกมเพียงคนเดียวได้อย่างไร ?
และทำไม Stardew Valley กลายเป็นเกมฮิตที่ใคร ๆ ต่างยอมรับ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Stardew Valley คือเกมทำฟาร์ม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Harvest Moon ชุดเกมปลูกผักชื่อดัง แต่จะมีเนื้อเรื่องที่แฟนตาซีและมีลูกเล่นที่มากกว่า
โดย Stardew Valley จะให้เรารับบทบาทเป็นตัวละครที่กำลังเบื่อหน่ายชีวิตการทำงานในออฟฟิศ จนวันหนึ่งต้องมาดูแลที่ดินและบ้านของคุณปู่ที่เสียชีวิตลงไป ในสถานที่ ที่ชื่อเดียวกับตัวเกม หรือก็คือ Stardew Valley
สำหรับตัวละครนั้น สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ปลูกพืชผล เลี้ยงปศุสัตว์ ประดิษฐ์สินค้า ขุดแร่ ขายผลผลิต พบปะสังสรรค์กับชาวเมือง แต่งงาน มีลูก รวมถึงต่อสู้กับมอนสเตอร์
โดยระหว่างที่เราทำกิจกรรมแต่ละอย่าง ก็จะมีเนื้อเรื่องหลักของตัวละครสอดแทรกเข้ามาด้วย
ถึงตรงนี้ ก็พอจะเห็นได้ว่าแม้ Stardew Valley เป็นแค่เกมทำฟาร์ม แต่ก็มีฟังก์ชันและรูปแบบการเล่นหลากหลาย นั่นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ที่หลายคนจะพากันติดงอมแงม
แต่สิ่งที่น่าทึ่งกว่าเกมคือ ระบบการเล่นและเนื้อเรื่องทั้งหมดนี้
ถูกสร้างโดยคนคนเดียว ซึ่งผู้พัฒนาเกมอย่าง Barone
ก็ได้ใช้เวลาสร้างวันละ 10 ชั่วโมงต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 4 ปีกว่า
แล้วอะไรกัน ที่ทำให้ชายคนหนึ่ง ทุ่มเทกับการสร้างเกมได้ขนาดนี้ ?
ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้น เมื่อ Barone จบการศึกษาสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันทาโคมา เขาพบว่า ตัวเองสมัครงานที่ไหนไป ก็ไม่มีใครรับเลย
ชายหนุ่มผู้ว่างงานจึงคิดได้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เลยตัดสินใจฝึกทักษะเขียนโคดและสร้างประวัติการทำงานผ่านการสร้างเกมที่มีลักษณะคล้ายกับ Harvest Moon ซีรีส์เกมที่ตนเคยหลงรัก โดยดัดแปลงเกมให้เป็นไปในอีกแนวทางหนึ่ง
เมื่อวางแผนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือ
แน่นอนว่าในช่วงเริ่มต้นนั้น ก็เรียกได้ว่าลำบาก
เพราะเขาเองเพิ่งเคยเรียนรู้และลงมือสร้างเกมด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
โดยตลอดระยะเวลาที่ Barone พัฒนาเกมตัวนี้ขึ้น เขาก็ได้ทำการสร้างและลบโคด รวมถึงทำกราฟิกใหม่นับครั้งไม่ถ้วน เพื่อให้ได้เกมที่ตนคิดว่าดีสุด
ภายหลังจากพัฒนาเกมไปได้ระยะเวลาหนึ่ง ชายคนนี้หลงรักในสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา และเปลี่ยนใจจากเดิม ที่เขาต้องการสร้างเกมนี้เพียงเพื่อใช้ประดับประวัติในใบสมัครงาน
ตอนนี้เขากลับอยากทำให้เกมสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อให้คนอื่นเล่นอย่างจริงจัง
แต่การจะลงไปลุยเลยทันที ก็ดูเหมือนว่าเสี่ยงเกินไป
ทำให้เวลาต่อมา หรือในปี 2013 Barone ก็ได้ทดสอบตลาดโดยการโพสต์เนื้อหาเกมที่เขาคิดค้นขึ้นลงในระบบ Greenlight ของ Steam ซึ่งเป็นระบบที่ให้นักเล่นเกมเข้ามาร่วมกันโหวตว่าต้องการให้เกมนี้เข้ามาขายใน Steam หรือไม่
ซึ่งผลตอบรับที่ได้ ก็ออกมาดูดีเลยทีเดียว เพราะผู้ใช้งานต่างพร้อมใจกันโหวตถูกใจเกมของเขา
เนื่องจากมีหลายคนให้เหตุผลว่าเป็นแฟนคลับ Harvest Moon อยู่แล้ว แต่ก็เจอปัญหาที่เนื้อเรื่องภาคหลัง ๆ ของชุดเกมนี้ น่าเบื่อเกินไป ก็จะมีเพียงแต่กราฟิก ที่ดูดีขึ้นเท่านั้น
พอรู้ดังนั้น ชายหนุ่มผู้มีไฟ จึงเดินหน้าลุยทำเกมอย่างเต็มที่ โดยสร้างช่องทางสื่อสาร
ผ่าน Reddit และ Twitter กับเหล่าคอเกมที่คอยติดตามผลงานของเขาอยู่
ในอีกมุมหนึ่ง เขาก็ใช้ช่องทางเหล่านี้แหละสำหรับแลกเปลี่ยนไอเดียในการสร้างเกม
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเกมย่อมต้องมีต้นทุนสูง
และแน่นอนว่าในช่วงระหว่างการพัฒนานั้น เขาไม่มีรายได้ประจำ
จึงทำให้ Barone ต้องรับงานเสริมเพื่อประทังชีวิต ด้วยการเป็นพนักงานในโรงภาพยนตร์ และแน่นอนว่า สุดท้ายแล้วเงินที่หามาได้ ไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายอยู่ดี
แต่โชคยังดีที่แฟนสาวของเขาเข้าใจและอยากสนับสนุนให้ได้ทำสิ่งที่เขารักต่อ
เธอจึงเข้ามาช่วยหารายได้อีกทาง ให้ตัวของ Barone มีทุนในการสร้างเกมต่อไปได้
และแล้วก็เหมือนว่าโชคยังเข้าข้างเขาอยู่บ้าง
เพราะหลังจากนั้นไม่นาน “Chucklefish” ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม
ก็ได้สนใจในเกมของ Barone และเข้ามาติดต่อเพื่อช่วยทำการตลาดให้
ซึ่งก็เรียกได้ว่า Chucklefish มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการทำให้ Stardew Valley เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และนับเป็นหนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญที่ทำให้เกมของ Barone ประสบความสำเร็จ
เพราะ Chucklefish ได้เข้ามาช่วยทั้งในเรื่องการติดต่อกับเหล่าสตรีมเมอร์ชื่อดังให้มาร่วมเล่นเกมและสร้างคอนเทนต์เพื่อโปรโมต รวมถึงยังให้อิสระแก่ผู้พัฒนาเกมอย่างเต็มที่ โดยไม่กดดันทั้งเวลาและวิธีการ
โดยตอนแรก Stardew Valley มีกำหนดการปล่อยวางขายพร้อมเล่นภายในปี 2014
เพราะช่วงเวลานั้น เกมถูกพัฒนาเสร็จสิ้น ไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์
แต่สุดท้าย Stardew Valley ก็ถูกเลื่อนวางขายไปจนถึงปี 2016
ด้วยเหตุผลคือ Barone ยังรู้สึกว่าเกมไม่สมบูรณ์แบบตามที่ต้องการ
โดยเขาได้ทำการเพิ่มรายละเอียด ปรับปรุง และออกแบบสิ่งใหม่ ๆ ภายในเกมอยู่เสมอ
เช่น ตัวละคร ซึ่งภายในเกมมีทั้งหมดถึง 30 กว่าตัว ก็เคยถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดมาแล้วเกินกว่า 10 ครั้ง
รวมถึงฟังก์ชันและลูกเล่นภายในเกม ที่ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างการขุดและสำรวจถ้ำ หรือการต่อสู้กับมอนสเตอร์และแม้แต่การแต่งเพลงประกอบรวมแล้ว 70 กว่าเพลง
คิดบทสนทนาของทุกตัวละคร ไม่ต่ำกว่า 100 บรรทัด
นอกจากนี้ยังสร้างโมเมนต์คัตซีนเฉพาะตัวกว่าร้อยฉาก..
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เกมถูกสร้างขึ้นล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้แต่แรก ถึง 2 ปีเลยทีเดียว
ถึงตรงนี้ ก็น่าจะเรียกได้ว่า Barone อินจัดจริง ๆ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา
เขาไม่เคยขอความช่วยเหลือในการสร้างเกมจากใครเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แม้กระทั่งตอนที่เกมเกิดปัญหาระหว่างการสร้าง
หรือตอนที่ไม่รู้ว่าจะแปลแนวคิดเป็นโคดได้อย่างไร
และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าเขาไม่อยากติดหนี้บุญคุณคนอื่น
จึงแก้ปัญหาโดยการเข้าไปศึกษาผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ ด้วยตัวเองเสมอ
จนในที่สุด Stardew Valley ก็พร้อมวางจำหน่าย..
อย่างไรก็ตาม Barone ก็ได้เจอกับปัญหาใหญ่ เมื่อเขาพบกับบั๊กภายในเกม
ก่อนที่จะถึงเวลาจำหน่ายอีกไม่นาน เขารู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อทุกคนที่ซื้อ
จึงลงมือแก้ไขทันที
ซึ่งเขาก็สามารถแก้ไขได้ทันเวลาและสามารถวางจัดจำหน่ายได้สำเร็จ
ซึ่ง Stardew Valley ก็สามารถสร้างยอดขายถึง 500,000 ชุด ภายใน 1 สัปดาห์
และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทั้งจากฝั่งนักวิจารณ์และผู้เล่น
เดือนเมษายนที่ผ่านมา Stardew Valley มียอดขายพุ่งทะยานแตะ 1 ล้านชุดสำเร็จ
ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
แม้กระทั่งผู้สร้างอย่าง Barone เองก็ตาม
ด้วยผลตอบรับที่ดี นั่นทำให้เขามีกำลังใจในการพัฒนาเกมต่อไปเรื่อยมา
แม้ว่าเกมจะเสร็จสมบูรณ์ตามที่คาดหวังไว้ตอนแรกแล้ว
หลายคนจึงยอมรับในชายผู้นี้ ที่มีความมุ่งมั่นสร้างระบบภายในเกมให้ดีขึ้นต่อไปอยู่เสมอ
และไม่เคยเก็บเงินเพิ่มสักครั้งเดียว สำหรับเกมที่ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้น
ในที่สุดเดือนกันยายนที่ผ่านมา Stardew Valley สามารถทำยอดขายแตะ 15 ล้านชุด
ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ในอุตสาหกรรมเกม เลยทีเดียว
เรื่องราวของ Barone ถือเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ
เพราะแม้ว่าเขาจะเคยโดนการปฏิเสธรับสมัครงานจากหลายบริษัทก็ตาม
แต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้และรู้ตัวดีว่าต้องพยายามศึกษาหาความรู้ต่อไปให้ตัวเองพัฒนาขึ้น
ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าหนทางในการพัฒนาตัวเองโดยการสร้างเกมเพื่อนำไปประกอบประวัติการสมัครงาน จะทำให้เขาพบเข้ากับความหลงใหลและความอินในการก่อร่างสร้างธุรกิจขึ้นมา
จนในที่สุด ความตั้งใจในการพัฒนาตัวเอง
ก็ได้กลายมาเป็น “Stardew Valley”
เกมที่แม้จะทำเองคนเดียวและใช้เวลายาวนานถึง 4 ปี
แต่วันนี้ มันก็ได้กลายมาเป็นความสำเร็จที่ทำให้ตัวเขา
ผู้ที่เคยหางานทำไม่ได้ กลายเป็นเศรษฐี ที่มีทรัพย์สินทะลุ 1 พันล้านบาทแล้ว ในวันนี้..
References
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- 30
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
