3 พ.ย. 2021 เวลา 20:34 • ไลฟ์สไตล์
• สมัยเด็กๆ ไม่ได้คิดอะไรที่ซับซ้อน แค่อยากจะสัมผัสความเจริญของสังคมในเมือง ก็หาเรื่องมาติวหนังสือในตัวเมืองโคราชกับเพื่อนทุกๆ วัน เพราะคิดว่าน่าจะได้ประสบการณ์อะไรแปลกใหม่ให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องตื่นเต้นมากในตอนนั้น
3
• พอโตขึ้นมาหน่อย ตัวเองยอมสละสิทธิ์ไม่ไปเรียนมหาวิทยาลัยประจำภาคอิสานหลังจากที่สอบติดโควต้าแล้ว มาเอ็นทร้านซ์อีกครั้งเพื่อเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เพราะคาดหวังว่าชีวิตเราน่าจะมีอะไรดีขึ้นกว่าเดิม เข้าถึงทรัยากรของประเทศได้มากว่า ซึ่งก็คิดไม่ผิด ได้รับประสบการณ์ดีดี ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากขึ้น
2
• ตอนทำงาน สะดุดกับคำว่า "สมดุลชีวิตและคุณภาพชีวิต" เพราะตัวเองจะต้องอยู่โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ เฉลี่ยวันละ 12 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์ ด้วยวิชาชีพวิศวกรใช้ชีวิตบนถนนวันละหลายชั่วโมง สุขภาพที่ดี สังคมที่อยากมีไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่เคยเจอ เป็นเวลาแปดปี จึงต้องมาทบทวนชีวิตตัวเองใหม่อีกครั้ง
2
• จนกระทั่งมองหาและสร้างโอกาสให้กับตัวเอง เปลี่ยนมาทำงานสายวิชาการทางสังคมศาสตร์ จึงได้มาอาศัยอยู่ต่างประเทศคือ เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ 🇿🇦 1 ปี อินเดีย 🇮🇳 2 ปี และนิวซีแลนด์🇦🇺 เข้าปีที่ 5 ทั้งหมดเป็นสังคมชนบทที่มีสาธารณูปโภค สาธารณสุขที่ครบถ้วน และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการดำรงชีวิตที่ประกอบด้วย "สมดุลชีวิตและคุณภาพชีวิต" ถือว่าชีวิตลงและมีความสุขพอสมควรครับ
2
ผมแพ้ความขาวของ "หิมะ" ถ่ายที่เมือง Arrow Town, จังหวัด Queenstown, New Zealand🇳🇿
โฆษณา