DigitalOcean (NYSE: DOCN) ผู้ให้บริการ Cloud Server สำหรับ developers บริษัท startups และธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMBs) ใช้งานสะดวก ติดตั้งง่าย โดยใช้เวลาเพียง 55 วินาที
อีกนัยนึง DigitalOcean เปรียบเสมือน AWS (Amazon Web Service) แต่ขนาดเล็กกว่า ฟังชั่นใช้งานน้อยกว่า แต่มีความคล่องตัวมากกว่า โดยโฟกัสที่บริษัทขนาดเล็ก ต่างจาก AWS ที่ลูกค้าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่
.
DigitalOcean ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดย Ben และ Moisey Uretsky 2 พี่น้องชาวรัสเซีย ทั้งสองเห็นโอกาสในอุตสาหกรรมให้บริการ Server ว่า บริษัทโฮสติ้งต่างๆในยุคนั้น มุ่งแต่จะ target และให้บริการแต่บริษัทขนาดใหญ่ โดยละเลยบริษัทขนาดเล็ก ทั้งในแง่ของการกำหนดราคาแพ็กเกจการใช้งาน มีการคิดเงินที่ซับซ้อน ขาดความโปร่งใส และขาดการการซัพพอร์ททาง IT
ซึ่งบริษัทขนาดเล็กส่วนใหญ่ ไม่ได้มีแผนก IT ที่มีความรู้ด้าน server มาก แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหาน่าปวดหัวที่ไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจหลักของตัวเอง ทั้งสองจึงก่อตั้งบริษัท DigitalOcean ขึ้น และออกแบบการใช้งานให้ง่ายมาก ที่แม้แต่คนที่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญก็สามารถติดตั้ง server เองได้ไม่ยาก
ลูกค้าของ DigitalOcean นั้นหลากหลายมาก มีตั้งแต่ วิศวกร นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูล ผู้ดูแลระบบ นักเรียน คนที่เว็บทำเพื่องานอดิเรก ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์มีความ fit กับตลาดมาก DigitalOcean ใช้เวลาเพียงแค่ปีเดียวในการสร้างฐานลูกค้าได้ถึง 400 ราย launch server ได้ถึง 10,000 server และกลายเป็น Cloud Hosting ที่มีคนใช้งานมากเป็นอันดับต้นๆของโลก
และหลังจากนั้น...บริษัทก็เติบโตไม่หยุด ต่อยอดพัฒนา มาจนในปี 2021 บริษัทมีลูกค้ามากถึง 602,000 ราย ใน 185 ประเทศ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นิวยอร์ค สหรัฐ และ มี Data Centers อีก 14 แห่ง กระจายอยู่ใน 8 ภูมิภาคทั่วโลก
โดยบริษัทมี mission ว่า “บริษัทจะลดความซับซ้อนของการประมวลผลแบบคลาวด์ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้นักพัฒนาและธุรกิจสามารถที่จะใช้เวลาไปกับการสร้างซอฟต์แวร์ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้แทน”
.
#DigitalOceanทำอะไรได้บ้าง
💎ผลิตภัณฑ์หลักของ DigitalOcean คือ Cloud Server ที่เสมือนเราเป็นเจ้าของเครื่อง Server เอง
โดยวิธีใช้ก็เริ่มจากการสร้าง Droplets (ที่แปลว่า หยดน้ำ หลายๆหยด ประกอบกันขึ้นมาเป็นมหาสมุทร ดังชื่อบริษัท) ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเป็น Virtual server เปรียบเสมือนผู้ใช้งานมีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่องไว้ใช้งานได้ ซึ่งเราจะสร้างกี่อันก็ได้ และยังสามารถเข้าถึงสิทธิในการจัดการกับเครื่องได้ทุกอย่าง (Root Access)
โดยระบบจะมีตัวเลือกให้ค่อนข้างละเอียดตั้งแต่ขนาด RAM, CPU และ SSD ระบบปฏิบัติการณ์ที่ไว้ใช้รัน ที่ตั้งของ Server ซึ่งก็มีให้เลือกหลายที่ทั่วโลก อย่างถ้าเราอยู่ในประเทศไทย ก็มีที่ใกล้สุดคือ server ที่สิงคโปร์
ราคาที่บริษัทคิดจะแตกต่างไปตามสเปคที่เราเลือก แต่ราคาเริ่มต้นการใช้งานแบบเบสิคสุดก็แค่ 5 เหรียญเท่านั้น หากใช้เกินก็จ่ายตามจำนวนชั่วโมงที่ใช้งานจริง
.
.
💎นอกจากตัว Server แล้ว DigitalOcean ยังมีบริการเพิ่มเติม อย่าง
Kubernetes Cluster เครื่องมือช่วยจัดการ Containers
App Platform โซลูชั่นช่วยสร้าง จัดการ และปรับขนาดแอป
Managed Database บริการช่วยจัดการ database อย่าง MongoDB, MySQL, PostgreSQL, Redis
Spaces Object Storage บริการพื้นที่เก็บข้อมูลและช่วยดึงข้อมูล หรือ CDN (Content Delivery Network)
และบริการอื่นๆ อย่าง Floating IPs, Load Balancers, Virtual Private Cloud (VPC), Firewall IP, Domains และ DNS
.
.
✨มาดูส่วนของ #งบการเงิน
ปี 2018 – รายได้ 203 ล้านเหรียญ
ปี 2019 – รายได้ 255 ล้านเหรียญ โตขึ้น 25%
ปี 2020 – รายได้ 318 ล้านเหรียญ โตขึ้น 25%
✨คาดการณ์รายได้ 2021 อยู่ที่ 423 ล้านเหรียญ คาดว่าจะโตขึ้น 33%
โดยรายได้ 90% มาจากกลุ่ม IaaS (Infrastructure as a Service) อย่าง server, networking และ storage
10% ที่เหลือมาจาก PaaS (Platform as a Service) อย่าง Kubernetes, database และ App Platform ส่วนนี้ถึงจะมีสัดส่วนที่น้อย แต่ถือว่ามีการเติบโตที่สูง ซึ่งหมายถึงการที่ลูกค้ามีการเติบโตขึ้นในธุรกิจ และมีความต้องการใช้งานเพิ่มเติมมากขึ้น
✨ตัวเลขทางบัญชีขาดทุนอยู่
ปี 2018 – ขาดทุน 36 ล้านเหรียญ
ปี 2019 – ขาดทุน 40 ล้านเหรียญ
ปี 2020 – ขาดทุน 44 ล้านเหรียญ
✨ไตรมาส 2 ตัวเลขต่างๆดูดี
Adjusted gross margin 78%
Operating cash flow 40 ล้านเหรียญ
Free cash flow 14 ล้านเหรียญ
Adjusted EBITDA 31 ล้านเหรียญ Margin 30%
มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น 577 ล้านเหรียญ คิดเป็น 63% ของสินทรัพย์ทั้งหมด
✨Key Metrics อื่นๆก็ดูดี
ลูกค้า 602,000 ราย โตขึ้น 9%
Retention rate 113%
Monthly ARPU 58 เหรียญ โตขึ้น 25%
Capex as a % of Revenue ลดลงเหลือ 25%
.
#CompetitiveAdvantage
จุดเด่นของ DigitalOcean มาจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย สามารถติตตั้ง server เสร็จในเวลาไม่กี่อึดใจ ค่าบริการถูก ถ้าใช้เกินก็เก็บตามการใช้งานจริง มีแพ็กเกจแบบเข้าใจ SMBs และที่สำคัญยังมี Support ที่ช่วยแก้ปัญหาให้ และ community ที่มีทั้ง developer และ system admin จำนวนมากมาช่วยกันตอบปัญหา
บริษัทมี acquisition cost ที่ต่ำ โดยตัว community สามารถดึงดูดผู้เยี่ยมชมแบบไม่ซ้ำหน้ากันได้ถึง 5 ล้านคนต่อเดือน และ หลายหมื่นคนในนั้นก็ได้กลายมาเป็นลูกค้าของ DigitalOcean
นอกจากวิธีที่กล่าวมาแล้ว ในการดึงลูกค้าใหม่ให้มาใช้ บริษัทก็มีเครดิตให้ลูกค้าใหม่ลองใช้ผลิตภัณฑ์โซลูชั่นต่างๆ 100 เหรียญ และยังมีระบบ Referral ที่สามารถให้เราเอาลิงก์ไปชวนคนอื่นมาใช้บริการด้วย ถ้าลูกค้าใช้และยอมจ่ายเงิน คนให้ referal ก็จะได้เงิน 25 เหรียญ
ซึ่งวิธีที่กล่าวมาดูเหมือนจะเวิร์คอยู่ ดูได้จาก ค่าใช้จ่าย Sales and Marketing คิดเป็นแค่ 11% ของรายได้ทั้งหมดเท่านั้น
.
#คู่แข่งและความเสี่ยง
คู่แข่งหลักๆ หนีไม่พ้น AWS, Azure และ Google Cloud ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเหล่านี้โฟกัสไปที่ลูกค้าที่เป็นองค์กรใหญ่ แต่ก็มีโอกาสที่ทั้ง 3 บริษัทจะลงมาเล่นในตลาดเดียวกับ DigitalOcean
อย่าง AWS ตอนนี้ก็มี Amazon Lightsail ที่มีผลิตภัณฑ์ระดับที่เน้นความง่ายในการใช้งานสำหรับลูกค้าขนาดเล็ก และยังสามารถทำงานเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการใดๆก็ได้ แต่ของ DigitalOcean ใช้กับ Microsoft Windows OS ไม่ได้ ใช้งานได้กับ Linux เท่านั้น
และยังมีคู่แข่งรายอื่น อย่าง Linode, Vultr และ OVHcloud ที่โฟกัสในตลาดเดียวกัน
.
#โอกาสในการเติบโต
1. เติบโตไปกับ Market Opportunity กับบริษัทขนาดเล็กถึงกลางที่มีถึง 32 ล้านรายในสหรัฐ และบริษัทนอกสหรัฐอีก 100 ล้านราย และคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตราว 27%ทบต้นจนถึงปี 2024 หรือที่ขนาดตลาด 116,000 ล้านเหรียญ โดยแบ่งเป็นกลุ่ม PaaS 31,000 ล้านเหรียญ และ IaaS 84,000ล้านเหรียญ
ที่น่าสนใจคือ DigitalOcean มีการเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ 2 ถึง 35% YoY ซึ่งเร็วกว่าการเติบโตของภาพรวมตลาดที่ 27% ซะอีก
2. เติบโตไปกับการสร้างข้อมูลมหาศาลในโลกดิจิตัล
ในปี 2020 จำนวนข้อมูลทั้งหมดที่สร้าง เก็บ คัดลอก และใช้งานในโลกนี้ แตะ 59 เซตตะไบต์ (zettabytes)
คาดการณ์ว่า ปริมาณข้อมูลเหล่านี้ในการใช้งานทั่วโลกจะแตะ 149 เซตตะไบต์ ในปี 2024 และจะเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ทำให้ปริมาณความต้องการใช้บริการคลาวด์จะเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะต้องมีการจัดเก็บและวิเคราะห์ที่คลาวด์ คาดการณ์มูลค่าตลาดในส่วนนี้จะสูงถึง 274,000 ล้านเหรียญ ได้ในปี 2022
3. เติบโตจากการได้พาร์ทเนอร์ใหม่ๆ เพื่อสร้าง ecosystem ให้แข็งแกร่งขึ้น อย่างที่เพิ่งได้ MongoDB มาร่วม ที่จะทำให้ผู้ใช้จัดการส่วนของ database ได้ง่ายขึ้น ถือว่าเป็นการดึงดูดลูกค้าให้มาใช้ เราน่าจะเห็นการพาร์ทเนอร์ใหม่ๆเพิ่มเติมของบริษัทไปเรื่อยๆได้
.
😁สรุป DigitalOcean หุ้นดีที่มีผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยม มี product market fit กับตลาดที่ชัดเจน และโอกาสในการเติบโตอีกมาก ที่ราคาตอนนี้ถือว่าไม่ถูก มี P/S ที่ 16 เท่า และ Morningstar ให้ Fair Value ที่ 84 เหรียญ บริษัทมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ Access Industries อยู่ 24.27% และผู้ก่อตั้งทั้งสองที่ยังถืออยู่รวมกันแล้ว 13.7%
ใครชอบหุ้นกลุ่ม server ที่เป็น pure play ในตลาด ไม่อยากได้อย่างอื่นพ่วงมาด้วย ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่แอดว่าน่าสนใจค่ะ
.
.
ชอบกดlike กดshare ให้แอดด้วยนะคะ
ติดตามบทความได้ทุกวันเสาร์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน เวลา 9.00 เช้านะคะ
ช่องทางติดตาม
.
.
--Stock Surge—
เล่าเรื่องหุ้นนอกรายตัว แบบเข้าใจง่าย อ่านจบได้ใน 5 นาที
.
References:
1.S-1 DigitalOcean Holdings, Inc.
2. Digital Ocean Q2’22 Quarterly Results
4. Wikipedia
5. Morningstar
6. Seeking Alpha
7.Ben Uretsky And Moisey Uretsky: From Humble Beginnings, These Two Russian Brothers Built A Billion Dollar Business In America
8.From Humble Beginnings, These Two Russian Brothers Built A Billion Dollar Business In America
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
