4 พ.ย. 2021 เวลา 04:08 • ความงาม
❤️รวม 10 เรื่องดูแลรอยสัก ให้สวยสดถาวรแบบเภสัชกร❤️
เพราะค่านิยมการสักตอนนี้กับในอดีตต่างกันมากๆๆ
การสักเพื่อฝัง meaning หรือคุณค่าให้ติดตัวเราตลอดไปเริ่มเยอะขึ้น
เทคโนโลยีการสักก็ดีขึ้น
แนวการสักก็หลากหลายมากขึ้น
มีทั้งเท่ห์ ๆ สีสันน่ารัก และแบบมินิมอล
รวมไปถึงการสักเพื่อ beauty
อย่าง permanent make up
การสักคิ้ว สักปากให้หน้าสดยังสวย
ทำให้วัยรุ่นเริ่มหันมาสักกันมากขึ้น
แต่นอกจากจะ หาลาย หาตำแหน่งสัก หาช่างสัก
สิ่งที่ต้องรู้คือ
📌การดูแลหลังสักให้รอยสักยังสวยสด ไม่ซีด ไม่คัน และไม่ติดเชื้อ!!!📌
วันนี้รักจะมาตีแผ่การดูแลผิวหลังสัก
ให้สาวๆหนุ่มๆที่อยากสักได้ดูแลผิวกันอย่างถูกต้องนะคะ
(บทความนี้เน้นการสักบริเวณกว้างๆ
ลายเล็กๆมินิมอล(อาจจะ)ลดความเจ้มจ้นในการทำได้บ้างน้า ^^)
1️⃣ การสักคืออะไร?
คือการทำรูปทำลายด้วยสีต่างๆลงผิวเราแบบถาวร
โดยใช้เข็มปลายๆเล็กๆ กลไกคล้ายสว่านเจาะลงชั้นหนังแท้ (Dermis)
แล้วหยดฝังสีลงไปทีละจุดๆจนเป็นลายขึ้นมา
ซึ่งจะไปกระตุ้นกลไกการอักเสบและ wound healing
ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว (Macrophage)
แห่มาเอาหมึกไปทำลายที่ต่อมน้ำเหลือง
เพราะถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทั้งหมด
เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ไม่ได้กลับที่ต่อมน้ำเหลือง
ก็จะคาอยู่ในผิวทำให้เราเห็นเป็นลายๆอย่างที่เราต้องการ
2️⃣ ทำไมต้องสักลงไปในชั้นหนังแท้ สักแค่ชั้นหนังกำพร้าไม่ได้หรอ
❌คำตอบคือไม่ได้ ❌
เพราะหนังกำพร้ามีรอบการผลัดเซลล์ผิว 28-54 วัน
ถ้าคิดง่ายๆเอาเร็วสุดแค่รอบ 28 วัน
แปลว่าไม่ทันครบรอบเต็ม
แค่ใช้เวลา 2 อาทิตย์ลายก็หายไปเกือบครึ่งแล้ว
ถ้าอยากให้รอยสักอยู่ถาวรตรงตามคอนเซปต์
ก็ต้องลงหนังแท้เท่านั้น (จะมีคอลลาเจน หลอดเลือดต่างๆ)
3️⃣ ถ้างั้นการสักก็ทำให้เกิดแผลเป็นบนผิวหนัง แต่เป็นแผลที่สวยใช่มั้ย
✅ใช่ค่ะ
โดยหนังกำพร้าจะถูกทำลายเกือบหมด (ตามลายที่เราทำ )
ยิ่งตรงไหนสีเข้ม ก็จะยิ่งเจาะลึก
สีอ่อนก็อาจจะเจาะลงไปตื้นๆหน่อย
📌แต่ถึงหนังแท้หมดแน่นอน 📌
ทำให้สักเสร็จก็จะปวดและมีเลือดออกบ้าง
และเป็นแผลคล้ายๆกับเราล้มถลอก
แต่แค่แผลเปิดรอบนี้ลายสวยแค่นั้นเอง
4️⃣ เมื่อการสักก็คือการเกิดแผลเปิดที่ลายสวยกว่าปกติ
แปลว่าต้องดูแลมากกว่าปกติ เพราะ
🔸ความสวยนี้ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
🔸ร่างกายสามารถ recovery ได้ แต่ใช้เวลาและการดูแลผิวที่ดีมากๆ
🔸การ recovery ที่ดีต้องไม่ทำให้สีซีดลง หรือลายหลุด
5️⃣ ดังนั้น คนที่จะสักให้สีสวยติดทน ให้ meaning อยู่กับเราไปได้นานๆ
❤️ต้องใจรักรอยสักมาก และมีวินัยในการดูแลผิวดีมากๆ
เพราะหลังจากนี้จะเป็นวิธีการดูแลรอยสัก
ข้อควรระวัง ข้อห้ามทั้งหมดที่ต้องใช้ในการดูแลรอยสักค่า^^
6️⃣ Day0 - หลักสักเสร็จทันที
🔸ตั้งใจฟังที่คนสักบรีฟก่อนกลับบ้าน ว่าให้เราทำอะไรบ้าง
เปิดแผลเมื่อไหร่ ล้างแผลยังไง ทาครีมอะไรบ้าง
🔸สิ่งที่เค้าพูดจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลรอยสัก
จำให้ได้ จำไม่ได้ให้จด !!
🔸สิ่งที่ควรรู้
แผลจะหายช้าหรือเร็วขึ้นกับ
การ recovery ของแต่ละคน
ลายและ detail ที่สัก +ขนาดลายด้วย
7️⃣ Week 1 (วันที่ 1-7)
1️⃣ อาบน้ำระวังอย่าให้แผลเปียกมากนัก
2️⃣ ล้างแผล
♦️ ล้างมือให้สะอาดก่อนล้างแผล
♦️ เปิดผ้าพันแผลออก
อาจมีของเหลวอย่างเลือด พลาสมา น้ำเหลือง
หรือหมึกสีที่ใช้สักไหลซึมออกมาจากแผลซึ่งเป็นเรื่องปกติ
อาจมีอาการเจ็บปวดและมีรอยแดงบริเวณรอยสักด้วย
♦️ ล้างแผล ด้วยน้ำอุ่นและสบู่ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม 1-2 ครั้ง/วัน
อย่าเกินนี้ เพราะแผลจะชื้นและติดเชื้อง่าย และสีจะหลุดง่ายไปด้วย
♦️ เทคนิดการล้างแผลคือ
อย่าเปิดน้ำลงแผลตรงๆแค่ใช้น้ำผ่านแผลก็พอ
แล้วก็อย่าเอาแผลแช่น้ำด้วย
♦️ ซับแผลให้แห้ง ย้ำว่าซับ ไม่ใช่เช็ด
โดยใช้ผ้าขนหนูเนื้อนุ่ม ทิชชู่พอได้แต่ระวังขุยกระดาษติดแผล
3️⃣ ทายาผสมยาฆ่าเชื้อ วันละ 2-3 ครั้ง
♦️ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฆ่าเชื้อในตัวทำให้แผลแห้งเร็ว
.
📌ข้อมูลเพิ่มเติม📌
อาจจะมีหลายคนแนะนำ Vaseline ว่าดี
♦️ ถือเป็นการปิดแผลในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าการใช้ผ้าปิดแผล
เพราะอากาศยังผ่านได้บ้าง
♦️ ให้ความชุ่มชื้นและเคลือบผิวได้ในตัว
♦️ สูตรอ่อนโยนไม่มีน้ำ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์
ไม่มีอะไรที่ก่อการแพ้ หรือมี water activity ให้เกิดการติดเชื้อได้เลย
.
แต่เหนียวและมันขนาดนั้นทาไม่ไหวอยู่ไม่ไหวหรอกจ้าาาาา
❌อย่าหาทำเลย❌
4️⃣ อย่าเพิ่งใส่เสื้อแขนยาวช่วงนี้ เพราะจะเสียดสีรอยแผลได้
5️⃣ ตอนนอนาหาผ้านุ่มมาปูอีกที
เพื่อรองน้ำจากแผลและสีหมึกส่วนเกินที่อาจจะเลอะเตียง
6️⃣เลี่ยงแดดแต่ยังไม่ต้องทากันแดด
เลี่ยงแดดเพราะแผลยังสดมาก
แดดจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวมากขึ้น
❌ยังไม่ต้องทากันแดด❌
ไม่ต้องทาอะไรเลย
แม้ว่าจะเป็น physical sunscreen สูตรแพ้ง่ายก็ตาม
เพราะตอนนี้โอกาสแพ้สูงมาก
และเนื้อ Physical ทั้งเหนียวขาวและวอกมาก
ในความเป็นจริงมันจะค่อนข้างฝืดผิวมาก
.
ส่วน Chemical sunscreen หรือ สูตร Hybrid
ยิ่งไม่ควรใช้เพราะ Chemical sunscreen
ผิวปกติบางคนยังแพ้
ผิวเป็นแผลไม่ต้องพูดถึง!!
7️⃣ช่วงวันหลังๆแผลจะจะเริ่มแห้ง ห้ามแคะ แกะ เกา เด็ดขาด
8️⃣อย่าเพิ่งออกกำลัง เพราะเหงื่อทำให้แผลหายช้า
9️⃣ว่ายน้ำก็ไม่ได้ คลอรีนจะกัดผิว และห้ามแช่น้ำด้วย
🔟 ดื่มน้ำมากๆ
เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
ให้ผิวกลับมาทำงานได้ตามปกติโดยไว
8️⃣ Week 2-4 (วันที่ 8-30) ทำเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือ
1️⃣อาบน้ำแผลเริ่มโดนน้ำได้บ้าง แต่
-ห้ามสครับหรือใช้อะไรขัดผิว แค่มือถูก็พอ
-เลี่ยงการอาบน้ำร้อน เพราะอาจทำให้หมึกสีบริเวณรอยสักจางลงได้
2️⃣เปลี่ยนจาก #ยาฆ่าเชื้อ เป็น #ครีม หรือ น้ำมันทาตัวได้
❌ห้ามใช้ไวทเทนนิ่ง
❌ไม่ผสมน้ำหอมและแอลกอฮอล์
ทาเท่าเดิมวันละ 2-3 ครั้ง
เพราะถึงแผลจะดูแห้งแต่ข้างในยังพังอยู่จงทาความชุ่มชื้นต่อไป
.
📌ข้อมูลเพิ่มเติม📌
ใช้ครีมหรือน้ำมันสูตรสำหรับทาแก้ท้องลายของคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ได้
เพราะให้ความชุ่มชื้นดี ซึมไว เคลือบผิวได้ดี
สู๖รอ่อนโยนและไม่แพงมาก
หรือจะใช้ Facial oil / Body oil ที่ซึมไวๆก็ได้
เพราะเคลือบผิวดี ให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวนุ่มด้วย
แต่ถ้ากลัวว่าจะมันเลอะเสื้อผ้าก็ครีมของคุณแม่ค่า
3️⃣วีคนี้จะเริ่มคันมากๆๆ
ห้ามเกาเด็ดขาด
ถ้าคันให้ทาครีม
📌แต่ถ้าบวมให้ไปหาหมอเพราะติดเชื้อ📌
4️⃣ถ้าแผลเริ่มแห้ง ใส่เสื้อแขนยาวได้
- แต่ลองเอามาส่องแสงไฟหน่อยว่า แสงทะลุรึเปล่า
ถ้าทะลุก็อย่าใส่เลย ไม่ได้ช่วยกันแสงเลย
- ถ้าเอาชัวร์เลือกเสื้อที่มีค่า UPF (Ultraviolet Protection Factor) 30 ขึ้น
- ระวังเสื้อต้องไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อป้องกันการเสียดสีกับรอยสัก
5️⃣ถึงจะใส่แขนยาวก็ควรทากันแดด (ถ้าแผลเริ่มแห้งและทาได้)
-โดยทากันแดดแบบ physical ที่เนื้อไม่หนืดมากนัก
-ไม่จำเป็นต้องใช้สูตร water resistant ในช่วงนี้
เพราะไม่ได้ออกกำลังกายเหงื่อแตกอยู่แล้ว
6️⃣ใกล้ๆครบเดือน สะเก็ดแผลจะเริ่มหลุดออกไปจนหมด
อาจจะมีเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเหลือๆอยู่บ้าง
แต่เดี๋ยวก็ลอกไปเอง
7️⃣ผิวก็อาจจะหมองๆบ้าง เป็นเรื่องปกติ
เพราะผิวเป็นแผล ร่างกายก็กระตุ้นการสร้างเมลานินมาปกป้องผิว
แต่ถ้ายังทาครีม ทากันแดด เลี่ยงแดดอยู่มันก็จะไม่คล้ำมาก
9️⃣ การดูแลระยะยาว (เดือนที่ 2เป็นต้นไปเมื่อแผลแห้งสนิท)
1️⃣ทาครีมบำรุงผิวและกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
-ครีมบำรุงผิว เลือกใช้ได้ตามปกติ แบรนด์อะไรก็ได้
จะผสมน้ำหอมก็ได้ จะไวท์เทนนิ่งได้
แต่ไม่ควรผสมแอลกอฮอล์
.
-กันแดด
1.วันธรรมดาทั่วไปเลือก Physical หรือ Chemical ก็ได้
แต่เน้น broad spectrum SPF50+
2.ถ้าออกกลางแจ้งแดดจัด extreme ใช้แบบ water resistant ไปเลย
2️⃣เลี่ยงแดดได้ให้เลี่ยง ใส่เสื้อแขนยาวได้ให้ใส่
เพราะสีทาบ้านยังซีดได้ สีบนตัวก็ซีดได้
3️⃣ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อคงความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง
4️⃣รักษาความสะอาดบริเวณที่สักอยู่เสมอ
ด้วยการล้างทำความสะอาดรอยสักเบา ๆ
ด้วยสบู่ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
5️⃣ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้มากหรือน้อยเกินไป
เพราะอาจทำให้รอยสักขยายออกหรือแฟบลง
ไม่งั้นลายเสือเท่ห์ๆจะกลายเป็นเสื้อจ้ำม่ำหรือเสือผอมๆ
6️⃣ถ้าผิวตรงที่สักมีปัญหาหรือสีเพี้ยนหาหมอผิวหนังเลย
7️⃣ถ้าสักสีแดงแล้วแพ้เป็นผื่น ลอก บวม มีตุ่มสีให้รีบหาหมอ เป็นการแพ้สีแดงโดยเฉพาะ (เกิดช้าหรือเร็วแล้วแต่คน บางคนอาจะ 10ปี+)
8️⃣ถ้าต้องตรวจสุขภาพ ก็ให้ระวัง MRI Burn
(อันนี้เกิดได้กับการสักคิ้วสักปากด้วยนะ)
9️⃣ถ้าวันไหนอยากลบรอยสักออกลองปรึกษาหมอผิวหนัง
เพราะสารที่ใช้เอาออกเป้นกรด อาจทำให้ผิวหนังเสียถาวร
🔟 หากวันนี้ตัดสนใจสักแล้ว
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายมาดเข้มแค่ไหน หรือเป็นสาวใสน่ารัก
แต่เมื่อสักแล้วอย่าได้แคร์สายตา และคำพูดคนอื่น
ในยุคนี้ก็ยังมีคนไม่เข้าใจศิลปะและความหมายของการสักอยู่อีกมาก
จงรักและดูแลรอยสักให้ดี
ถ้าไม่แคร์คำพูดและสายตาได้แล้ว
📌ก็อย่าเขิลที่จะดูแลผิวมากกว่าปกติ📌
พยายามทาครีม ทากันแดด หลบแดด
เพื่อรักษารอยสักของคุณให้สวยสดติดตัวไปตลอดนะคะ
#เพราะรักจึงบอก
#เภสัชกรรัก
โฆษณา