11 พ.ย. 2021 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รู้หรือไม่? คนจน “มีค่าใช้จ่าย” มากกว่าคนรวย
1
ถ้า aomMONEY บอกว่า “คนจน” มีค่าใช้จ่ายมากกว่า “คนรวย” เพื่อนๆ จะเชื่อกันไหมครับ? หลายคนอาจจะตั้งแง่หรือตั้งคำถามว่า จริงหรือ? เป็นไปได้หรือ? แต่เรื่องนี้เขามีบทวิจัยมารองรับครับ
ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น aomMONEY ขอสรุปให้อ่านกันง่ายๆ ดังนี้
📌 1. เพราะคนจนต้องซื้อของที่แบ่งขายเป็นชิ้นๆ ซึ่งแพงกว่าการซื้อของทีละมากๆ เนื่องจากเขาไม่มีเงินมากพอ
5
เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่เล็กเลยนะครับ เพราะข้อมูลจากการวิจัยที่เปิดเผยโดยศาสตราจารย์ Yesim Orhun และ Ph.D. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า “คนจน” ไม่สามารถซื้อสินค้าปริมาณเยอะในราคาที่ถูกกว่าการซื้อแบบรายชิ้นได้ ทำให้พวกเขาต้องซื้อของที่แพงกว่า
1
ตัวอย่างเช่น
◾ กระดาษทิชชูแพ็ค 24 ม้วน ราคา 279 บาท = ตกม้วนละ 11.625 บาท
◾ ถ้าซื้อแบบรายชิ้น = ตกม้วนละ ราคา 17 บาท
2
แน่นอนว่าด้วยรายได้ขั้นต่ำ “คนจนจึงไม่สามารถซื้อสินค้าแบบแพ็คที่ราคาเกือบเท่าค่าแรงขั้นต่ำของพวกเขาได้” ทำให้คนเหล่านั้นต้องเลือกซื้อรายชิ้น นั่นหมายความว่า หากเขาซื้อทิชชูทั้งหมด 24 ครั้ง จะต้องจ่ายเงิน 408 บาท ในขณะที่การซื้อแบบแพ็คในครั้งเดียวนั้นจ่ายเพียงแค่ 279 บาท
เพื่อนๆ คนจะเห็นแล้วถึงความแตกต่างของภาระค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันจากสถานะทางสังคมที่ต่างกันแล้วใช่ไหมครับ การเป็นคนจนนั้นมีราคาแพงจริงๆ
📌 2. คนจนมีอุปสรรคจากการออมเงินมากกว่าคนรวย
2
“ถ้าเราไม่เคยจนมาก่อน เราก็คงไม่รับรู้ถึงความลำบาก” เชื่อหรือไม่ครับว่า คนจนคนที่อยู่ห่างไกล อาจจะไม่สามารถเข้าถึงซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่มีสินค้าราคาถูกได้เหมือนคนในเมืองนะครับ อย่างพวกเราเวลาจะซื้อของก็แค่ขับรถออกจากบ้าน อยากซื้ออะไรก็หยิบ เพราะยังไงก็มีรถ แต่คนจน ด้วยรายได้ของเขา เขาอาจจะไม่มีแม้กระทั่งรถที่จะใช้ขนทิชชู่ 30 ม้วนกลับบ้านก็ได้
2
ทั้งๆ ที่จริง บนโลกใบนี้มีวิธีการประหยัดเงินมากมายเมื่อเราใช้เงินซื้อของต่างๆ อาทิเช่น
◾ คนรวยสามารถซื้อของใช้จำเป็นทีละมากๆ เพื่อให้ราคาถูกกว่า แต่คนจนทำไม่ได้
◾ คนรวยเข้าถึงบัตรเครดิตและสามารถได้ส่วนลดต่างๆ จากบัตรหรือพวก Cashback ในการจับจ่ายใช้สอย แต่ในทางกลับกันคนจน ไม่มีทางเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านี้ได้เลย เพราะไม่มีเครดิต ในการเปิดใช้บริการบัตรด้วยซ้ำ
◾ เรามีเงินสมัครเป็น Member ร้านค้าหรือห้างต่างๆ เช่น เป็น Member ของซุปเปอร์มาร์เก็ตห้างหนึ่ง ใช้แต้มในการแลกเป็นส่วนลดสินค้า หรือว่าเป็น Member ของปั๊มเติมน้ำมัน เมื่อถึงวันเกิดก็เอาบัตรสมาชิกไปแลกกาแฟมาดื่มฟรี หรือ แลกแต้มเพื่อเอาส่วนลดในการเติมน้ำมัน แลกของ แต่คนจนแค่ค่าสมัคร Member ก็แพงเกิน เพราะมันอาจเทียบเท่ารายได้ขั้นต่ำใน 1 วันของเขาแล้ว
4
และจากข้อมูลทั้งหมดที่ผมหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆ อ่านกัน เราจะเห็นได้เลยว่า แม้จะเป็นบทวิจัยของสหรัฐอเมริกา แต่ดูจากภาพรวมแล้ว ก็คล้ายคลึงกับประเทศเรานะครับ เพราะถึงแม้ปัจจุบันประเทศของเราจะมีการกระจายความเจริญไปยังชนบท เช่น มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ แต่นั่นก็ไม่หมายความว่า คนที่มีรายได้น้อยจะมีกำลังซื้อหรือเข้าถึงบริการเหล่านั้นได้นะครับ
1
โดยเฉพาะเมื่อมีสถานการณ์โควิดบ้านเรายิ่งเห็นได้ชัด คนมีเงินมีกำลังพอ ก็เลือกซื้อวัคซีน mRNA จากรพ.เอกชนได้ ในขณะที่คนที่ไม่มีเงินจำยอมต้องฉีดวัคซีนจากทางรัฐโดยเลือกไม่ได้ (แต่ผมมองว่าทางรัฐควรจะนำเข้าหลายๆ ตัวแล้วให้ประชาชนเลือกเองนะครับ)
1
ก็เรียกได้ว่า ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องจริงที่น่าหดหู่ใจไม่น้อยเลย aomMONEY ก็ได้แต่หวังว่า ประเทศของเราจะลดช่องว่างระหว่าง “คนรวย” และ “คนจน” ให้แคบลงได้ เราจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมาตรฐานอย่างที่ควรจะเป็นสักที
เพื่อนๆ คิดเห็นกันว่าอย่างไรก็คอมเมนต์กันมาได้นะครับ
#aomMONEY
4
✅ อ่านบทความ รู้หรือไม่? ไทยติดอันดับโลกแล้ว ความเหลื่อมล้ำสูง รวยกระจุก-จนกระจาย https://bit.ly/30Jukbr
✅ อ้างอิงข้อมูลจาก https://wapo.st/3vpkLte
◤ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
👍 ชอบกด Like โดนใจ กด Share
และอย่าลืม ✅ See First
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดข่าวสารใหม่ ๆ ก่อนใคร
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = ◢
1
ติดตามความรู้ทางการเงินในช่องทางอื่นๆ ได้ที่
📌 กลุ่มกองทุนไหนดี https://bit.ly/3aOjgMl
สนใจโฆษณาติดต่อ :
👉 Tel: 088-099-9875 (แน้ม)
โฆษณา