“มีเงินเก็บ 100,000 บาท” ลงทุนอะไรดี ถึงมีเงินล้าน
เพื่อนๆ คิดว่า เราสามารถทำเงิน 100,000 บาท ให้กลายเป็นเงิน 1,000,000 บาท ได้ไหมครับ? คำตอบคือ “ได้ครับ” แต่คงต้องใช้ระยะเวลานานเลยทีเดียว ถ้าเราวางเงินไม่ถูกที่ และไม่รู้จักพลังของการหมั่นลงทุนเพิ่มทุกเดือน
สมมติง่ายๆ นะครับ ถ้าเรานำเงินต้น 100,000 บาท ลงทุนด้วย “การฝากเงินกับบัญชีออมทรัพย์แบบดิจิทัลที่ให้ดอกเบี้ยสูง” โดยเราฝากทิ้งเอาไว้ด้วยอัตราดอกเบี้ย 1.5%
⭐ เราจะใช้เวลาถึง 154 ปี! ถึงจะมีเงิน 1 ล้านแรก ⭐
เห็นระยะเวลาแล้ว.. มันคงจะนานเกินไปใช่ไหมครับ?
งั้นถ้าเราลองเปลี่ยนจากการฝากเงินเป็นการลงทุนที่เสี่ยงสูงขึ้น แต่โอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าอย่างหุ้นล่ะ โดยผมสมมติว่าเราคาดหวังอัตราผลตอบแทนปีละ 7.7% แล้วกันนะครับ (ผลตอบแทนรวมตลาดหุ้นไทย หรือ SET TRI ย้อนหลัง 10 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 7.77% ต่อปี ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ณ วันที่ 31 มี.ค. 64)
เพื่อนๆ คิดว่าใช้เวลากี่ปีถึงจะมีเงิน 1 ล้านแรก?
⭐ คำตอบก็คือ 30 ปีครับ ⭐
แม้จะใช้ระยะเวลา ‘น้อยกว่า’ การฝากเงิน แต่ก็ยังนานไปใช่ไหมครับ
แล้วถ้าอยากมีเงินล้านให้ไวกว่านี้.. ต้องทำยังไงล่ะ?
มันมีอยู่ 3 ทางเลือกครับ
✅ 1.เพิ่มเงินต้นให้มากขึ้น
✅ 2.ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่านี้ แต่ก็ต้องยอมเสี่ยงขาดทุนมากขึ้นไปอีก
✅ 3.เติมเงินลงทุนเพิ่มอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ เดือน
ซึ่งวิธีที่ aomMONEY คิดว่าง่ายและน่าจะสะดวกกับทุกคนที่สุด คงจะเป็น “การหมั่นเติมเงินลงทุนเพิ่มอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ เดือน” จะเป็นเงินหลักพันหรือหลักหมื่นก็ได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ เราต้องมีวินัยการออมอย่างสม่ำเสมอ
เติมเงินทีละเล็กละน้อยมันเห็นผลขนาดนั้นเลยเหรอ?
ผมจะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันง่ายๆ
สมมติ ถ้าเราเลือกลงทุนในหุ้นเหมือนเดิม ด้วยเงิน 100,000 บาทเท่าเดิม คาดหวังอัตราผลตอบแทนปีละ 7.7% แต่ลงทุนเพิ่มเดือนละ 5,000 บาท ถ้าคิดด้วยอัตราดอกเบี้ยทบต้น
⭐ เราจะมีเงิน 1 ล้านแรก ภายในระยะเวลาแค่ 10 ปี! ช่วยร่นระยะเวลามาได้ถึง 20 ปีเลยนะครับ ⭐
จากตัวอย่างที่ aomMONEY ยกมา เพื่อนๆ น่าจะเห็นแล้วว่า การลงทุนให้ประสบความสำเร็จ ประกอบไปด้วยปัจจัย 3 ประการ คือ
✅ 1.จำนวนเงินต้น และ การเติมเงินลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
✅ 2.ผลตอบแทนระยะยาวแบบทบต้นของการลงทุนในแต่ละปี
✅ 3.ระยะเวลาที่ลงทุน
ทั้ง 3 สิ่งนี้ เป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กันที่จะทำให้เงินของเราเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล และสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไรดี เพราะปัจจุบันมีทางเลือกมากมาย ทั้งฝากเงินกับธนาคาร พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ETF กองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมอสังหาฯ หุ้น อนุพันธ์ คริปโตฯ NFT ฯลฯ
ก่อนจะถามว่าลงทุนอะไรดี หรือมุ่งหาว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของแต่ละสินทรัพย์อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ aomMONEY แนะนำว่า ให้ตั้งเป้าหมายก่อนว่าจะลงทุนไปเพื่ออะไร ระยะเวลาลงทุนสั้น กลาง หรือยาว
และที่สำคัญต้องประเมินความเสี่ยงจากการขาดทุนที่ตัวเองรับไหวด้วย จากนั้นค่อยมองหาการลงทุนที่ตัวเองสนใจ ศึกษาข้อมูลให้เข้าใจและเริ่มต้นลงทุนอย่างมีความรู้ จะดีกับตัวเรามากนะครับ โดยเพื่อนๆ มือใหม่ สามารถเข้าไปลองทำแบบประเมินความเสี่ยงจากการลงทุนได้ที่ https://bit.ly/3pGtpmh
หรือ SI Risk Profile Questionnaire https://bit.ly/3CfaBxY
และอย่างที่ผมย้ำทุกครั้งว่า การลงทุนมีความเสี่ยงจากการขาดทุน ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการลงทุนที่ไหนกล้าการันตีผลตอบแทนสูง ถ้าเจออาจจะต้องระวังให้มากๆ แล้วล่ะครับว่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่
หวังว่าจะมีประโยชน์ครับ
#aomMONEY
อ่านบทความอื่นๆ
⭐ จับเงินล้านในระยะเวลา 10 ปี ต้องทำอย่างไร? https://bit.ly/3CskR68
⭐ มีเงิน 10,000 บาท ลงทุนอะไรได้ผลตอบแทนสูงที่สุด? https://bit.ly/3Cp6Kyn
⭐ มีเงินเดือนละ 2,000 บาท ลงทุนอะไรดี? https://bit.ly/3nCSADO
⭐ ไม่มีการลงทุนไหน ที่การันตีผลตอบแทนสูง ถ้ามี...แสดงว่าคุณกำลังเจอแชร์ลูกโซ่! https://bit.ly/2XPQo2K
◤ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
👍 ชอบกด Like โดนใจ กด Share
และอย่าลืม ✅ See First
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดข่าวสารใหม่ ๆ ก่อนใคร
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = ◢
ติดตามความรู้ทางการเงินในช่องทางอื่นๆ ได้ที่
📌 กลุ่มกองทุนไหนดี https://bit.ly/3aOjgMl
- 25
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
