Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คหสต.
•
ติดตาม
4 พ.ย. 2021 เวลา 06:04 • การศึกษา
'ความยากจนคือโรคชนิดหนึ่ง'
เป็นเวลาหลายวันที่ผมศึกษาเรื่องการลงทุนและค้นหาคำตอบว่าจะพ้นจากความยากจนไปได้อย่างไร?
และด้วยความมือใหม่ ไก่อ่อน ทำให้ทั้งการฟังบรรยายในเรื่องการลงทุน หนังสือ ออดิโอบุ๊ค ที่เฝ้าฟัง เฝ้าดูมาทั้งวันทั้งคืนนั้นดูจะไม่เกิดผลอะไรซักเท่าไหร่นัก
ตลอดทั้งเช้าวันนี้ผมได้ฟังบรรยายการลงทุนในหุ้นระยะยาว และแม้ว่าผมจะไม่เข้าใจศัพท์การลงทุนที่บรรยายในวิดีโอเหล่านั้นเลย แต่ก็อดทนฟังมันจนจบทุกคลิป
'เฮ้อ' ผมถอนหายใจยาว ในขณะที่ตัดสินใจออกจากโลกการลงทุนที่แสนจะสับสนนั้นสักพัก นั่งลงจับเข่าปล่อยความคิดล่องลอยไป
ความจนมันก็คือโรคภัยอย่างหนึ่งนะผมว่า
ทุกๆคนต่างก็เลือกหมอที่จะมารักษาให้หายจากความยากจน บางคนเลือกไปหาหมอผีก่อนเป็นอันดับแรก
ในชีวิตตลอดอายุ 23 ปี ผมเจอคนที่พึ่งพารักษาโรคความจนกับหมอผีเหล่านี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว พวกเขาหวังแก้ความจนด้วยการซื้อกระดาษที่มีตัวเลข 6 ตัวอยู่บนนั้น
แย่หน่อยที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะหาย หลายคนกลับอาการแย่ลงด้วยซ้ำแต่พวกเขาก็ถูกเลี้ยงไข้ด้วย 'ความหวัง' และคำว่า 'ซักวันหนึ่งฉันจะต้องถูก'
ผมมีพี่ที่รู้จัก เธออายุได้ 30 กว่าปี เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่มีงาน ทุกครั้งที่มีโอกาสเธอจะไปหาหมอผีเถื่อน (ผมยอมรับว่ายาที่หมอผีให้เธอนั้นได้ผลหลายครั้งทีเดียว) มีครั้งหนึ่งที่เธอหลุดจากความจนมาได้ก้าวหนึ่งแล้ว ด้วยจำนวนเงินนั้นเธอสามารถเอาไปลงทุนให้งอกเงยได้อย่างไม่ยากเย็น แต่แล้วมันก็หายวับไปอย่างไว แทบจะไวพอๆกับตอนที่มันมานั่นแหละ
ทุกวันนี้เธอต้องใช้เงินที่รัฐบาลแจกให้ลูกมาใช้ล่อเลี้ยงชีวิตไปวันๆ ส่วนผมน่ะหรอ โชคดีที่ผมไม่ถูกกับยาของหมอผีเลยจริงๆ
หมอเสน่ห์ก็เป็นอีกหมอที่คนแห่กันไปขอยารักษาความจน เพราะค่อนข้างจะหายจนง่าย แต่คุณอาจต้องลงทุนอะไรซักหน่อย ผมเคยรู้จักเพื่อนคนหนึ่งที่ไปหาหมอเสน่ห์แล้วก็หายจากความจนทันตาเห็น ทุกๆเดือนจะมีกระแสเงินสดไหลเข้าบัญชีของเธออย่างน้อย 2-3 หมื่น พอให้เธอและครอบครัวอยู่ได้ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่นัก
อย่าเพิ่งตัดสินไปก่อนล่ะ อย่างน้อยเธอก็ยังเจียดเงินบางส่วนไปลงทุนขายของอยู่บ้าง แม้ว่ามันจะไม่ค่อยได้อะไรคืนมาเลย ผมว่าถ้าเธอมีหัวด้านการลงทุนและวางแผนซักหน่อย เธออาจไม่ต้องพึ่งพายาของหมอเสน่ห์อีกเลยก็ได้ ส่วนผมน่ะหรอ โชคดีหรือร้ายดีล่ะที่ผมเองก็ไม่ค่อยถูกกับยาของหมอเสน่ห์พอๆกับยาของหมอผีนั่นแหละ
มาถึงตรงนี้ผมเองเห็นแต่คนอื่นไปหาหมอกัน ส่วนผมเพิ่งจะรู้ตัวว่าป่วยก็เมื่อไม่นานมานี้ซึ่งมันแย่กว่า 2 เคสที่ยกตัวอย่างมาซะอีก อย่างน้อยเขาก็ยังพอได้รับการรักษาแม้จะดูเป็นการรักษาที่ไม่ยั่งยืนเสียเลยก็ตาม
และตอนนั้นเองที่ขาของผมกำลังส่งกลิ่นตุๆแล้วล่ะ บางครั้งคนเราก็สร้างมโนคติขึ้นมาเองว่า 'ตัวเองไม่ต้องการหมอหรอก' 'ฉันสบายดี' แต่จริงๆแล้วขาที่เขาใช้เดินกำลังจะเน่าและติดเชื้อ
ใช่แล้ว ถ้าผมไม่เลือกหมอเก่งๆซักคนมารักษาอาการยากจนล่ะก็ วันหนึ่งขาหรือแขนซักข้างต้องเน่าและถูกตัดทิ้งแน่ๆ
และผมก็เลือก 'หมอแห่งความรู้' ผมแทบช็อคเมื่อเห็นยาชุดมโหฬารถูกสั่งจ่ายมาให้ผมโดยมีค่ายาที่ค่อนข้างสู่งลิ่วทีเดียว แน่นอนผมมาหาหมอเพื่อหายจากความจน ไม่ใช่ให้ผมต้องจ่ายเพิ่ม แต่แล้วก็ต้องยอมกับคำว่า 'อยากหายจนมั้ยล่ะ ยาดีๆไม่ฟรีหรอกนะ'
สุดท้ายผมเลือกยาชุดหนึ่งที่มีราคาที่ผมพอจะมีปัญญาจ่ายไหว เงินสองร้อยลอยออกไปจากกระเป๋าเหมือนมันมีปีกเลย ส่วนผมก็เดินเหม่อออกมาจากร้านหนังสือด้วยอาการไม่สู้ดีนัก
และผลลัพธ์ก็คือผมในปัจุบันนี่แหละ แม้ผมจะยังไม่หายดี ผมยังคงจนอยู่แต่ก็รู้สึกดีขึ้นมากเมื่อผมมีความรู้ แน่นอนว่ามันมีผลข้างเคียงอาจจะมึนงงและสับสนบ้าง แต่ยิ่งยาแรงบวกกับการออกกำลังกาย ผมก็จะมีโอกาสหายได้มากขึ้น
โชคดีที่มียาฟรีมากมายให้ผมเลือกกิน แต่ถ้าอยากหายเร็วอาจต้องพึ่งยาชุดที่มีราคาสูงขึ้น แต่ที่คุ้มคือผมไม่ต้องเดาว่ายาตัวไหนกินคู่กันแล้วจะมีประสิทธิภาพดีเป็นทวีคูณ ดังนั้นถ้ามีโอกาสผมคงจะต้องซื้อยาชุดมากินดูซักครั้ง และเริ่มดูแลสุขภาพตัวเองอย่างจริงจัง
มาถึงตอนนี้ทุกคนอาจมีคำถามว่าแล้วต้องกินยาถึงไหร่ จึงจะเรียกว่าหายขาด ผมก็จะขอตอบเป็น คหสต. ว่า ก็คงกินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคุณตื่นมาทุกๆเช้าออกไปวิ่ง สูดอากาศ กินอาหารที่อยากกิน ไปในที่ที่อยากไป ช่วยเหลือผู้คนเท่าที่คุณต้องการช่วย โดยไม่ต้องกังวลว่าขาคุณจะเน่าหรือกลัวว่าตัวเองจะต้องถูกตัดขานั่นแหละ
บันทึก
2
3
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย