5 พ.ย. 2021 เวลา 13:00 • การศึกษา
หลายวันก่อนผมได้ตั้งคำถามในช่อง Question ว่า 'คุณคิดว่าการออมเงินในธนาคารจะทำให้คุณรวยขึ้นได้มั้ย' คำตอบของหลายคนทำให้ผมตกใจจริงๆ
ตั้งแต่เกิดมาพ่อผมมักบอกเสมอว่า 'รู้จักเก็บ รู้จักออมเงินเสียบ้าง' และผมก็เชื่อเหลือเกินว่าหลายๆครอบครัวก็คงเป็นเหมือนกัน
แต่แล้วผมก็ได้รู้ว่าการเก็บออมเงินในธนาคารเพื่อยกฐานะทางการเงินนั้นเป็นเรื่องดึกดำบรรพ์ที่สุดในการสร้างอิสรภาพทางการเงิน
เมื่อสมัยยังเป็นเด็กชนบทขี่จักรยานเก่าๆไปโรงเรียน ได้เงินวันละ 5 บาท ผมคิดว่าเรื่องเงินๆทองๆช่างห่างไกลตัวผม เรื่องนั้นให้ผู้ใหญ่เขาคุยกัน เด็กอย่างเรามีหน้าที่เรียนก็พอ แล้ววันหนึ่งหลังจากกลับจากโรงเรียน พ่อก็ยื่นกระปุกออมสินให้ผม
คุณคิดว่าคนอย่างผมจะหยอดกระปุกออมสินเพื่อออมเงินมั้ยครับ?
ครับ ผมหยอด อย่างน้อยก็วันละ 1 บาท (ฮ่าๆๆ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะครับ) แต่แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะเมื่อวันหยุดเสาร์อาทิตย์มาถึง เสียงกระดิ่งดังลอยมาแต่ไกล สุดท้ายผมก็กลายเป็นนักแคะกระปุกมือฉกาจในวัย 5 ขวบ
เอาจริงๆผมไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วการออมเงินคืออะไรต่างหาก ดังนั้นผมจึงเข้าใจเอาเองว่า การออมเงิน คือการเก็บเงินไว้ซื้อของที่อยากได้ ไม่ใช่การออมเงินเพื่อสร้างฐานะหรืออิสรภาพทางการเงิน
จนกระทั่งได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการลงทุน เรื่องเงินทองไม่ได้ถูกจำกัดด้วยอายุ เพราะถ้ามันเป็นเช่นนั้นเด็กทุกคนต้องไม่ใช้เงินเลย เพราะอายุจำกัดพวกเขาออกจากเงิน ซึ่งความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เลย เราทุกคนเริ่มใช้เงินตั้งแต่แม่รู้ตัวว่ามีเราเลยล่ะมั้ง
ในหนังสือบอกว่า 'อย่าเอาเงินของคุณเข้าแบงค์แล้วหวังว่ามันจะงอกเงย มันจะไม่เป็นเช่นนั้นหรอกเพราะมันจะถูก 'เงินเฟ้อ' กัดกินไปเรื่อยๆ'
เงินเฟ้อนี่อาการเหมือนท้องเฟ้อหรือเปล่า? ผมสงสัย รายละเอียดในหนังสือทำให้ผมเห็นอย่างกระจ่างชัดว่า พลังของเงินเฟ้อที่กัดกร่อนเงินที่นอนแอ้งแม้งอยู่ในธนาคารนั้นน่ากลัวเพียงใด แต่น่าเศร้าที่หลายคนไม่รู้และยังคงชื่นชมดอกเบี้ยเท่าดอกเข็มที่ธนาคารให้นั้นอยู่ทุกวี่วัน
ผมจะอธิบายง่ายๆว่าเงินเฟ้อคืออะไร เงินเฟ้อคือมูลค่าของเงินที่ลดลง (ผิดถูกยังไงช่วยแนะนำได้นะครับ) นึกย้อนไปเมื่อผมยังเด็ก ผมสามารถเข้าร้านค้าใกล้บ้านและซื้อขนม 2 บาทได้อิ่ม หรือ 5 บาทสำหรับก๋วยเตี๋ยว 1 ชามแบบจุกๆ
ระยะเวลาผ่านไป ทุกวันนี้ที่ราคาก๋วยเตี๋ยวพุ่งไปที่ 40-70 บาทเลยทีเดียว นั่นหมายความว่า 100 บาท วันนี้มีมูลค่าไม่เท่ากับเมื่อ 20-30 ปีที่แล้วอีกต่อไป เพราะพลังของเงินเฟ้อกัดกร่อนมูลค่าของเงินเฉลี่ยปีละ 3% แล้วคุณคิดว่ายังจะดีใจกับดอกเบี้ยธนาคารที่ให้คุณแค่ 0.25% อยู่มั้ยล่ะ?
ผมดีใจที่ได้รู้ข้อมูลเหล่านี้และรู้สึกโล่งแปลกๆเพราะว่าผมไม่เหลือเงินในบัญชีพอให้เงินเฟ้อมากัดกิน (โล่งแปลกๆ) และคิดว่าถึงเวลาเสียทีที่ผมจะใส่ใจเรื่องเงินให้มากกว่านี้ เริ่มจากหางานทำซักงานและเริ่มลงทุนกับอะไรบางอย่างที่ผลตอบแทนมากกว่า 3% เพื่อต่อกรกับเงินเฟ้อ
และผมยังรู้สึกยินดีสำหรับคำตอบของผู้คนที่รู้ทันเจ้าเงินเฟ้อนี้อยู่และไม่นิ่งนอนใจที่จะสู้เพื่อเงินทุกบาทที่หามาอย่างอดทน
และ คหสต. ของผมในการเลือกที่จะออมเงินไว้ในที่ที่เงินจะงอกเงยได้นั้นเป็นอะไรที่ดี ควรค่าแก่การทำ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบความยุ่งยากหรือเรียนรู้เรื่องการเงินจึงยอมให้เงินเฟ้อขโมยมูลค่าเงินของพวกเขาไปง่ายๆ
ผมวางแผนไว้ว่าทุกครั้งที่ผมได้เงินจากงานประจำ ผมจะนำเงินส่วนหนึ่งไปออมในหุ้นดีๆซัก 4-5 ตัว และก็เดาได้ว่าพ่อหรือคนรอบตัวผมจะประหลาดใจว่าเงินที่ผมตรากตำทำงานมานั้นหายไปไหน และคำหนึ่งที่ผมมักได้ยินจากบุคคลเหล่านี้คือ 'มีเงินทำไมรีบใช้ ทำไมไม่รู้จักเก็บออมใส่ธนาคารไว้บ้าง กลัวเงินบูดหรอ?'
ใช่ครับผมกลัวเงินบูด ก็เลยเก็บเงินไว้ใน 'ตู้เย็นมวลสาร' ที่จะช่วยให้เงินหลักพันของผมงอกเงยกลายเป็นเงินล้านได้ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
ส่วนคนที่ยังมีความเชื่อเดิมๆ ก็ระวัง 'ปลวก' ที่เรียกว่า 'เงินเฟ้อ' มากัดกินเงินของคุณนะครับ ถึงตอนนั้นเงิน 100 บาทของคุณอาจซื้อก๋วยเตี๋ยวได้เพียงชามเดียว...
โฆษณา