4 พ.ย. 2021 เวลา 18:08 • การเมือง
อินโด-แปซิฟิกกำลังยุ่ง
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
เดือนที่แล้ว สหรัฐส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์ยูเอสเอส คอนเนคทิคัต เข้ามาแล่นในทะเลจีนใต้ แล้วก็ชนกับสิ่งที่เป็นรูปทรงทางธรณีวิทยา (ไม่ใช่เรือ) ทำให้เรือดำน้ำต้องแล่นบนผิวน้ำกว่า 1 สัปดาห์ กลับไปซ่อมที่เกาะกวม
ถ้าเรือดำน้ำของจีนไปป้วนเปี้ยนที่น่านน้ำใกล้สหรัฐหรือชาติตะวันตกอื่น และเกิดอุบัติเหตุลักษณะเดียวกัน ก็คงจะโดนทัวร์ลงจนเละ
การที่เรือดำน้ำและเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐเข้ามาในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ทำให้มีการแข่งขันกันสร้างและสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์ในภูมิภาค และอาจนำไปสู่การใช้กำลังเข้าสู้กันได้ในอนาคต
เรื่องอุบัติเหตุนี่อย่าประมาทครับ ไม่นานมานี้ เรือดำน้ำของญี่ปุ่นลำหนึ่งก็เพิ่งชนกับเรือพาณิชย์ในมหาสมุทรแปซิฟิก
เพราะสหรัฐและตะวันตกมาป้วนเปี้ยนหน้าบ้าน จีนจึงต้องเร่งพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างเร่งด่วน ทำให้เกิดความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีอวกาศและการทหารอย่างก้าวกระโดด
อย่างเครื่องบินขับไล่ล่องหน J-20 ของจีนรุ่น 2 ที่นั่ง เครื่องรุ่นนี้ทำให้นักบินทำงานได้ซับซ้อนมากกว่านักบินคนเดียว แต่เดิมคนทั่วไปคิดว่า ถ้ามีการปฏิบัติการทางอากาศ จีนจะเสียเปรียบสหรัฐมาก ทว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอวกาศและการทหาร อาจจะทำให้จีนไม่เสียเปรียบมากนัก
ถ้าจีนหัวเดียวกระเทียมลีบเหมือนเมื่อก่อน ก็อาจเป็นเรื่องน่ากลัว แต่ตอนนี้จีนกับรัสเซียผนึกกำลังกัน จะเห็นว่าปัจจุบันมีการซ้อมรบทั้งบนบกและทางทะเลของรัสเซียกับจีนบ่อยขึ้น
ไม่กี่วันก่อน รัสเซียกับจีนก็ร่วมกันแล่นเรือผ่านช่องแคบสึการุและหมู่เกาะอิซุ จีนกับรัสเซียไม่ใช่เพิ่งมาร่วมมือกันนะครับ สองชาตินี่ฝึกซ้อมทางการทหารด้วยกันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2555 และตั้งแต่ พ.ศ. 2562 ก็มีการลาดตระเวนทางอากาศเหนือทะเลจีนตะวันออกและทะเลญี่ปุ่นประจำปีร่วมกัน
ยืนยันกันแล้วว่า จีนสามารถเพิ่มความแม่นยำของอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้ ขีปนาวุธที่มีความเร็วเหรือเสียงที่จีนทดสอบสำเร็จเรียบร้อยแล้วมีความเร็วมากกว่า 10 มัค
จีนพัฒนาเซ็นเซอร์ที่ตั้งค่าด้วยเทคโนโลยีเอไอ เมื่อมีการเปิดตัวอาวุธ เอไอจะคำนวณตำแหน่งของขีปนาวุธโดยใช้สัญญาณจากระบบดาวเทียมนำทางเป่ยโต่ว ทำให้มีความแม่นยำสูงมาก
นี่ยังไม่รวมความลับสุดยอดของอาวุธยุทโธปกรณ์อีกหลายอย่างที่ยังไม่เอามาโชว์กัน
ประเทศที่กระอักกระอ่วนใจก็คือกลุ่มประเทศอาเซียน เพราะต้องวางตัวเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็อาจจะนำภัยมาสู่ประเทศโดยไม่รู้ตัว
ประชากรโลกมากกว่าครึ่งหนึ่งที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอยู่ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ใครมีอิทธิพลต่อภูมิภาคนี้ คนนั้นก็เป็นมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลก
สหรัฐอยู่ไกลพื้นที่ก็สร้างอิทธิพลด้วยการใช้ทหารของตนเข้ามาลาดตระเวนทางเรือ+วางกำลังทหารในพื้นที่สำคัญ + สร้างพันธมิตรทางการเมืองและสร้างหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ
ผมว่าสิ่งที่จีนกังวลใจในตอนนี้มากที่สุดน่าจะเป็นการที่ออสเตรเลียจะมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ หากเกิดเหตุการณ์รบพุ่งกัน เรือดำน้ำของจีนจำเป็นต้องเข้ามาถึงมหาสมุทรแปซิฟิกให้ได้
การจะเข้ามาถึงได้ เรือดำน้ำจีนต้องแล่นผ่านแนวเกาะที่ทอดยาวระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์
บริเวณนี้นี่แหละครับ ที่เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของออสเตรเลียสามารถจะเข้ามาขัดขวางเรือดำน้ำของจีนได้
การรวมตัวของ AUKUS (ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐ) โดยมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะซัดกับจีน ทำให้จีนต้องเร่งสร้างเรือดำน้ำเพิ่มอย่างเร็ว นอกจากนั้น จีนยังต้องพัฒนากองเรือและกองกำลังต่อต้านเรือดำน้ำ
ประเทศขนาดเล็กและกลางอย่างเกาหลีเหนือและอิหร่านนี่ โลกประณามเรื่องนิวเคลียร์กันจัง แต่กับพวกมหาอำนาจชาติเบอร์ใหญ่ ไม่ค่อยเห็นใครเอ่ยถึง
การไปกระตุ้นให้ออสเตรเลียมีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ ทำให้หลายประเทศคิดถึงการจะสร้างตามบ้าง ประเทศที่มีศักยภาพที่พอมิงเห็นว่าน่าทำได้ก็มีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย
มีกันครบเมื่อใด เตรียมรับความยุ่งเหยิงไว้ได้เลยครับ.
โฆษณา