5 พ.ย. 2021 เวลา 07:03 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องเจ้าชู้ เป็นกันได้ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่เกี่ยวว่าสวยหรือหล่อ ต่อให้ไม่หล่อแต่คารมดี ก็เจ้าชู้ประตูดินกันได้ทั้งนั้น
และถ้าลองได้มีบ้านเล็กบ้านน้อยแล้ว ปัญหาวุ่นวายจนแทบบ้านแตกก็ตามมา
ดังเช่นเรื่องนี้ เกิดขึ้นกับชายคนนึง ชื่อทรงพล
ทรงพลนับว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดี อายุก็ล่วงไป 46 ปีวัยกลางคนแล้ว แต่ยิ่งแก่ยิ่งหล่อ แกไม่ได้หล่อคมเหมือนชายไทยสมัยโบราณ แต่หล่อแบบหน้าละมุน แบบพระเอกลิเก
ซ้ำยังปากหวาน รู้จักเจรจา นับว่าเป็นคนที่รู้จักพูด พูดแล้วคนรัก ใครๆ ก็อยากคุยกับแก สาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันหลงไหล
ทรงพลแต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว 2 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่ คนโตเรียนกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ส่วนคนเล็กนี่เพิ่งจะเริ่มสาว อายุเพิ่งจะ 14 เท่านั้น
ส่วนวีรกรรมความเจ้าชู้ของทรงพล ภรรยารู้ดีที่สุด สมัยคบหาดูใจกันใหม่ๆ ทั้งคู่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม วัยสาว เรื่องตบตีมือที่สามเป็นอยู่บ่อยครั้ง ชนิดที่ว่า ตามไปตบถึงโรงแรมกันเลยทีเดียว และวีรกรรมอีกมากมาย นับไม่ถ้วน
ภรรยาทรงพลก็ดุไม่เบา ไม่งั้นกำราบไม่อยู่
ทรงพลก็ดูจะเกรงใจภรรยาอยู่เหมือนกัน แต่สันดานมันก็คือสันดาน อดไม่ได้ มีโอกาสทีไรเป็นต้องแว๊บ จับได้บ้าง จับไม่ได้บ้าง
จนตอนนี้ัทั้งคู่อยู่ในวัยกลางคนกันแล้ว ฝ่ายภรรยาก็แสนจะเหนื่อยหน่าย ไม่มีแรงจะมาตีรันฟันแทง ตบตี นังผู้หญิงพวกนั้น อีกอย่างเป้าหมายในชีวิตก็เปลี่ยนไป ตั้งแต่มีลูก เป้าหมายสำคัญคือการเลี้ยงดูลูก แค่นี้ก็เหนื่อยจะตาย หากต้องมานั่งจับผิดสามี ตบตีกับแม่สาวพวกนั้น คงจะไม่ไหว
แต่ถ้าถามว่าเธอรู้พฤติกรรมของสามีมั้ย คนเป็นเมียมีเหรอจะไม่รู้ แต่เธอก็เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ปล่อยได้ก็ปล่อยไป ถือซะว่า กรรมใครกรรมมันแล้วกัน ใครทำกรรมอย่างไรก็ได้อย่างงั้น ….. อยากจะผิดศีลข้อ 3 อยากตกนรกนัก ก็เรื่องของเธอ !!!
ฝ่ายชาย แม้จะวัยกลางคน แต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่เสน่ห์และความเจ้าชู้ ไม่ได้ลดลงเลย ทำงานบริษัทไหน ต้องมีความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ไม่แผนกตัวเอง ก็แผนกอื่น เรียกได้ว่าทำงานที่ใดก็มีเมียที่นั่นก็ว่าได้
ฝ่ายหญิงก็รู้ว่าทรงพลแต่งงานมีเมียมีลูกก่อนแล้ว แต่เนื่องจากทรงพลไม่เคยพาภรรยามาเปิดตัว ไปงานเลี้ยงไหนก็ไปคนเดียว และด้วยความสนิทสนม หมาหยอกไก่กันไปมา ก็ทำให้ฝ่ายหญิงใจอ่อน
ผู้หญิงบางคน เป็นคนมาจีบทรงพลก่อนด้วยซ้ำ ทั้งที่รู้ว่ามีลูกเมียแล้ว แต่เมื่อเมียไม่มายุ่มย่าม หรือก้าวก่ายอะไร พวกเธอก็พร้อมที่จะเป็นเล็กๆ ให้ทรงพลเสมอ
เมื่อมีความสัมพันธ์กับใคร ทรงพลก็จะถือว่าพวกเธอสมยอมเอง
"ผมบอกแล้วว่าผมมีลูกมีเมียแล้ว คุณเข้ามาเอง ก็ผมเป็นผู้ชาย ผมเป็นคนใจดี ผมก็ไม่ปฏิเสธ" ซึ่งเป็นข้ออ้าง และคำพูดที่เห็นแก่ตัวมาก
ผู้หญิงบางคน จบแล้วก็จบกัน แต่บางคนก็ยื้อยุดติดพัน วิธีการแก้ปัญหาของทรงพลง่ายๆ คือย้ายที่ทำงาน
สมัยนั้นยังไม่มี internet โทรศัพท์มือถือก็ยังไม่ได้แพร่หลาย มีกันคนละเครื่องเหมือนในยุคนี้ การจะหายไปดื้อๆ เป็นเรื่องง่ายที่จะทำ
ทรงพลยังคงทำพฤติกรรมนี้เรื่อยมา เพราะไม่เห็นโทษ และคิดแบบมิจฉาทิฐิว่า ผู้ชายที่ไหนก็ทำ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด ผิดจริงๆ
จนเมื่อได้งานใหม่ ทีนี้ได้ตำแหน่งดีทีเดียว ได้งานในระดับหัวหน้างาน ด้วยตำแหน่งดี และเงินดี ทรงพลจึงเริ่มคิดได้ว่าจะมาทำตัวแบบเดิมไม่ได้
ที่คิดแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะกลัวบาปกรรมอะไร แต่เพราะกลัวความวุ่นวายจะเกิด และต้องออกจากงานอีก แท้จริงแล้วคือเสียดายเงินเดือน เพราะค่อนข้างจะสูงทีเดียว
แต่กิเลสตัณหาก็มีวิธีของมัน เมื่อเราได้ลองเหยียบบันไดของมันขั้นหนึ่งแล้ว มันจะทอดขั้นที่2 ที่3 ต่อมาให้เราเหยียบขึ้นไปเรื่อยๆ
กิเลสมันไม่ปล่อยเราง่ายๆ และคนที่ผิดศีลเป็นอาจิณ จะมีแรงต้านต่อกิเลสที่ต่ำ บางทีแค่กิเลสส่งแบบทดสอบง่ายๆ มา เราก็เสร็จมันตั้งแต่ยังไม่สู้ด้วยซ้ำ
แล้วก็เป็นอีกเช่นเคย ทรงพลมีความสัมพันธ์ลับๆ กับสาวต่างแผนก ครั้งนี้ฝ่ายหญิงไม่ใช่สาวโสด มีลูกมีผัวแล้ว ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นแต่ความสัมพันธ์กับทรงพล ทั้งคู่เก็บไว้เป็นความลับมิดชิด
แต่ก็อีกนั่นแหละ เรื่องคาวๆ แบบนี้ มันปิดกันไม่มิด ถึงคนอื่นจะไม่รู้ไม่เห็นคาตาถึงบนเตียง แต่ก็เป็นที่ซุบซิบนินทากันเป็นที่สนุกปาก
ข่าวลือ ลือหึ่ง หนาหูไปถึงเจ้าของบริษัท ทรงพลและฝ่ายหญิงก็ถูกเรียกไปพบ และแน่นอนทั้งคู่ปฏิเสธ อ้างโน่นอ้างนี่ สารพัด และเจ้าของบริษัทก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไร ที่จะเอาผิดถึงขั้นไล่ออก ได้แต่ตักเตือน ว่าอย่าให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นอีก
เมื่อมีคนรัก ก็ต้องมีคนชัง ทุกครั้งของการประชุมระดับหัวหน้า ทรงพลมักจะโดนเพ่งเล็ง ไม่ใช่แค่เรื่องข่าวฉาวเท่านั้น เรื่องงานก็ด้วย หัวหน้าแผนกคนอื่น มักจะหาเรื่อง เช่น แผนกทรงพลทำงานช้า ส่งข้อมูลให้ล่าช้า จึงมีผลกระทบต่อแผนกอื่นๆ ด้วย และยังโดนหมั่นไส้ โดนหาเรื่อง อีกหลายอย่าง
จริงๆ เรื่องงาน ทรงพลก็ไม่ค่อยจะเก่งสักเท่าไหร่ ออกจะทำแบบขอไปที สักแต่ว่าเสร็จก็บ่อยครั้ง เรื่องขอตัวกลับก่อน ออกก่อนเวลานี่ประจำ เป็นหัวหน้าได้อภิสิทธิ์ไม่ต้องตอกบัตร ยิ่งเย็นวันศุกร์ หลังทานข้าวเที่ยงก็ไม่เห็นตัวแล้ว
เมื่อเครียด ก็หาที่ระบาย สาวใหญ่ผัวเผลอ ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดี ทรงพลมักไปมีความสัมพันธ์กับเธอ ยิ่งเครียดเรื่องงาน ยิ่งนัดเจอกันบ่อย
วันหนึ่งมีเสียงโทรศัพท์ดังที่บ้านทรงพล ภรรยาเป็นผู้รับสาย ปลายสายเป็นผู้ชาย ฟังจากน้ำเสียง อายุคงไม่น้อย
ปลายสายบอกว่าเขาเป็นสามีของผู้หญิงในที่ทำงานเดียวกันกับทรง และตอนนี้เขาได้สืบรู้มาว่าผัวของคุณแอบไปมีความสัมพันธ์กับเมียของเขา และเขารู้เรื่องนี้มาสักพักใหญ่แล้ว จนเขาได้แอบสะกดรอยตามไป จึงได้เห็นว่าทั้งคู่แอบเข้าม่านรูดกัน ที่โทรมานี่ต้องการแฉพฤติกรรม ให้เมียของมันได้รู้
พร้อมยังขู่มาอีกว่า ทำแบบนี้มันหยามเกียรติกันชัดๆ เรื่องคงไม่จบเท่านี้ ผมจะเอาให้สาสม !!!
เมื่อวางสายจากชายลึกลับ หัวใจแทบตกอยู่ที่ตาตุ่ม ไอ้เรื่องจะหึงหวง ตามไปราวี มันคงไม่มีแล้ว คงจะมีก็แต่ความหวาดกลัวกับคำขู่ของปลายสาย เดาไม่ออกจริงๆ ว่าเขาจะทำอะไร ทำแบบไหนกับคำว่า “จะเอาให้สาสม”
เมื่อแจ้งเรื่องนี้ให้สามีได้ทราบ ว่าหายนะกำลังจะมาถึงตัว ทรงพลได้แต่ก้มหน้า และบอกว่า ก็ฝ่ายหญิงมาหาเขาเอง เขามาปรึกษาว่าเขามีปัญหากับสามี เขาเหงา ปรึกษากันมา มันก็เลยเถิด แต่ก็ตกลงกันแล้ว ว่าเป็นเพื่อนปลอบใจกันเท่านั้น ไม่ผูกพันธ์กัน
ทรงพลให้เหตุผลอย่างคนมักง่าย เห็นแก่ตัว ผู้หญิงเค้ามีลูกผัวแล้ว ตัวเองก็มีลูกเมีย มันต้องมีความละอายกันบ้าง แค่พูดคำหวานให้กัน ก็น่าละอายเต็มทน แต่นี่เกินเลยถึงคุยกันบนเตียง ต้องหยาบกระด้าง และมักมากในกามขนาดไหน ถึงทำได้ขนาดนี้ ถ้าไม่เรียกว่าชายโฉดหญิงชั่ว ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
ภรรยาทรงพลขอหย่าทันที เพราะไม่รู้จะทนต่อไปเพื่ออะไร ลำพังที่ผ่านมา แค่สันดานเจ้าชู้ ไปมีเล็กมีน้อย ก็สร้างปัญหาเต็มที ทำงานที่ไหนก็ไม่ทน ไปสร้างปัญหาแล้วก็ออก รายได้ฝ่ายชายก็กระท่อนกระแท่น การเงินในบ้านเธอก็ดูแลเป็นหลัก ทำไมเธอจะต้องมาเลี้ยงผู้ชายห่วยๆ แบบนี้ด้วย นี่มันเสาหลักปักขี้เลนชัดๆ
ยิ่งตอนนี้ย่ามใจหนัก ดันไปเป็นชู้กับผู้หญิงที่เขามีผัวแล้ว แถมผัวดุซะด้วย ภัยจะตามมาถึงเธอและลูกด้วย
ทรงพลไม่ยอมหย่า บอกว่าจะขอแก้ปัญหานี้เอง โดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร จะลาออก ย้ายงานแบบสมัยหนุ่มๆ ก็คงทำได้ยาก งานทุกวันนี้หายากเต็มที่ อีกอย่างอายุก็เยอะแล้ว ลาออกตอนนี้ คงไม่มีที่ไหนรับ
วันรุ่งขึ้นทรงพลยังคงไปทำงานตามปกติ โดยยังแบกปัญหาที่ค้างคาใจไปด้วย เขาพบว่าวันนี้ชู้รักของเขาไม่มาทำงาน ทรงพลก็ไม่ได้คิดอะไร
จนเมื่อเลิกงาน เขาก็ขับรถกลับบ้านตามปกติ เมื่อขับมาสักพักก็รู้สึกผิดปกติบางอย่าง เขาเปิดไฟฉุกเฉิน แล้วขับเข้าข้างทาง ลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฎมีตะปู หรือตะไบ เขาก็ไม่ทราบได้ แทงอยู่ในเนื้อยาง
นี่คงเป็นสาเหตุให้ลมรั่วออกมา ระหว่างที่คิดในใจ ว่าปั้มที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหน ก็มีรถเก๋งคนหนึ่งขับมาจอดท้าย โดยมีชายร่างกำยำคนหนึ่งลงมาจากรถ เดินเข้ามา แล้วถามเขาว่า มีอะไรให้ช่วยมั้ย
กลิ่นอายแห่งอันตรายโชยมา ถึงชายคนนั้นจะโปรยคำพูดที่เป็นมิตร แต่สัญชาติญาณพื้นฐานของมนุษย์ สามารถสัมผัสถึงอันตรายได้
ยังไม่ทันที่เขาจะตอบอะไรออกไป ทันใดนั้นชายอีก 2 คน ก็เดินลงมาจากรถ
และขณะที่ยังไม่ทันจะตั้งตัว ชายคนแรกชกเสยเข้าที่ปลายคาง หมัดหนักๆ ทำให้เขาเซถลาล้มลง และสหบาทา ทั้งหมัด ทั้งตีน ก็ลงรวมมาอยู่ที่เขา ทั้งจุก ทั้งเจ็บ มันอื้ออึงไปหมด !!!
ทรงพลนอนอยู่ตรงนั้น นานเท่าใดไม่ทราบ รู้ตัวอีกทีก็มีเสียงหนึ่งกำลังเรียกเขา
ลืมตา เห็นเมียและลูก นั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย หมอบอกเขาไม่เป็นอะไรมาก ไม่ได้บาดเจ็บสาหัส สมองได้รับความกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อย ไม่เป็นอะไร แต่อาการฟกช้ำนี่สิ แทบจะทั้งตัว
ทรงพลคิด นี่คงเป็นการเพียงสั่งสอนเท่านั้น แต่ที่แย่ไปกว่านั้น ทรัพย์สินที่มีติดตัว รวมถึงรถ ถูกชาย 3 คนนั้นเอาไปด้วย ตำรวจมา สอบปากคำ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทรงพลรักษาตัวที่รพ. ต่ออีกหลายวัน โดยแจ้งบริษัทว่าจะขอลาป่วยต่อ เพื่อรักษาตัวต่อที่บ้าน ป่านนี้ เรื่องนี้คงอื้ออึงไปทั่วบริษัท คงเป็นที่สนุกปากของใครต่อใคร
ขณะที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.นั้น มีแต่ลูกและเมียของเขาเท่านั้นที่ดูแลเขาเป็นอย่างดี
จนเมื่ออาการดีขึ้น หมออนุญาตให้ออกจาก รพ. 
แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็แทบเข่าทรุด ข้าวของในบ้านกระจัดกระจาย ประตูกระจกถูกทุบแตก ทีวีตู้เย็นล้มระเนระนาด โซฟาถูกกรีด ผนังบ้านถูกพ่นสี ผ้าม่านขาดวิ่น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือใคร
มันเอาเราเกือบตาย ยังไม่หนำใจพวกมันอีกเหรอ
ฝ่ายภรรยารับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งโกรธและเสียใจ เก็บข้าวของที่จำเป็น และพาลูกไปอยู่บ้านแม่ตนเองทันที
ฝ่ายทรงพล เมื่อภรรยย้ายออกไป ก็เหลือตัวคนเดียว พยายามเก็บข้าวของที่พอจะใช้ได้ อันไหนแตกหักพังก็ทิ้งไป ใจอยากจะไปแจ้งความ แต่ก็อีกนั่นแหละ เขาแค่เจ้าชู้ประตูดินไปวันๆ เรื่องนักเลงชกต่อยมีเรื่องกับใครนี่ ออกจะเป็นพวกตาขาวด้วยซ้ำ
ถ้าแจ้งความแล้วพวกมันตามมากระทืบอีก!!! แค่นึกก็เข่าอ่อนไปหมดแล้ว
ระหว่างที่เก็บของอยู่นั้น เขาเจอแผ่นกระดาษใบหนึ่ง ขนาดเท่ารูปภาพ พอหยิบออกมาดูก็ถึงกับใจหายวาบ !!!
ภาพนั้นคือหญิงชู้รักของเขา สภาพใบหน้าบวมปูด ดวงตาเขียวช้ำ น่าจะถูกซ้อมมาอย่างหนัก
ทันใดนั้น !!! เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้นมา ทรงพลตัดใจรับสายด้วยความกล้าๆ กลัวๆ ทันทีที่ยกหู ปลายสายพูดอย่างดุดันว่า “ถ้าไม่อยากตาย อย่ามายุ่งกับเมียกู นี่แค่สั่งสอน” พูดสั้นๆ แค่นั้นก็วางสายไป
นี่สินะ ที่เค้าเรียกว่า เล่นกับไฟ ไฟจะลวกมือ จริงอย่างที่ว่าจริงๆ
ทรงพลไม่กล้ากลับไปทำงาน ทั้งอาย และกลัวถูกดักกระทืบอีก จึงแจ้งลาออกทางโทรศัพท์
เมื่อไม่มีงาน ก็ไม่มีเงิน เงินเก็บที่มีเพียงเล็กน้อยก็เริ่มหร่อยหรอ พยายามหางานใหม่ทำ อายุก็แก่เกินไป ไปบริษัทไหนเขาก็ปฏิเสธ บางทีทำท่าจะได้งาน นัดเซ็นต์สัญญากันดิบดี จู่ๆ ก็ถูกปฏิเสธ
ตลอดวัยทำงาน ทรงพลใช้ชีวิตอย่างประมาท เงินก็ไม่ค่อยได้เก็บ ส่วนใหญ่ก็เอาไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย บำรุงบำเรอสาวๆ ตกถึงลูกเมียไม่เท่าไหร่ มัวแต่หมกหมุ่นในกาม จนไม่เคยได้พัฒนาตนเอง วิชาชีพอะไรไม่เคยฝึก ไม่เคยวางแผนหลังเกษียณ
เมื่อเงินทองเริ่มร่อยหรอ ความเครียดก็เริ่มประดังเข้ามา หน้าตาที่เคยสดใสหล่อเหลา ก็เริ่มมีริ้วรอยลึก ดูแก่ ดูโทรม ระยะเวลาไม่เท่าไหร่ ทรงพลแก่ลงเยอะ จนแทบไม่เหลือเค้าความหล่อ
ทรงพลอยู่กับบ้านเก่าๆ โทรมๆ หลังจากโดนถล่มบ้านในวันนั้น เฟอร์นิเจอร์หลายอย่าง รวมถึงประตู หน้าต่าง แตกพัง แต่เขายังไม่มีเงินจะมาซ่อมแซม
วันนึงเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ปลายสายเป็นภรรยาของเขากำลังร้องไห้ และบอกว่าลูกสาวคนเล็กท้อง ท้องไม่มีพ่อ ท้องตั้งแต่อายุ 14 ยังเป็นเด็กหญิงด้วยซ้ำ !!!
แล้วต่อว่าทรงพลอย่างรุนแรง ว่านี่คือวิบากกรรมที่พ่อมันทำไว้ เห็นหรือไม่ว่ากรรมที่ทำกับผู้หญิงไว้มากมาย สุดท้ายก็ย้อนกลับมาที่ลูกตัวเอง ที่ลูกเป็นแบบนี้เป็นเพราะพ่อมันเลว มักมากในกาม บ้ากาม ไม่มีที่สิ้นสุด
" แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ ที่คิดว่าตัวเองหล่อ เท่ห์ซะเต็มประดา วันนี้ต้องอยู่คนเดียว คงจะเหงาแทบจะขาดใจสินะ ไหนล่ะผู้หญิงพวกนั้นหายไปไหน มาช่วยดูแลปลอบใจมั้ย เงินสักบาทมันเคยมาช่วยเหลือมั้ย ข้าวสักกล่องมันเคยซื้อมาให้กินมั้ย " เธอทั้งด่าทั้งสาปแช่ง ความโกรธความแค้นที่มีมาตลอดระยะเวลาของการใช้ชีวิตคู่ พล่างพลูมาหมดในวันนี้
ทรงพลน้ำตาไหล ไม่รู้จะพูดคำใด แต่ละคำช่างจี้ใจดำ เสียดแทงเข้าไปในหัวใจเหลือเกิน จริงอย่างที่เธอว่า บัดนี้เขาอยู่คนเดียว ในบ้านที่เก่าๆ โทรม ไร้ชีวิตชีวา ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมาน
เคยอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ทุกวันจะมีเสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาว 2 คน ที่เล่นสนุกหยอกล้อกัน มีเสียงบ่นจากภรรยาบ้าง แต่นั่นก็คือเสียงแห่งชีวิต เสียงของบ้าน แต่บัดนี้ไม่มีเสียแล้ว
เมื่อหมดหนทางทำมาหากิน ทรงพลเลี้ยงชีพด้วยการทำอาหารขายในซอยบ้าน แต่ละวันก็ได้ไม่เท่าไหร่ พอได้เลี้ยงตัว จ่ายค่าน้ำค่าไฟ เมื่อวันเวลาผ่านไป ลูกสาวคนโตเรียนจบปริญญาตรี ได้งานทำ นานๆ ก็จะแวะมาหาพ่อ เอาเงินมาให้บ้าง นั่นยิ่งทำให้ทรงพลรู้สึกผิด
ทรงพลรู้ว่าลูกทั้งสองหมดศรัทธาในตัวพ่อ พ่อไม่เคยทำตัวเป็นตัวอย่างทีดีให้กับลูก สนใจแต่ความสุขส่วนตัว จนทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อน
นี่คือเรื่องของทรงพล ชายผู้ใช้ชีวิตด้วยความประมาท ลำพองตนเอง ว่าตนเองหล่อ เท่ห์ ผิดศีลข้อ 3 เป็นประจำ จนภัยมาถึงตัว
การผิดศีลข้อที่ 3 จะทำให้ชีวิตพบเจอแต่อุปสรรคทั้งทางกายใจ ทำมาหากินก็ติดขัด เงินทองเข้ามาก็หายไป มีความสุขได้ไม่นานก็ต้องตรอมใจอยู่กับความทุกข์ที่ทำ
ผลจากการผิดศีลข้อที่ 3
1. มีศัตรูมาก ไปที่ไหนก็มีแต่คนเกลียดขี้หน้า เป็นที่ชังของคนอื่น
2. เป็นผู้ที่ถูกปองร้าย ด้วยเหตุที่ว่าเราได้เคยสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับผู้อื่นไว้
3. การเงินฝืดเคือง ยากจน
4. เกิดในตระกูลต่ำ
5. จะมีเรื่องให้น่าอับอายอยู่เสมอ เพราะเหตุที่เคยได้สร้างความอับอายให้ผู้อื่น
6. มีร่างกายไม่สมประกอบ เช่น มีอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งใหญ่หรือเล็กผิดปกติ
7. มากด้วยความวิตกกังวล เพราะเหตุที่ทำกรรมที่ต้องปกปิด
8. พลัดพลากจากคนที่รัก
ชายหรือหญิงที่กำลังผิดศีลในข้อนี้อยู่ คุณเริ่มต้นใหม่ได้ ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะเลิกผิดอย่างเด็ดขาด ตั้งสัจจะอธิษฐานว่าจะไม่ทำผิดอีกแล้ว และศึกษาธรรมะ ศึกษาผลของการล่วงศีลข้อนี้ ว่ากรรมมีจริง การให้ผลของกรรมมีจริง
... คุณอาจจะทุกข์ใจ ฝืนใจในช่วงแรก แต่ไม่ว่าทุกข์บนโลกมนุษย์จะสาหัสเพียงใด เทียบไม่ได้เท่าธุลีทุกข์ในอบายภูมิแน่นอน
ผลกรรมชายเจ้าชู้
โฆษณา