11 พ.ย. 2021 เวลา 15:41 • ประวัติศาสตร์
10 อันดับ ราชวงศ์ที่มีอายุยืนนานที่สุดในโลก
ราชวงศ์คือกลุ่มคนชนชั้นปกครองในตระกูลสายเลือดเดียวกันที่เข้ามาปกครองบริหารอาณาจักรในรูปแบบราชาธิปไตย แล้วมีการสืบทอดอำนาจต่อมาเรื่อยๆตามกฏที่ราชวงศ์นั้นๆบัญญัติไว้ ในอดีตตั้งยุคโบราณจนถึงก่อนศตวรรษที่ 20 ราชวงศ์จะปกครองอาณาจักรต่างๆในรูปแบบราชาธิปไตย ซึ่งพระราชาบริหารเองและมีอำนาจสูงสุด แต่ในยุคหลังๆก็มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเกิดขึ้นในหลายๆอาณาจักรจนทำให้เกิดระบอบใหม่ที่เรียกว่า "ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ" เป็นการจำกัดอำนาจของราชวงศ์ไม่ให้บริหารเอง แต่ฝ่ายรัฐบาลจะบริหารเอง ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายประเทศที่ยังคงมีราชวงศ์อยู่ ทั้งแบบภายใต้รัฐธรรมนูญและราชาธิปไตย ในบทความนี้เราจะพาผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับราชวงศ์ที่มีอายุยืนนานที่สุดในโลกกันนะครับ
อันดับ 10 ราชวงศ์โชซ็อน - ประเทศเกาหลี
ธงพระอิสริยยศ
ธงประจำอาณาจักรโชซ็อน
สถาปนา 1392
สิ้นสุด 1910
รวมเวลา 518 ปี
ความเป็นมาโดยสังเขป
ราชวงศ์โชซ็อนเป็นราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งก็คือพื้นที่ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในปัจจุบัน ซึ่งปกครองโดยระบอบราชาธิปไตย เป็นยุคที่อาณาจักรมีความมั่นคงและเรืองปัญญา ในช่วงต้นมีการซึมซับวัฒนธรรมจีนอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นประเทศราชของอาณาจักรจีน อิทธิพลของจีนต่อเกาหลีจึงมีมากตามปกติ ทำให้มีการส่งเสริมปรัชญาลัทธิขงจื๊อให้แก่ชาวเกาหลีทุกคน รวมทั้งรับเอาวัฒนธรรมจีนอีกหลายอย่าง จนกระทั่งถึงช่วงศตวรรษที่ 16 ราชวงศ์ก็อ่อนแอลงจากการรุกรานของญี่ปุ่นและแมนจู ทำให้ต้องปิดประเทศไปนานหลายปี จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงศตวรรษที่ 19 ราชวงศ์โชซ็อนก็เสื่อมโทรมอย่างมาก เพราะการแย่งชิงอำนาจภายในราชวงศ์เองและต้องเผชิญกับสงครามภายนอก ทำให้อาณาจักรโชซ็อนตกอยู่ในภาวะระส่ำระสาย สับสนวุ่นวาย
ญี่ปุ่นเข้ายึดครองเกาหลี - สิ้นสุดราชวงศ์โชซ็อน
ในปี 1895 จักรวรรดิญี่ปุ่นรบชนะจีนราชวงศ์ชิง จึงบังคับให้อาณาจักรโชซ็อนแยกตัวเป็นอิสระไม่ขึ้นตรงต่อจักรวรรดิชิง หลังจากนั้นในยุคพระเจ้าโกจงก็ได้เลื่อนสถานะอาณาจักรกลายเป็นจักรวรรดิโชซ็อน แต่สุดท้ายความพยายามเป็นจักรวรรดิก็ล้มเหลวเพราะปัจจัยหลายๆอย่างที่ไม่เอื้ออำนวย จนกระทั่งถึงกาลอวสานเมื่อจักรวรรดิญี่ปุ่นเข้ายึดครองจักรวรรดิโชซ็อนในปี 1910 ก็เท่ากับเป็นการสิ้นสุดราชวงศ์โชซ็อนที่ปกครองเกาหลีมานานกว่า 500 ปี
อันดับ 9 ราชวงศ์ซิโซเดีย - อาณาจักรเมวาร์ (รัฐราชสถานของประเทศอินเดีย)
สีฟ้าคืออาณาจักรเมวาร์ที่อยู่ทางตอนใต้ของรัฐราชสถาน
สถาปนา 1326
สิ้นสุด 1884
รวมเวลา 558 ปี
ความเป็นมาโดยสังเขป
ราชวงศ์ซิโซเดียปกครองอาณาจักรเมวาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของรัฐราชสถานในประเทศอินเดีย ราชวงศ์นี้สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์กูฮิลา ซึ่งเป็นราชวงศ์สาขาหลักที่ปกครองรัฐราชสถานทั้งรัฐ แต่ภายหลังเกิดสงครามระหว่างรัฐ ซึ่งราชวงศ์กูฮิลาพ่ายแพ้ ทำให้ฝ่ายชนะสถาปนาราชวงศ์ใหม่ขึ้นปกครองอาณาจักรเมวาร์แทนราชวงศ์กูฮิลาเมื่อปี 1326 กลายเป็นราชวงศ์ซิโซเดียนั่นเอง แต่ราชวงศ์กูฮิลาก็ไม่ได้ล่มสลายแต่ยังคงเป็นราชวงศ์สาขาหลักของรัฐราชสถานที่ปกครองทั้งรัฐอยู่ แต่ในส่วนของอาณาจักรเมวาร์ก็เป็นของราชวงศ์ซิโซเดียอย่างเดียวแล้วปกครองเรื่อยมา
การสิ้นสุด
ในช่วงศตวรรษที่ 16 มีราชวงศ์หนึ่งขึ้นมาเป็นใหญ่และทำการโจมตีแคว้นต่างๆเพื่อรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวนั่นก็คือ "ราชวงศ์โมกุล" ซึ่งรบราฆ่าฟันปะทะกันบ่อยๆ ทำให้อำนาจของราชวงศ์ซิโซเดียแห่งอาณาจักรเมวาร์ลดลงอย่างมาก จนซิโซเดียต้องยอมรับอำนาจของราชวงศ์โมกุล ซึ่งหมายความว่าซิโซเดียต้องสูญเสียอำนาจการปกครองแบบสมบูรณ์ในอาณาจักรเมวาร์กลายเป็นผู้อยู่ใต้อำนาจสั่งการและบริหารของโมกุล จนกระทั่งราชวงศ์โมกุลล่มสลายในปี 1857 หลังการบุกรุกของอังกฤษจนสามารถก่อตั้งอาณานิคมบริติชราชในอินเดียได้สำเร็จในปี 1858 ส่วนราชวงศ์ซิโซเดียก็ยังคงสถานะราชวงศ์ที่ปกครองอาณาจักรของตนเองมาเรื่อยๆจนถึงกาลล่มสลายเมื่อปี 1884
อันดับ 8 ราชวงศ์อาหม - อาณาจักรอาหม (รัฐอัสสัมในประเทศอินเดีย)
สีเขียวคืออาณาจักรอาหม
ก่อตั้ง 1228
สิ้นสุด 1826
รวมเวลา 598 ปี
ความเป็นมาโดยสังเขป
ราชวงศ์อาหมปกครองอาณาจักรอาหมหรือเรียกว่าอาณาจักรอัสสัมก็ได้ ก่อตั้งโดย "เจ้าหลวงเสือก่าฟ้า" ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์แรก หลังจากการต่อสู้กับข้าศึกศัตรูต่างถิ่นและอพยพย้ายถิ่นฐานมานานหลายปีจนมาถึงที่หมายสุดท้ายบริเวณอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือแล้วตั้งอาณาจักรของตนเองขึ้นมาในปี 1228 ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับการก่อตั้งสุโขทัยบ้านเรา ตอนแรกๆเป็นเพียงอาณาจักรเล็ก ๆ เพราะอยู่บนที่สูงจึงมีการอพยพบ่อยครั้ง หลายปีต่อมาก็เริ่มมั่นคงและเจริญขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
2
เผชิญหน้ากับจักรวรรดิโมกุล
ในปี 1527 จักรวรรดิโมกุลเข้ารุกราน แต่ฝ่ายอาหมต้านทานไว้ได้ ฝ่ายโมกุลจึงถอยร่นและเงียบหายไปนานเกือบร้อยปีแล้วกลับมาใหม่ในปี 1607 แต่ครั้งนี้ฝ่ายโมกุลเอาจริงหวังจะตีให้ราบคาบ จึงทำให้สถานการณ์หนักหน่วงกว่าครั้งที่แล้ว แต่ผลของสงครามกลับกลายเป็นฝ่ายโมกุลยอมแพ้ซะเอง ทำให้สงครามจบลงในปี 1682 และต่อจากนี้อาณาจักรอาหมก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ถูกพม่ายึดครองแล้วโดนอังกฤษยึดซ้ำอีก - จุดจบ
ภายหลังสงครามกับฝ่ายโมกุลที่ยาวนานกว่าร้อยปี ถึงแม้จะไม่ถูกโมกุลยึดแต่ก็ถูกแบ่งดินแดนไปบางส่วน ผลของสงครามทำให้อาณาจักรอาหมสูญเสียมากจนนำไปสู่ความเสื่อมโทรม สุดท้ายก็ถูกพม่าเข้ายึดครอง แล้วก็โดนยึดซ้ำโดยบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษเมื่อปี 1826 เป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์อาหมอย่างเป็นทางการ แต่ตัวอาณาจักรอาหมยังคงอยู่ต่อจนถึงตอนที่อินเดียได้รับเอกราชหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วอาหมก็รวมชาติกับอินเดียตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อันดับ 7 ราชวงศ์ออตโตมัน - จักรวรรดิออตโตมัน (ตุรกี)
เขตแดนในปี 1566 ในยุคสุลต่านสุไลมาน
สถาปนา 1299
สิ้นสุด 1922
รวมเวลา 623 ปี
ความเป็นมาโดยสังเขป
ราชวงศ์ออตโตมันแห่งจักรวรรดิออตโตมันอันทรงอิทธิพลและยิ่งใหญ่ ตำแหน่งประมุขของที่นี่เรียกว่า"สุลต่าน"เพราะเป็นดินแดนอิสลาม สถาปนาราชวงศ์โดยสุลต่านออสมันที่ 1 ภายหลังจากการรวบรวมเผ่าต่างๆที่กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่อานาโตเลียเข้าเป็นหนึ่งเดียวแล้วสถาปนาอาณาจักรออตโตมันขึ้นพร้อมๆกับการก่อตั้งราชวงศ์ ในช่วงแรกๆออสโตมันเป็นเพียงอาณาจักรซึ่งยังไม่ได้ขยายดินแดน ยังอยู่ในช่วงก่อร่างสร้างตัว จนกระทั่งถึงยุคที่สามารถผนวกจักรวรรดิไบแซนไทน์ (จักรวรรดิโรมันตะวันออก) ที่อยู่ใกล้ๆเข้าเป็นส่วนหนึ่งของออตโตมันได้สำเร็จในปี 1453 อันเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นจักรวรรดิ หลังจากนั้นก็ค่อยๆขยายดินแดนไปเรื่อยๆจนรุ่งเรืองสูงสุดในยุคสุลต่านสุไลมาน ที่สามารถทำให้ออตโตมันกลายเป็นจักรวรรดิอันทรงอิทธิพลและยิ่งใหญ่ ที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับต้นๆในยุโรป และเป็นจักรวรรดิอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
ความเสื่อมและการล่มสลาย
เมื่อสิ้นสุลต่านสุไลมานในปี 1566 จักรวรรดิออตโตมันก็เริ่มเสื่อมลง เพราะสาเหตุเบสิคๆที่เป็นกันแทบทุกที่ ก็คือผู้ปกครองไร้ความสามารถ มีการแย่งชิงอำนาจกัน แย่งบัลลังก์กัน ตัวราชวงศ์แตกแยก เมื่อชนชั้นปกครองทำงานไม่ได้เรื่อง ก็คงไม่ต้องถามว่าบ้านเมืองจะเป็นยังไง จนเวลาผ่านไป 300 กว่าปี แคว้นเล็กๆใต้การปกครองก็เริ่มอยากเป็นอิสระ ทำให้มีสงครามเกิดขึ้นบ่อย และเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ออตโตมันก็พ่ายแพ้อีก จนในที่สุดจักรวรรดิออตโตมันก็ล่มสลายในปี 1922 ส่วนราชวงศ์ก็ถูกปลดออกและต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ เป็นการสิ้นสุดราชวงศ์ออตโตมันอย่างถาวร หลังจากนั้นก็เข้าสู่ยุคใหม่เมื่ออีกหนึ่งปีต่อมาก็มีการก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกีขึ้นนั่นเอง
อันดับ 6 ราชวงศ์โคกูรยอ - อาณาจักรโคกูรยอ (เกาหลียุคโบราณ)
แผนที่อาณาจักรเกาหลียุคสามก๊ก ในช่วงแรกๆอาณาจักรโคกูรยอใหญ่ที่สุด
สถาปนา 37 ปีก่อนคริสตกาล
สิ้นสุด 668
รวมเวลา 705 ปี
ความเป็นมาโดยสังเขป
อาณาจักรโคกูรยอเป็นหนึ่งในอาณาจักรเกาหลียุคโบราณ อยู่ในช่วงประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า "ยุคสามก๊กของเกาหลี" ประกอบด้วยอาณาจักรโคกูรยอทางตอนเหนือ อาณาจักรแพ็กเจทางตะวันตกเฉียงใต้และอาณาจักรชิลลาทางตะวันออกเฉียงเหนือ ราชวงศ์นี้ก่อตั้งโดยพระเจ้าทงมย็องซ็องซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์นี้ ในช่วงแรกมีอาณาเขตปกครองอยู่ในเกาหลีเหนือเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อเข้าสู่ยุคของ "พระเจ้าควังแกโทมหาราช" ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาราชองค์แรกของเกาหลี พระองค์สามารถขยายดินแดนออกไปได้กว้างขวางกว่าเดิมมาก จนรุกล้ำเข้าไปถึงพื้นที่จีนตอนเหนือซึ่งก็คือแถบแมนจูเรีย และบางส่วนของรัสเซียทางตอนใต้อีกด้วย
1
การสิ้นสุดราชวงศ์โคกูรยอ
เนื่องจากเป็นยุคสามก๊กจึงทำให้อาณาจักรทั้งสามในคาบสมุทรเกาหลีต่างฝ่ายต่างพยายามผลักดันตัวเองให้เป็นใหญ่เหนือผู้อื่น ทำให้ในยุคหลังๆอาณาจักรโคกูรยอก็มีปัญหากับอาณาจักรทางตอนใต้ทั้งสอง มีการรบกันอยู่บ่อยๆ ผลัดกันรุกผลัดกันรับ แพ้บ้างชนะบ้าง สถานการณ์คล้ายๆยุคสามก๊กของจีน แต่ต่างกันที่เวลาและยุคสมัย เมื่อเวลาผ่านไปถึงช่วงปลายๆ ซึ่งตรงกับยุคราชวงศ์ถังของจีน โดยฝ่ายจีนได้เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรชิลลาแล้วช่วยฝ่ายชิลลาสร้างกองทัพจนสามารถบุกยึดอาณาจักรโคกูรยอแล้วผนวกรวมกับอาณาจักรชิลลาได้สำเร็จในปี 668 เป็นอันสิ้นสุดอาณาจักรและราชวงศ์โคกูรยอที่ยาวนานกว่า 600 ปี
อันดับ 5 ราชวงศ์โจว - อาณาจักรจีนยุคราชวงศ์โจว
ราชวงศ์โจวตะวันตกและตะวันออก
สถาปนา 1046 ปีก่อนคริสตกาล
สิ้นสุด 256 ปีก่อนคริสตกาล
รวมเวลา 790 ปี
ความเป็นมาโดยสังเขป
ราชวงศ์โจวถือเป็นราชวงศ์ยุคโบราณสุดท้ายของจีนก่อนที่จะเข้าสู่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์และเป็นราชวงศ์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ราชวงศ์โจวตะวันตก (1046 - 771 ปีก่อนค.ศ.) และราชวงศ์โจวตะวันออก (771 - 256 ปีก่อนค.ศ.) ราชวงศ์นี้ก่อตั้งขึ้นหลังการล่มสลายของราชวงศ์ซางโดยมีพระเจ้าโจวอู่หวังเป็นปฐมกษัตริย์และมีกษัตริย์ปกครองเรื่อยมา ในช่วงแรกๆบ้านเมืองสงบสุขแต่ดันเกิดกลียุคขึ้นตอนหลังๆจนนำไปสู่การล่มสลาย ทำให้ต้องย้ายเมืองหลวงไปทางตะวันออกแล้วก่อตั้งราชวงศ์ขึ้นใหม่เป็นราชวงศ์โจวตะวันออก ซึ่งยุคนี้ก็แบ่งเป็นยุคย่อยได้อีก 2 ยุค ก็คือ "ยุคชุนชิว" และ "ยุคจ้านกว๋อ"
ยุคชุนชิว-จ้านกว๋อ - ยุคแห่งสงครามและความขัดแย้งยาวนานกว่า 500 ปี
เมื่อยุคโจวตะวันตกกษัตริย์สามารถควบคุมอ๋องแคว้นต่างๆได้ แต่หลังเกิดกลียุค อ๋องแคว้นต่างๆก็ไม่ไว้ใจกษัตริย์และเริ่มแข็งเมือง กษัตริย์จึงไร้อำนาจ ซึ่งทำให้แคว้นต่างๆรบกันเองเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ยุคชุนชิวคือคำเรียกช่วงเวลาครึ่งต้นของโจวตะวันออกที่แคว้นต่างๆทำศึกสงครามรุกรานซึ่งกันและกัน ยุคนี้ก็ถือเป็นยุคแห่งปัญญาอีกเช่นกัน เพราะสังคมปั่นป่วนจึงทำให้เกิดนักคิดนักปรัชญาหลายคน เช่น ขงจื้อ เล่าจื้อ ฟาไฉ ซึ่งปรัชญาคำสอนของพวกเขาก็ยังคงมีอิทธิพลมาจนถึงปัจจุบันแม้จะผ่านมานานกว่าพันปี เมื่อเข้าสู่ยุคจ้านกว๋อครึ่งหลังของโจวตะวันออก แคว้นต่างๆก็ถูกยุบรวมกันจนเหลือแค่ 7 แคว้น
การล่มสลาย
เพราะราชวงศ์โจวปกครองแบบกระจายอำนาจ ทำให้กษัตริย์ไม่มีอำนาจมากพอที่จะควบคุมแคว้นอื่นๆนอกเมืองหลวง จึงเป็นสาเหตุให้แคว้นต่างๆต้องรบกันเพื่อขยายอำนาจของฝ่ายตัวเอง ต่างฝ่ายต่างก็อยากเป็นใหญ่ จนเหลือแค่ 7 แคว้นใหญ่ ซึ่งภายหลังแคว้นฉินก็สามารถรวบรวมแคว้นทั้งเจ็ดเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งแล้วก่อตั้งราชวงศ์และอาณาจักรจีนใหม่เป็นราชวงศ์ฉินโดย "จิ๋นซีฮ่องเต้" นั่นเอง และตั้งแต่ราชวงศ์ฉินเป็นต้นไป อาณาจักรจีนปกครองด้วยระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์ เพื่อรวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง จึงทำให้ไม่มีเหตุการณ์แย่งชิงอำนาจระหว่างแคว้นเกิดขึ้นเหมือนกับยุคราชวงศ์โจวอีกต่อไป
อันดับ 4 ราชวงศ์ชิลลา - อาณาจักรชิลลา (เกาหลียุคโบราณ)
เขตแดนของชิลลาในช่วงที่กำลังรวบรวมแผ่นดิน
สถาปนา 57 ปีก่อนคริสตกาล
สิ้นสุด 935
รวมเวลา 992 ปี
ความเป็นมาโดยสังเขป
ราชวงศ์นี้ปกครองอาณาจักรชิลลาซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรยุคสามก๊กแห่งเกาหลี โดยมีพระเจ้าฮย็อกกอเซเป็นผู้สถาปนาราชวงศ์ ส่วนอาณาจักรชิลลาเกิดจากการรวมตัวของอาณาจักรจินฮันกับชนเผ่าต่างๆในแถบคาบสมุทรเกาหลีทางใต้ ตลอดเวลา600กว่าปี อาณาจักรชิลลาต้องทำสงครามชิงความเป็นใหญ่กับอีก 3 อาณาจักรใหญ่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็คือ อาณาจักรโคกูรยอทางตอนเหนือ อาณาจักรแพ็กเจทางตะวันออก และอาณาจักรคายาที่อยู่ตรงกลางระหว่างแพ็กเจกับชิลลา จนกระทั่งพระเจ้ามุนมูสามารถรวมแผ่นดินเกาหลีได้สำเร็จด้วยการกลืนกินโคกูรยอและแพ็กเจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชิลลาระหว่างปี 661 - 681
การล่มสลาย
หลังจากรวมแผ่นดินแล้วบ้านเมืองก็กลับเข้าสู่ความสงบสุขเป็นเวลา200กว่าปี แต่สุดท้ายแล้วอาณาจักรชิลลาก็หนีไม่พ้นกฎไตรลักษณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง มีเกิดก็ต้องมีดับ เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงศตวรรษสุดท้ายของชิลลาก็เกิดกลียุคขึ้นอีก มีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นบ่อย ความผันผวนทางการเมือง และการชิงดีชิงเด่นกัน ทำให้เกิดความแตกแยกภายใน ซึ่งเป็นโอกาสดีที่เปิดทางให้คนนอกเข้าแทรกแซงจนเกิดเป็นสงครามแย่งดินแดน สุดท้ายแล้วอาณาจักรชิลลาก็ต้องยอมแพ้ต่ออำนาจของฝ่ายโครยอที่ต่อมาก็กลายเป็นราชวงศ์โครยอ ซึ่งขึ้นปกครองเกาหลีแทนชิลลา นับเป็นการปิดฉากยุคสามก๊กในเกาหลี
อันดับ 3 ราชวงศ์บากราติ - ราชอาณาจักรจอร์เจีย (ประเทศจอร์เจีย)
ตราแผ่นดินและตราราชวงศ์จอร์เจีย
สถาปนา 780
สิ้นสุด 1801
รวมเวลา 1020 ปี
ความเป็นมาโดยสังเขป
ราชวงศ์บากราดิหรือจะเรียกว่าราชวงศ์จอร์เจียก็ได้ เป็นราชวงศ์ที่เก่าแก่และยาวนานมาก เพราะกินเวลาตั้งแต่ยุคกลางตอนต้นมาจนถึงยุคใหม่ในศตวรรษที่ 19 ส่วนต้นกำเนิดของราชวงศ์ยังไม่แน่นอนและเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่เท่าที่ค้นคว้ามา ราชวงศ์นี้เกิดขึ้นผ่านการแต่งงานระหว่างราชวงศ์ที่ทำให้สายตระกูลบารากติที่มาจากต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมกับราชวงศ์โชสรอยด์ที่ปกครองจอร์เจียและอาณาจักรแถบคาบสมุทรไอบีเรียอยู่ก่อนแล้ว ไปๆมาๆตระกูลบารากติก็ค่อยๆเป็นใหญ่จนมีอำนาจเหนือบัลลังก์ของโชสรอยด์ สุดท้ายแล้วจอร์เจียก็กลายเป็นของตระกูลบารากติ ซึ่งต่อมาก็สถาปนาราชวงศ์ของตัวเองขึ้นปกครองจอร์เจียและดินแดนแถบไอบีเรียด้วย
อาณาจักรแตกแยก
ในปี 888 ชนพื้นเมืองต่างๆได้รวมตัวกันจนเกิดเป็นราชอาณาจักรจอร์เจียขึ้น ช่วงที่เจริญรุ่งเรืองและเป็นเอกภาพคือระหว่างศตวรรษที่ 11 - 13 แต่หลังจากนั้นจนมาถึงปลายๆศตวรรษที่ 15 อาณาจักรจอร์เจียก็แตกออกเป็น 3 อาณาจักร กลายเป็นยุคสามก๊ก โดยทั้งสามอาณาจักรนี้ล้วนเป็นสาขาย่อยของราชวงศ์บารากติทั้งสิ้น
การล่มสลาย
สามอาณาจักรสาขาย่อยของจอร์เจียแยกกันปกครองบ้านใครบ้านมันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถูกผนวกรวมเข้ากับจักรวรรดิรัสเซีย ทำให้เกิดสนธิสัญญาที่รัสเซียรับรองอำนาจอธิปไตยของราชวงศ์บากราติ ทำให้ราชวงศ์นี้ยังไม่หลุดจากบัลลังก์และสามารถปกครองอาณาจักรจอร์เจียที่อยู่ภายใต้รัสเซียได้ต่อไป จนกระทั่งถึงปี 1801 รัสเซียก็ตัดสินใจผนวกรวมจอร์เจียอย่างเต็มรูปแบบ โดยการยกเลิกสนธิสัญญา ทำให้อำนาจการปกครองของราชวงศ์บารากติสิ้นสุดลง ถือเป็นการสิ้นสุดราชวงศ์บารากติอันยาวนานนับพันปี
อันดับ 2 ราชวงศ์ตองกา - ราชอาณาจักรตองกา
สมเด็จพระราชาธิบดีตูโปอูที่ 6 พระมหากษัตริย์แห่งตองกาองค์ปัจจุบัน
สถาปนา 950
ผ่านมาแล้ว 1071 ปี (2021)
ความเป็นมาโดยสังเขป
ราชวงศ์นี้เป็นของราชอาณาจักรตองกาซึ่งยังไม่ล่มสลายและยังคงครองบัลลังก์มาจนถึงปัจจุบัน การนับเวลาของราชวงศ์นี้มีความพิเศษกว่าที่อื่น ตรงที่นับรวมทั้ง 3 ราชวงศ์ย่อยที่ปกครองตองกาต่อจากกันเป็นราชวงศ์เดียวกันเลย ไม่ได้นับเฉพาะราชวงศ์ใดๆหนึ่งๆเหมือนอันดับที่ผ่านมา โดยราชวงศ์ตองกาแบ่งได้ 3 ราชวงศ์ย่อยคือ ตูอีโตงา (950-1470) ตูอิฮาอะตากาลาอัว (1470-1800) และตูอีกาโนกูโปลู (1800-ปัจจุบัน) ส่วนการกำเนิดราชวงศ์ดูอีโตงามีความเชื่อว่าเทพเจ้าส่งพระเจ้าอะโฮเออิตูมาเป็นปฐมกษัตริย์และก่อตั้งราชวงศ์นี้ปกครองตองกามาเรื่อยๆจนตองกาสามารถขยายดินแดนจนกลายเป็นจักรวรรดิตูอิโตงาที่ครอบครองหมู่เกาะแถบโอเชียเนียมากมาย
ราชวงศ์ที่สองและสาม
เวลาผ่านมาจนถึงช่วงศตวรรษที่ 15 ราชวงศ์ตูอิโตงาเริ่มเสื่อมอำนาจ จึงต้องถ่ายโอนอำนาจการปกครองให้อีกราชวงศ์หนึ่งก็คือราชวงศ์ตูอิฮาอะตากาลาอัว ในตอนแรกก็แค่ช่วยปกครอง แต่เมื่ออยู่ไปนานๆราชวงศ์ที่สองนี้ก็เริ่มสะสมอำนาจจนสามารถขึ้นปกครองจักรวรรดิตูอีโตงาแทนราชวงศ์แรกได้ แล้วก็ปกครองต่อมาอีกสามร้อยกว่าปี ราชวงศ์ที่สองก็ถึงคราวหมดอำนาจ ทำให้ถึงเวลาของราชวงศ์ที่สาม ซึ่งก็คือ "ตูอีกาโนกูโปลู" ขึ้นมาปกครองบ้าง แล้วก็เป็นเหมือนราชวงศ์ที่สองทุกอย่าง คือเริ่มจากช่วยปกครองแล้วก็รวบอำนาจจนเป็นใหญ่แทนราชวงศ์ที่สองได้สำเร็จในช่วงประมาณปี 1800 แล้วก็ปกครองต่อมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนจักรวรรดิตูอิโตงาที่ปกครองอยู่ก็ล่มสลายลงในปี 1826 ทำให้เกิดความวุ่นวายต่างๆมากมาย จนสุดท้ายก็เกิดการรวมชาติตองกาขึ้นจึงเกิดเป็นราชอาณาจักรตองกาดังเช่นปัจจุบันนั่นเอง
อันดับ 1 ราชวงศ์ยามาโตะ - ประเทศญี่ปุ่น
ราชวงศ์ยามาโตะในรัชกาลปัจจุบัน
สถาปนา 660 ปีก่อนคริสตกาล (ไม่นับรวมช่วงที่เป็นตำนาน)
ผ่านมาแล้ว 2681 ปี (2021)
และแล้วก็มาถึงอันดับ 1 สักที ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล มีใครเดาถูกบ้างเอ่ย
ความเป็นมาโดยสังเขป
ราชวงศ์ยามาโตะหรือราชวงศ์เบญจมาศเป็นมหาราชวงศ์ที่ขึ้นปกครองดินแดนญี่ปุ่นและสืบราชสันตติวงศ์มายาวนานถึง 2 พันกว่าปีจวบจนปัจจุบัน การดำรงอยู่ได้นานขนาดนี้แสดงให้เห็นว่าราชวงศ์ญี่ปุ่นมีความสามารถในการปรับตัวตามยุคสมัยได้อย่างยอดเยี่ยม
การกำเนิดราชวงศ์
เนื่องจากเกิดในยุคที่เก่าและโบราณมาก หลักฐานจึงแทบจะไม่เหลือให้เห็น มีเพียงแต่ตำนานเท่านั้น โดยบอกเล่าว่าราชวงศ์นี้กำเนิดขึ้นโดยจักรพรรดิจิมมูซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่นที่ขึ้นครองราชย์เมื่อ 660 ปีก่อนคริสตกาล แต่ก็มีตำนานเล่าขานอีกว่าก่อนที่จักรพรรดิจิมมูจะครองราชย์ ดินแดนญี่ปุ่นมีจักรพรรดิมาก่อนแล้วถึง 14 องค์ แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับเนื่องจากเป็นตำนานและไร้หลักฐาน อีกทั้งในยุคก่อนจิมมู ญี่ปุ่นยังไม่ได้รวมชาติแต่ยังคงกระจัดกระจายเป็นชนเผ่า ซึ่งไม่สามารถเรียกว่าจักรพรรดิได้ การนับเวลาจึงไม่นิยมนับช่วง 14 จักรพรรดิก่อนจิมมูครองราชย์
3
ส่วนเรื่องของจักรพรรดิจิมมูก็มีการถกเถียงกันอยู่มากพอสมควรว่าพระองค์มีตัวตนจริงหรือไม่ เพราะมีนักประวัติศาสตร์และนักวิชาการหลายคนบอกว่าไม่มีหลักฐานยืนยันการมีอยู่ของพระองค์ เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงแค่ตำนาน แต่อย่างไรก็ตามการนับช่วงเวลาของราชวงศ์ญี่ปุ่นก็นิยมนับตั้งแต่จักรพรรดิจิมมูเป็นต้นไป ซึ่งผู้เขียนคาดว่าในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีทางโบราณคดีก้าวหน้าขึ้น ก็อาจมีการค้นพบหลักฐานที่ยังไม่เคยพบได้เช่นกัน ต้องติดตามดูต่อไป
ราชวงศ์แห่งเดียวในโลกที่ไม่ล่มสลายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นอยู่ฝ่ายอักษะ ซึ่งสุดท้ายแล้วฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะ และเป็นธรรมดาที่หลายๆราชวงศ์ในประเทศฝ่ายอักษะต้องถูกจับดำเนินคดีฐานเป็นอาชญากรสงคราม ทำให้ราชวงศ์ถูกล้มล้างแล้วเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่ราชวงศ์ญี่ปุ่นกลับอยู่รอด ซึ่งต้องขอบคุณจักรพรรดิฮิโรฮิโตะเป็นอย่างมากที่สามารถรักษาราชวงศ์เอาไว้ได้ เพราะพระองค์ตัดสินใจเลือกให้สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นฝ่ายชนะเข้าควบคุมบริหารประเทศญี่ปุ่นแทนการต้องขึ้นศาลอาชญากรสงคราม ซึ่งทำให้ราชวงศ์ญี่ปุ่นไม่ล่มสลายและรอดพ้นจากการเป็นผู้ร้าย และราชวงศ์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งราชวงศ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
โฆษณา