8 พ.ย. 2021 เวลา 10:39
ผู้ประกันตน ม.33 เกษียณแล้วจะได้รับเงินจากประกันสังคมเท่าไร
มนุษย์เงินเดือน ผู้ประกันตนมาตรา 33 หลังเกษียณอายุ จะไดรับเงินบำนาญรายเดือน หรือเงินบำเหน็จจากประกันสังคมเท่าไร และมีวิธิคำนวณอย่างไร หาคำตอบได้ที่นี่
สิทธิประกันสังคมมาตรา 33 (ม.33) ภายใต้ความคุ้มครองจากกองทุนเงินประกันสังคม จะได้รับใน 7 กรณี ได้แก่ กรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย , กรณีคลอดบุตร , กรณีทุพพลภาพ , กรณีเสียชีวิต , กรณีสงเคราะห์บุตร , กรณีชราภาพ และ กรณีว่างงาน
สำหรับมนุษย์เงินเดือน พนักงานบริษัท ซึ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ในแต่ละเดือนจะถูกนายจ้างหักเงิน 5% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 750 บาท (1,650 - 15,000 บาทต่อเดือน) เพื่อนำส่งเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน
เงิน 5% นี้ ถูกหักไปใช้ทำอะไรบ้าง
กรณีการหักเงินส่งสมทบกองทุนประกันสังคมที่ 750 บาท
* 1.5% = 225 บาท จะใช้ในส่วนประกันเจ็บป่วย หรือเสียชีวิต
* 0.5% = 75 บาท จะเก็บใช้ในส่วนประกันการว่างงาน
* 3% = 450 บาท จะเก็บไว้ในส่วนประกันชราภาพ
โดยในส่วนของเงินประกันชราภาพจะได้รับเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
1
กรณีบำนาญชราภาพ
* จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
* มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
*ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
กรณีบำเหน็จชราภาพ
2
* จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
* ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
* มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
2
สำหรับรูปแบบการรับเงินเกษียณคืนจากกองทุนประกันสังคม มี 3 กรณี ดังนี้
1
1.กรณีจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 180 เดือน : มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท )
* กรณีที่มีการจ่าย เงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพตามข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อ ระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน ( ถ้ามีเศษเกินจะถูกปัดทิ้ง เช่น หากสะสมมา 15 ปี 2 เดือน จะคิดแค่ 15 ปี )
* กรณีผู้รับเงิน บำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับคราวสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย
4
ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนทำงานได้รับเงินค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท มาตลอด และส่งเงินสมทบมาแล้ว 20 ปี อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลงจะได้รับเงินบำนาญชราภาพรายเดือน ตามการคำนวณดังนี้
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญ
= 15 ปี (แรก) ได้อัตราเงินบำนาญ 20%
= 5 ปี (หลัง) ได้อัตราเงินบำนาญ (1.5% (ปรับเพิ่ม) × 5ปี )
= 7.5%
รวมอัตราเงินบำนาญ 20 ปี
= 20% + 7.5% = 27.5% ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญรายเดือน
= 27.5% ของ 15,000 บาท
= 4,125 บาท/เดือนจนตลอดชีวิต
ส่วนกรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิ จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน
2
= 4,125 บาท × 10 เท่า เท่ากับ 41,250 บาท
หมายเหตุ : กองทุนชราภาพ ประกันสังคม จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2541 ดังนั้นผู้ที่ทำงานก่อนปี 2542 และได้เข้าระบบประกันสังคม จึงเริ่มส่งเงินสมทบเข้ากองทุนชราภาพ เดือนแรกคือเดือนมกราคม 2542
2.กรณีจ่ายเงินสมทบมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่เกิน 180 เดือนและมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ เมื่อความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง จะได้รับเงินบำเหน็จเท่ากับจำนวนเงินสมทบของตนเอง + เงินสมทบในส่วนของนายจ้างและรัฐบาล + ผลประโยชน์ตอบแทน ตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
2
3.กรณีจ่ายเงินสมทบไม่ถึง 12 เดือน และมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ เมื่อความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง จะได้รับเงินเกษียณจากกองทุนประกันสังคมเป็นเงินบำเหน็จ (เงินก้อนครั้งเดียว) เท่ากับจำนวนเงินที่จ่ายสมทบกองทุนประกันสังคม ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนท่านหนึ่ง จ่ายเงินสมทบของตนเอง 450 บาท/เดือน เป็นเวลารวม 11 เดือน ดังนั้นผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำเหน็จเท่ากับ 450*11 หรือ 4,590 บาท
หลักฐานที่ใช้เพื่อขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ
* แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ (สปส. 2-01)
* สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอฯ
* กรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย
- สำเนามรณะบัตรและสำเนาทะเบียนบ้านผู้ตาย
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จชราภาพ
- สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ประกันคนและของบริดามารดา (ถ้ามี)
- สำเนาสูติบัตรของบุตรหรือสำเนาทะเบียนบ้านของบุตร กรณีไม่มีสูติบัตร
- หนังสือระบบให้เป็นผู้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จชราภาพ (ถ้ามี)
ขั้นตอนการขอรับเงินเกษียณ
* ผู้ประกันตน/ทายาทผู้มีสิทธิ ต้องกรอกแบบ สปส. 2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน
* เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณา
* สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
* พิจารณาสั่งจ่าย เงินสด/เช็ค (ผู้ประกันตน/ผู้มีสิทธิมารับด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทน) ส่งธนาณัติให้ผู้ประกันตน โอนเข้าบัญชีธนาคารตามบัญชีของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเงินเกษียณกองทุนประกันสังคมเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลการส่งเงินสมทบ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ สามารถตรวจสอบได้ที่
* www.sso.go.th โดยผู้ประกันตนต้องสมัครสมาชิกก่อน จึงจะสามารถตรวจสอบข้อมูลการส่งเงินสมทบ
* แอพพลิเคชั่น "SSO Connect mobile" โดยสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Google Play และ App Store
* Facebook Messenger
* สายด่วน 1506
1
ที่มา : สำนักงานประกันสังคม
โฆษณา