10 พ.ย. 2021 เวลา 04:08 • ปรัชญา
ตัดไม่ขาด
โซฟาหนานุ่ม ผ้าสักหลาด สีน้ำตาลขรึม
ห่อหุ้มร่างกาย สันทัด ของชายหนุ่ม ให้จมลงไป...
ร่างกายไร้เรี่ยวแรง เคลื่อนไหว เพียงน้อย
ปลายนิ้ว...ขยับเพียงให้รู้สึกว่า ยังมีตัวตน อยู่ในร่างมนุษย์
เส้นผม...ปลิวแผ่วเบา ล้อกับสายลมภายนอก ผ่านผ้าม่านสีครีมบางๆ
สายตา.... เหม่อมองออกไป นอกระเบียง คอนโดชั้น 32 ..
หากแต่ ..ภายในนั้นเล่า ช่างแตกต่างกัน
ไหวเอน ดั่งคลื่นน้ำดำมืด ใต้มหาสมุทรลึกนั้น
สั่นกระเพื่อมเชื่องช้า...เคลื่อนไกล ไร้สรรพเสียง และ จุดสุดสิ้น....
แสงจากทุกทิศทาง ตกกระทบ ทั้งอนุภาคของแข็ง และ ของเหลว ตรงหน้า
สะท้อนเข้าสู่ สายตาของมนุษย์ ที่รับภาพได้เพียง Visible light
ช่วงคลื่น 400-700 นาโนเมตรเท่านั้น
ผ่านม่านน้ำฝน... หรืออันที่จริง คือ ม่านน้ำตา ??
บรรยากาศสีเทาทะมึน เมื่อครู่ อาจดูหม่นเหงาก็จริง....
แต่ไม่น่ากลายเป็นเศร้าได้ขนาดนี้.
เมฆหมอก สีเทาครึ้มฝนภายนอก เหมือนคนอมเขม่า
กำลังกลั่นความเศร้านั้นออกมา
แม้ร่างกายภายนอก อาจไม่เกี่ยวข้อง
...อย่างมาก ก็แค่ เปียกปอนจรดเท้า
แต่ ภายใน นั้นสัมพันธ์ กับช่องว่าง ระหว่าง หยดน้ำฝน นั่น ต่างหาก
ชายหนุ่มสังเกตลมหายใจของตนเอง !
รูจมูกด้านซ้าย มีอากาศไหลผ่านเข้าออก เพียงด้านเดียว ..
แสดงว่า พลังหยาง หรือ พลังของพระจันทร์ในยามค่ำคืน
กำลังมีอิทธิพลกับร่างกาย ของเขาอยู่ ในขณะนี้..
นั่นแสดงว่า เขากำลัง อ่อนเพลีย และถ้าปล่อยให้ลมและ ละอองฝน
ปะทะใบหน้าต่อไปความเย็นในร่างกายจะเพิ่มขึ้น และเขาอาจเป็นไข้ในวันรุ่งขึ้น..
แต่ก็ดีแล้ว สำหรับการผ่อนคลาย กาย และ ใจ
เคยมี หญิงสาวบอบบางผู้หนึ่ง
บอกเล่าเรื่องสมดุลย์ ซ้ายขวา ของลมหายใจผ่านช่องจมูก
และอีกหลายเรื่องราว ที่เขาคิดไม่ถึงว่า มันคือเรื่องจริง..
ชายหนุ่มสังเกตต่อไปที่ความคิด...จากสมอง
สังเกต จิต...จากความรู้สึก
ความคิด จับได้ง่าย สร้างได้ง่าย แต่ดับได้ยาก
ช่วงเวลา หลายปีที่ผ่านมา กับการฝึกดับความคิด โดยวิธีมองให้เห็น แล้ว รู้ ธรรมดา..
ช่วงเวลา ชั่วโมงก่อนหน้า ที่ความคิด ไหลไปเรื่อย จนสิ้นกำลังไปเอง
ขณะนี้ มันดับไปมากแล้ว....
แต่จิตยังไม่ดับ..... ทำไงได้ล่ะ....มันไม่ได้อยู่ในความควบคุม ของเขาทั้งหมด
จิต เป็น Software ที่ควบคุมสมอง ที่เป็น Hardware อีกทีหนึ่ง
โดย Software ที่ว่านี้ ติดตั้งมาแล้ว ตั้งแต่เขาเกิด
ภายในนั้น สามารถ Crack Program คำสั่งออกมาได้ 52 ชนิด ( ไม่รวม Bug )
มีมนุษย์ คนหนึ่ง เคยตั้งชื่อให้ว่า
เจตสิก ทั้ง 52...หรือตัวรู้ ทั้ง 52
หนึ่งในนั้น มีพระเอก ที่มีชื่อหล่อเหลาเอาการว่า " สัมปชัญญะ "
คือตัวรู้ปัจจุบัน
ยุคหลังๆ มา มักเหมาเรียกเอาว่า " สติ "
ซึ่งจะถูกติดตั้งให้แก่ สัตว์ที่ชื่อว่า มนุษย์ เท่านั้น
โปรแกรมคำสั่ง ทั้ง 52 ตัวนี้ ผสมกันด้วยอัตตราส่วน มาก น้อย วัดค่าไม่ได้
( เพราะยังไม่มีใคร คิดหน่วยวัดได้ละเอียดเท่าทัน
ตราบใดที่เรายัง ไม่หลุดไปจาก Space & Time ปลอมๆ นี้ )
ในที่สุดแล้ว
จะทำให้เกิดลักษณะของดวงจิตได้ 121 แบบใหญ่ๆ
โดยปรกติ ชายหนุ่ม จะใช้กำลัง ของสติ ไปเพียง 1 % ของทั้งหมด
ซึ่ง คนทั่วๆ ไปก็เป็นเช่นนั้น
... แต่ตอนนี้ กำลังสติ กำลังพัฒนาไป
เขาเริ่ม มองเห็นนามธรรมในปัจจุบัน
แน่นอนว่า ไม่ใช่ด้วยสายตา ที่มีข้อจำกัดสารพัด...
นามธรรมที่ว่า มักมี อาการ เคลื่อนไหวไปมา ตลอดเวลา
ไม่แยกแยะ ตามสมมุติของคน หรือความรู้ในอดีต
ไม่รู้ ขม หวาน ดำ ขาว เก่า ใหม่ ใส กังวาน หอม
ไหม้ ต่ำ ชั่ว ดี ร้าย รวย จน...
เหมือนสายตาของเด็กทารก
ที่ไม่รู้สึกรู้สาต่อสิ่งอันตรายหลายหลาก นอกเขตรั้วบ้าน
เพราะนั่นเป็นเพียงสิ่งสมมุติของคน ไม่ใช่ รูปปรมัตถ์ ที่แท้
หรือพูดง่ายๆ ว่า เด็กๆ ยังไม่มีตัวกู ของกู ไม่รู้ สมมุติ ที่ชัดเจน
แต่เมื่อไหร่ก็ตาม
ที่เมฆหมอกแห่งความยึดติด ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
เมื่อนั้น การรู้เท่าทันปัจจุบัน ก็พร่ามัว.......
ซึ่ง ชายหนุ่ม ก็พร่ามัวมาเกือบทั้งชีวิต ของเขา !
ไม่ต่างอะไรเลย กับคนทั้งหลายข้างนอกนั่น
แต่ด้วยช่วงขณะสั้นๆ แห่งสติที่ดำเนินต่อเนื่อง
เมื่อขณะ ปัจจุบัน บังเกิด
- เวลา ก็หยุด อยู่อย่างนั้น -
สิ่งที่ชายหนุ่มรับรู้อย่างโดดเดี่ยว เอวัง
ในเวลาที่ไม่จีรังนี้
ก็ไม่ใช่ สิ่งใหม่ หรือ พิสดารแต่อย่างใด
มันก็แค่ " ความจริง " ที่ตั้งอยู่ดั่งดุมล้อ
ที่ขับเคลื่อนกงล้อชีวิตชายหนุ่ม ให้หมุนไป
หมุนไปกับสิ่งลวงๆ เสมือนจริง ทั้งหลาย ภายนอกนั่น
ขณะเดียวกันนั้นเอง
เจตสิก อีกตัว ที่ทำหน้าที่รู้อารมณ์ โมหะ ก็เข้ารับ สิ่งที่เข้ามากระทบ
ทางทวาร ตา กาย และใจ ผสมกัน เป็นอารมณ์ ที่มนุษย์ตั้งชื่อให้ว่า "ความเศร้า"
ความ เศร้า ที่ได้ " รู้ "
รู้ว่า จริง สิ่งที่เคยคิด คือ มายาคติลวงตา
ที่ชัดเจน คมชัด เพียงเท่านั้น
รู้ว่า เลือกได้
แต่ เศร้าตรงที่
ไม่สามารถ " ลืม" ได้เลย
เวลา ไม่ได้มีอยู่จริง
แต่ขึ้นอยู่กับ แสง และ แรงโน้มถ่วง ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพ
ที่ปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่า เราไม่สามารถ รับรู้อะไรที่จริงแท้ได้เลย ภายใต้มิติที่ 4 นี้
สรรพสิ่ง ล้วนอยู่ใต้อิทธิพล ของ แสง ทั้งสิ้น !
ยกเว้น จิต เท่านั้น
ที่เดินทางได้เร็วกว่าแสง ( ยังพิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ )
ในเมื่อจิต ไม่ยอม ...
ถึงแม้ จะดันทุรังเช่นไร ก็ไม่สามารถ พ้นจาก Space & Time นี้ไปได้
แต่ หากยึดยื้อเราไว้
ด้วยแรงแห่ง ความทรงจำ ความรัก
และ แรง ทางนามธรรมทั้งร้ายดี
เกินกว่าที่ วิทยาศาสตร์จะคาดเดา...
เมื่อเวลา กลับมาทำงานอีกครั้ง
เนื่องจาก จิตลดความเร็วลง..ตามสภาพธรรมที่ยังไม่ Clear
สมองซีกซ้าย ของชายหนุ่ม กลับมาทำงานดังเดิม
มัน พูดขึ้นจากความทรงจำ
ในหนังสือที่เขาเคยอ่านนานแล้วในอดีต
" ความจริง ปลดปล่อยให้คุณเป็นอิสระ
แต่ก่อนอื่น มันจะทำให้คุณทุกข์ทรมาน "
- เจมส์ อับรัม การ์ฟีลด์ -
โฆษณา