10 พ.ย. 2021 เวลา 06:58 • กีฬา
ผลสะเทือนจากการไร้ไวจ์นัลดุม
หลังจากที่ผลงานใน พรีเมียร์ลีก ของ ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยดีนักในช่วงหลัง เริ่มมีคนตั้งข้อสังเกตแล้วว่า หรือจะเป็นเพราะการขาดหายไปของ จีนี ไวจ์นัลดุม กองกลางจอมขัยนที่ตอนนี้ย้ายไปอยู่กับ เปแอชเช
เพราะตั้งแต่ที่ย้ายมาจาก นิวคาสเซิล ตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2016 “ซีดุม” ก็ถือเป็นนักเตะคนสำคัญที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ขาดไม่ได้และเป็นหัวใจหลักในแดนกลางที่พาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ทั้ง ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก, ซูเปอร์คัพ, แชมป์สโมสรโลก และล่าสุดแชมป์พรีเมียร์ลีก ตลอดการรับใช้ทีม 237 นัด
ก่อนที่ในช่วงซัมเมอร์สตาร์วัย 30 ปีจะไม่สามารถตกลงเรื่องสัญญาใหม่กับ หงส์แดง ได้ทำให้ต้องแยกทางกันแบบไม่มีค่าตัวและหันไปซบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ของ ลีกเอิง
ตอนนั้นก็มีข่าวว่า ลิเวอร์พูล ตามหามิดฟิลด์ตัวใหม่เพื่อเข้ามาทดแทนช่องว่างในแดนกลางของ ไวจ์นัลดุม แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ทำได้เพียงการซื้อ อิบราฮิมา โคนาเต้ เพียงคนเดียว
อย่างไรก็ตามเมื่อหันมาดูมิดฟิลด์ที่เหลืออยู่ในทีม อาจมองได้ว่า คล็อปป์ มีตัวเลือกล้นมือทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ, เจมส์ มิลเนอร์, ติอาโก้ อัลคันทารา, อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน, เคอร์ติส โจนส์, นาบี เกอิต้า และ ฮาร์วีย์ เอลเลียต
มองดูจากรายชื่อและจำนวน ก็น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับทีมอื่น ๆ ได้
ในช่วงต้นฤดูกาลนายใหญ่ชาวเยอรมันพยายามให้โอกาส ดิอ็อกซ์ และ ติอาโก้ ลงเสียบในตำแหน่งแดนกลางของ ไวจ์นัลดุม สลับกับตัวหลักอย่าง เฮนโด้, ฟาบินโญ และ นาบี เกอิต้า ส่วนที่เหลือก็ได้โอกาสลงสนามกันคนละนิดละหน่อย
ตอนแรกก็เหมือนจะดูดีเมื่อเจ้าหนู เอลเลียต เล่นได้ดีน่าประทับใจ แต่ก็ต้องมาเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน เช่นเดียวกับ เกอิต้า, อัลคันทารา, มิลเนอร์ และ โจนส์ ทำให้ตอนนี้แผงกองกลางเหลือที่ใช้งานได้เต็มที่มีเพียง เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ และ แชมเบอร์เลน เท่านั้น
และนั่นทำให้จุดอ่อนของ ลิเวอร์พูล เริ่มเด่นชัดขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในเกมหลัง ๆ ที่มักเสียประตูจากลูกสวนกลับอยู่บ่อยครั้ง
จะเห็นได้ว่าใน 2 เกมหลังสุดกับ ไบรท์ตัน และ เวสต์แฮม ลูกทีมของ คล็อปป์ ต้องประสบปัญหากับเกมโต้กลับเร็ว แดนกลางปล่อยให้บอลสามารถทะลุผ่านถึงแผงแบ็คโฟร์ ไม่มีใครเบรกเกมไว้ทัน และนำไปสู่การเสียประตู
สถานการณ์เช่นนี้พลันทำให้หลายคนนึกถึง จีนี ไวจ์นัลดุม ซึ่งหากมีเขาอยู่ในทีมเหตุการณ์เช่นนี้คงจะไม่เกิดขึ้น
ต้องไม่ลืมกันว่าในแท็คติกการเล่น 4-3-3 ของ คล็อปป์ นั้นวางบทบาทให้กองกลาง 3 คนเป็นพวกคอยไล่บดบี้คู่ต่อสู้ เพรสหนักในเกมรับ แย่งบอลคืนมาให้เร็ว และเปลี่ยนเป็นเกมรุกได้ในพริบตา ซึ่งกองกลางแบบนี้จะต้องมีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์และแข็งแกร่งรับแรงกระแทกได้ดี
ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดนี้มีอยู่ในตัวของ ไวจ์นัลดุม ทั้งนั้น!
ดังนั้นเมื่อขาดเขาไปจึงทำให้บอลทะลุถึงเซ็นเตอร์ฮาล์ฟอย่างรวดเร็ว ยิ่ง คล็อปป์ สั่งเน้นเพรสซิ่งสูงด้วยแล้ว การปล่อยให้บอลหลุดไปในพื้นที่ว่างด้านหลังบ่อย ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องดีกับเกมรับซักเท่าไหร่
จริงอยู่ที่ว่า ลิเวอร์พูล มี อ็อกซ์เหลด และ ติอาโก้ หรือแม้กระทั่ง เกอิต้า อยู่ในทีม แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เหมือนกับ ไวจ์นัลดุม โดยเฉพาะการต้องเจอกับกองกลางรูปร่างสูงใหญ่ของ เวสต์แฮม อย่าง ดีแคลน ไรซ์ และ โทมัส ซูเช็ค ในเกมล่าสุดเห็นได้เลยว่าแผงมิดฟิลด์ เดอะเร้ดส์ สู้แรงปะทะไม่ได้ และสุดท้ายก็นำไปสู่การเสียประตูอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
ดังนั้นหากจะมีอะไรที่จะต้องแก้ไขในช่วงเบรคทีมชาติ 2 สัปดาห์นี้ คล็อปป์ คงต้องมองไปที่การติวเข้มแผงกองกลางกันใหม่ ในขณะที่จะได้ตัวที่บาดเจ็บอย่าง เคอร์ติส โจนส์, ติอาโก้, มิลเนอร์ รวมทั้ง เอลเลียต กลับมาฟิตอีกครั้ง
เพราะหากต้องการลุ้นแชมป์กันยาว ๆ ปัญหาแบบนี้จะปล่อยให้คาราคาซังไม่ได้เป็นอันขาด
YNWA
ฝากกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ ให้แอดมินได้มีกำลังใจผลิตคอนเทนท์ดี ๆ เพื่อเดอะค็อปทั้งปวงด้วยนะครับ
#myliverpoolthailand #YNWA #LIVERPOOLFC #thekop #sport #footballnews #ลิเวอร์พูล #เดอะค็อป #หงส์แดง #เด็กหงส์ #liverpool #ฟุตบอล #ข่าวลิเวอร์พูล #บทความฟุตบอล #ข่าวฟุตบอล #ข่าวฟุตบอลออนไลน์ #พรีเมียร์ลีก #ข่าวพรีเมียร์ลีก #ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก #กีฬา #ข่าวกีฬา
โฆษณา