10 พ.ย. 2021 เวลา 11:51 • การศึกษา
"เศรษฐกิจแบบนี้ต่อให้เก่งมาจากไหนยังไงก็ไม่มีทางรวย" ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเลื่อมลำสูงที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก เรียกว่าอยู่ใน Top4 เลยล่ะ
ผมได้ยินข่าวในทีวีและสื่อโซเชียลต่างๆพากันประโคมข่าวความมั่นคงและมั่งคั่งของประเทศนี้ บ้างก็เป็นสถิติของนักข่าว นักวิเคาระห์ บ้างก็เป็นประชาชนเองนี่แหละที่ออกมาบ่นและก่นด่ารัฐบาลกันอย่างหัวร้อนหัวไหม้
ยอมรับว่าเริ่มจะหวั่นๆและกลัวว่าจะทำไม่ได้ขึ้นมา หรืออาการที่เรียกว่า "ปอดแหก" นั่นเอง ไม่มีผิดกับในหนังสือที่ผมได้อ่านมาเลย ช่วงหนึ่งที่คิดจะทำการใหญ่ บางครั้งใจก็มีฝ่อบ้าง
หลังจากที่ส่งใบสมัครไปแล้วหลายที่ ผมก็ใจจดใจจ่อว่าจะมีซักที่หนึ่งที่ต้องการ ผมไม่มีรถส่วนตัวหรอก ผมถือคติว่า ถ้าไม่มีรถก็เดิน เดินไม่ได้ก็จะคลานไป ทำให้งานที่ผมพอจะสมัครได้นั้นจะต้องเอื้อต่อการเดินทางของผมด้วย
ยากเข้าไปอีก แต่ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ท้าทายตัวเองอีกด่าน ตอนนี้จนแล้วจนรอดทุกที่ที่ส่งไปก็ยังเงียบอยู่
หลายต่อหลายครั้งเวลาที่เห็นหรือได้ยินข่าวพวกนั้นผมจะไม่ค่อยเก็บมาใส่ใจเลย อย่างน้อยก็พยายามน่ะนะ หลังจากสังเกตตัวเองแล้วพบว่าสิ่งเหล่านั้นมันกัดกินความกล้าของผมอย่างรวดเร็วมากๆ ผมแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่าได้ปล่อยให้สื่อเหล่านี้เล่นงาน
คุณเคยได้ยินนิทานเรื่องเกี่ยวกับกบที่แข่งกันปีนเสามั้ย ผมได้ยินนิทานเรื่องนี้มาได้ซักพักแล้วจากยูทูบเบอร์ท่านหนึ่งที่พูดเกี่ยวกับการประสบความเร็จและจิตวิทยาความสำเร็จ
เรื่องมีอยู่ว่า "มีอยู่วันหนึ่งกบทั้งหลายในหนองน้ำแข่งขันกันปีนเสาโดยมีธงอยู่บนยอด ใครเอาลงมาได้จะได้รางวัล กบทุกตัวทั้งหนุ่มแก่ต่างพากันปีน บางตัวก็ปีนไม่ไหว ร่วงหล่นลงมา
"โอย เสามันลื่นขนาดนั้น ปีนไม่ได้หรอก"
ไม่นานก็มีกบตัวอื่นหล่นลงมาอีก
"เสานั้นสูงมากจริงๆ ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไปไม่ถึงธงหรอก"
และกบอีกหลายตัวก็หล่นลงมาอีก
"เสียแรงเปล่าๆ ดูก็รู้ว่าเสานี้ไม่มีใครปีนได้ ทั้งสูงทั้งลื่น ข้าว่านะไม่มีใครชนะได้หรอก"
และกบที่เหลือก็ล่วงกราวลงมาหมด
เหลือเพียงเจ้ากบตัวหนึ่งที่ยังคงป่ายปีนเสาอย่าต่อเนื่อง กบทั้งหมอรู้สึกแปลกใจทั้งๆที่กบตัวอื่นยอมแพ้กันหมดแล้ว ไม่มีใครแข่งขันแล้วรู้สึกขำพร้อมตะโกนว่า
"เฮ้ย เขาไม่มีใครแข่งกันแล้ว ยอมแพ้เถอะ ตัวอื่นเขาเลิกหมดแล้ว เจ้าทำไม่ได้หรอกน่า ลงมา!" แต่เจ้ากบที่ปีนเสาก็ไม่หยุด
"เจ้าไม่ต้องตะโกนให้เจ็บคอ มันไม่ได้ยินเจ้าหรอก เจ้านั่นน่ะมันหูหนวก" ไมนานเจ้ากบหูหนวกก็คว้าธงและเป็นผู้ชนะในที่สุด
ผมฟังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามันกินใจมากๆ นี่ผมกำลังจะเป็นกบตัวแรกๆที่ร่วงจากเสาหรือ?
ไม่หรอก ผมอยากเป็นกบตัวสุดท้ายที่ปีนเสาจนกระทั่งได้ธงและเป็นผู้ชนะมากกว่า แต่ผมจะเป็นกบตัวนี้ได้ยังไงล่ะ ใช่แล้วผมผมจะต้องหูหนวกในเรื่องที่ควรจะหูหนวก
หลายคนยอมแพ้ไปเองโดยที่ไม่ได้โดนคำพูดใครมากระทบเสียด้วยซ้ำ พวกเขาแค่ไม่รู้ทันกลไกของตัวเองที่มักจะลากคุณกลับไปใน Comfort zone เสมอและเมื่อใดที่คุณเห็นด้วยกับเสียงเล็กๆนั่น เมื่อนั้นแหละความพยายามของคุณก็จะสูญเปล่าทันที
ผมเองก็ไม่ได้วิเศษวิโศมาจากไหน บางครั้งผมก็เผลอเห็นด้วยกับเสียงนั่นเหมือนกันแต่เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะถูกกับดักความคิดเล่นงานผมก็หักหลบทันที เช่นเดียวกับเสียงสื่อรอบข้าง
ผมเชื่อในเหตุและผล ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นมันจะส่งผลกระทบหรือทำให้เกิดอีกสิ่งหนึ่งเสมอ เหมือนถ้าคุณโยนก้อนหินลงน้ำ น้ำก็จะเกิดการกระจายและเกิดเป็นละลอก
วันนี้ผมกำลังทุ่มเทสุดชีวิตกับการเป็นคนหนึ่งที่มีอิสรภาพทางการเงิน ยอมแลกเวลาทุกนาทีในการเรียนรู้พัฒนาตัวเอง ยอมแลกทุกอย่างทุกการลงทุนที่อาจจะเสี่ยงและพลาด
แน่นอนผมต้องพลาดแน่แต่ผมไม่สนเพราะเป้าหมายของผมคือธงที่อยู่บนยอดเสานั้นและผมจะไม่ยอมหยุดถ้าผมยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ผมต้องการ
ประโยคหนึ่งที่พอจะทำให้รู่ว่าการเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นแล้วหลังจากศึกษาเรื่องทัศนคติและจิตวิทยาความสำเร็จคือผมพูดกับตัวเองว่า
ดีเสียอีก ในประเทศที่มีความเลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก ในประเทศที่การจะรวยนั้นเป็นเรื่องยาก ในประเทศที่การบริหารของรัฐบาลย่ำแย่ถึงขีดสุด ผมจะเป็นกบตัวนั้นที่ปีนเสาที่เต็มไปด้วยน้ำมันและไฟ
ผมไม่เชื่อเด็ดขาดว่าถ้าทุ่มเททั้งชีวิตขนาดนี้แล้วมันจะไม่เกิดผลอะไรขึ้นมาเลย ไม่มีทาง
คุณเองก็เป็นกบตัวนั้นได้นะครับ อย่าฟังเสียงคนรอบข้างมากเกินไปและอย่าปล่อยให้เสียงในหัวหลอกให้คุณย่ำอยู่ที่เดิม จดจ่อที่เป้าหมายเสมอแม้จะล้มสักกี่ครั้งก็ตาม
โฆษณา