#PERSONA 47 ปีของลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ กับเส้นทางของการเป็นทั้งนักแสดงและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม
WEB-SIZE: https://www.modernist.life/19042/
วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนักแสดงชื่อดังที่กวาดรางวัลมามากมายอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ นักแสดงชาวอเมริกันที่แจ้งเกิดกับภาพยนตร์หลายเรื่อง อย่าง ไททานิค และรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม วันนี้ครบรอบปีที่ 47 ของเขา ทางเราจึงอยากจะมาเล่าเรื่องราวชีวิตและผลงานสุดประทับใจของลีโอนาร์โดให้ผู้อ่านกัน
ลีโอนาร์โดเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี 1974 ที่ลอสแองเจลิส โดยแม่ของลีโอนาร์โดเล่าว่า เธอได้ตั้งชื่อเขาตั้งแต่ยังไม่กำหนดคลอด เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่เขาพยายามถีบท้องเธอในขณะที่กำลังดูผลงานศิลปะของลีโอนาร์โด ดาวินชี จึงเป็นที่มาของชื่อ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ จนถึงทุกวันนี้
ลีโอนาร์ดาเป็นลูกคนเดียวของเออร์เมลิน (Irmelin Indenbirken) และจอร์จ ดิคาปริโอ (George DiCaprio) พ่อแม่ของเขาหย่าร้างกันตั้งแต่เขายังเด็ก ส่วนใหญ่เขาได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ ซึ่งมีอาชีพเป็นเลขานุการด้านกฎหมาย แม้ว่าพ่อแม่จะหย่าร้างแต่เด็ก แต่ลีโอนาร์โดก็ยังมีความใกล้ชิดกับพ่อของเขาที่มีอาชีพเป็นศิลปินผู้จัดจำหน่ายหนังสือการ์ตูนใต้ดิน แม้ว่าครอบครัวจะหย่าร้าง แต่เขาก็ได้รับการสนับสนุนความฝันจากครอบครัว ทำให้ช่วงชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างสนุกและโลดโผนได้อย่างเต็มที่ เขาได้มีโอกาสเรียนรู้ศิลปะการแสดงตั้งแต่อายุ 14 โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่พ่อเปิดให้ชม คือเรื่อง Taxi driver ที่แสดงโดย โรเบิร์ต เดอ นิโร (Robert De Niro)
3 ปีต่อมา ลีโอนาร์โด้ที่มีอายุเพียง 18 ปีก็ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Boy’s life กับโรเบิร์ต เดอ นิโร และเอลเลน บาร์กิน (Ellen Barkin) โดยในเรื่องราวเล่าถึงเด็กหนุ่มที่จำต้องเดินทางไปต่างประเทศกับแม่เพื่อตามหาอนาคตที่ดีกว่าในตอนนี้ แต่เมื่อแม่ของเขาตัดสินใจแต่งงานใหม่ ทำให้เขาต้องเจอการกดขี่และกดดันจากพ่อเลี้ยง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ดัดแปลงมาจากไดอารี่ของโทเบียสวูลฟ์ (Tobias Wolff) และเป็นผลงานที่แจ้งเกิด ทำให้มีคนรู้จักตัวเขามากขึ้น
ในปี 1993 ลีโอนาร์โดยังได้ร่วมแสดงกับจอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) ในภาพยนตร์เรื่อง What’s Eating Gilbert Grape ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของกิลเบิร์ต เกรป (จอห์นนี เดปป์) กับครอบครัว ที่เขาต้องกลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัวหลังจากที่พ่อเสียชีวิตและพี่ชายคนโตหนีไป พร้อมกับสมาชิกที่เหลือ คือ แม่ พี่สาว น้องสาว น้องชาย และเออร์นี่ ที่เป็นเด็กชายผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา ซึ่งรับบทโดยลีโอนาร์โด จากการแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ เขาได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำเป็นครั้งแรกที่ได้รับรางวัล Los Angeles Film Critics Association’s New Generation Award และรางวัล National Board of Review Award (Best Supporting Actor)
หลังจากนั้นในปี 1996 ลีโอนาร์โดได้มีผลงานการแสดงในบทบาทของ โรมีโอ ในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ของวิลเลี่ยม เชกสเปียร์ ประกบคู่กับนักแสดงสาวอย่าง แคลร์ เดนซ์ (Claire Danes) ส่งผลให้เขาได้รับรางวัล Best Actor Award ที่ Berlin International Film Festival และเขายังกลายเป็นชายหนุ่มขวัญใจสาว ๆ อีกด้วย
และภาพยนตร์ที่ทำให้เขากลายเป็นที่รักของคนทั้งโลกอย่าง Titanic ผลงานการกำกับโดย เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้เขาแจ้งเกิดของเขาอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์ที่กวาดรายได้มหาศาลจากทั่วโลก โดยเขาได้รับบทเป็น แจ๊ค ดอว์สัน กับประโยคเด็ด "I'm the King of the World" ประกบคู่กับ เคต วินสเล็ต (Kate Winslet) ที่รับบทเป็น โรส เดวิท บูเคเตอร์ กลายเป็นนักแสดงคู่ขวัญที่แฟน ๆ ยังชื่นชมมาจนถึงทุกวันนี้ และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้คว้ารางวัลจากเวทีออสการ์มากถึง 11 รางวัล โดยปัจจุบันภาพยนตร์เรื่อง Titanic อยู่ในอันดับที่ 3 ของภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ส่วนลีโอนาร์โดเองก็ยังได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ แต่เขาก็ยังไม่ได้รับกลับมาเสียที
นอกจากบทบาทของแจ๊ค ดอว์สัน ที่สามารถเข้าไปครองหัวใจของใครหลาย ๆ คนได้แล้ว ลีโอนาร์โดยังได้มีผลงานอีกหลายบทบาทที่ท้าทายความสามารถของเขาอย่าง The beach (2000), Gangs of New York (2002), Aviator (2004), Departed (2006), Body of lie (2006), Shutter Island (2008), Inception (2010), Django (2012), The Great Gatsby (2012)
อีกหนึ่งผลงานที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ภาพยนตร์เรื่อง The Revenant ที่เขารับบท ฮิวจ์ กลาส (Hugh Glass) ชายชาวแดนในยุค 1820 มีอาชีพเป็นนักสำรวจ พร้อมกับลูกชาย 1 คน ที่ถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมและถูกเพื่อนร่วมทีม จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ รับบทโดย ทอม ฮาร์ดี้ (Tom Hardy) ปล่อยทิ้งไว้ให้ตายเพียงลำพัง เขาต้องทนต่อสภาพที่เหน็บหนาวอย่างรุนแรง และต้องหาทางรอดชีวิตเพื่อกลับไปแก้แค้นฟิตซ์เจอรัลด์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาริตู (Alejandro González Iñárritu) ซึ่งการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างยากลำบากเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ แต่กลับเป็นกระแสรางวัลใหญ่ในทันที อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย
และในภาพยนตร์เรื่องนี้เองทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในปี 2016 ท่ามกลางความยินดีของคนทั้งโลกที่ต่างรอคอยรางวัลนี้เช่นเดียวกับเขา นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่อง The Revenant ยังกวาดรางวัลออสการ์มาอีก 2 สาขาได้แก่ ถ่ายภาพยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม
นอกจากความสำเร็จในด้านการแสดงที่หลากหลายและการันตีด้วยรางวัลแล้ว ลีโอนาร์โดยังเป็นนักเคลื่อนไหวตัวยงและผู้สนับสนุนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเขาเริ่มสนใจประเด็นนี้หลังจากที่ถ่ายทำ Titanic เสร็จ หลังจากที่เขาได้ขึ้นรับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เขายังได้กล่าวสุนทรพจน์ด้านสิ่งแวดล้อมบนเวที ทำให้หลายคนอดปลื้มไม่ได้
“Revenant เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ โลกที่เรารู้สึกร่วมกันในปี 2558 เป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นภัยคุกคามเร่งด่วนที่สุดที่ทุกสายพันธุ์กำลังเผชิญอยู่ เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกันและหยุดการผัดวันประกันพรุ่ง ” ลีโอนาร์โดได้กล่าว
นอกจากนี้ลีโอนาร์โดยังได้เริ่มโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีชื่อว่า มูลนิธิลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio Foundation) โดยสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ องค์กร Save The Planet World Wildlife และ Global Green USA โดยชีวิตส่วนของเขาก็ดำเนินไปอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ อีกทั้งเขายังได้ซื้อเกาะแห่งหนึ่งในประเทศเบลีซ ด้วยวัตถุประสงค์ที่ว่าจะสร้างรีสอร์ตที่เป็นมิตรต่อโลก หากใครติดตามทวิตเตอร์และอินสตาแกรมของเขาจะพบว่า เขานั้นได้พูดถึงประเด็นสิ่งแวดล้อมอยู่บ่อยครั้ง ถึงขั้นที่นิตยสารชั้นนำอย่าง TIME ได้ยกย่องให้เขาเป็นบุคคลมีชื่อเสียงที่ใช้โซเชียลมีเดียได้อย่างชาญฉลาดที่สุดในปี 2014 อีกทั้งเขายังได้รับรางวัล Crystal Award จากสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ในการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ
ความสำเร็จทั้งในด้านการเป็นนักแสดงและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมของเขายังคงโดดเด่นและเป็นที่รักของแฟนคลับทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงรักในตัวของ “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” คนนี้
อ้างอิง
TEXT: RATTANAKORN H.
IMAGE: THE ACADEMY AWARDS / ABC
ติดตาม Persona: เรื่องจริง คนจริง คำจริง และเรื่องราวของ "ผู้คน" ที่จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตบน Modernist เท่านั้น
#Modernist - BOLD | MODERN | INSPIRED
ติดตามเราได้ทาง https://www.modernist.life
FB / IG / TW / BLOCKDIT @lifeatmodernist
ติดต่อโฆษณา: kritthanan@songsue.co
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
