13 พ.ย. 2021 เวลา 04:32 • อาหาร
“แกงกะหล่ำปลีผักกาดขาวปลาสวายพริกแกงส้มใต้: แกงส้มที่คนใต้ไม่อาจยอมรับคำเรียกคนภาคกลางว่าแกงเหลือง”
ได้พริกแกงใต้ “เจ๊จือ” จากเมืองกระบี่เป็นของฝากมาสักพักละครับ ทั้งพริกแกงเผ็ดและแกงส้ม หลายคนคงรู้กิติศัพท์ความจัดจ้านร้อนแรงของมันดี การเตรียมพร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเป็นวันที่กระเพาะอาหารมีความพร้อม และมีของกินเคียงเพื่อลดความแรงร้อน พวกปลาทอด ไข่เจียว หรือหมูหวาน กระนั้นก็ไม่วายให้ท้องไส้เดือดปุดๆ แกงส้มหม้อนี้ไม่น่าจะมีในตำราไหนหรอกครับ ผมใช้พริกแกงส้มใต้ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ขมิ้น แกงกับผักจืดๆ ฉ่ำน้ำสายพันธุ์จีนอย่างกะหล่ำปลีและผักกาดขาว รวมทั้งใช้รสเปรี้ยวที่ได้จากมะนาวเพราะขี้เกียจคั้นน้ำส้มมะขามเปียก ความเผ็ดระห่ำของพริกแกงใต้ กับความเปรี้ยวชนิดไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหมของมะนาวไปกันด้วยดี เว้นเพียงกระเพาะของผมที่ถูกผลักภาระให้ต้องทำงานหนักยาวนานตามลำพัง
คนเมืองชายทะเลอย่างผมชอบกินปลาสดซึ่งเรามีวิธีรับมือความคาวได้ไม่มีปัญหา แต่ด้วยวิถีแบบคนเมือง หาได้แค่ปลาทอดสำเร็จรูปแพคและแรปพลาสติกบางใสไว้ก็จำเป็นต้องใช้มัน ทำให้เป็นแกงส้มปลาที่เนื้อกระด้างและออกมันต่างไปจากแกงส้มปลาของแม่และพี่สาว
ผมใช้พริกแกงเพียงทัพพีเดียว (ขนาดทัพพีเดียว!!!) ทำให้น้ำแกงไม่ข้นและฉูดฉาดเท่าแกงใต้ของคนใต้ขนานแท้ แต่สีน้ำแกงนั้นโดดเด่นด้วยขมิ้นที่ให้สีเหลืองจัด แทบจะส้มแสด แม้ดั้งเดิมคำว่า “ส้ม” ใช้เรียกความเปรี้ยว แต่ต่อมาก็ถูกใช้เรียก “สีส้ม” ด้วย เมื่อคนภาคกลาง โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯที่เป็นผู้กำหนดมาตรฐานทางวัฒนธรรมของประเทศนี้พบเห็น “แกงส้ม” ของคนใต้เข้า ซึ่งสีของมันไม่ส้มเท่าแกงส้มของคนกรุงเทพฯแต่ออกเหลือง คนกรุงเทพฯจึงวิสาสะเรียกแกงส้มใต้ที่เห็นว่า “แกงเหลือง”
ผมไม่ใช่คนใต้ แต่มีเพื่อนและคนรู้จักที่เป็นคนใต้นับไม่ถ้วน ยืนยันตรงกันว่า คนใต้เรียกแกงที่มีรสเปรี้ยวซึ่งมีสีออกส้มนี้ว่า “แกงส้ม” ไม่ต่างจากคนภาคกลาง และภาคอื่นๆ ได้โปรดกรุณาอย่าเรียกมันว่าแกงเหลือง คนใต้ไม่โอ แม้คนใต้จะชอบแกงส้มใส่ปลาโอก็เหอะ
ส่วนผักสำหรับใส่ลงในหม้อแกงส้มล่ะ คุณว่าผักอะไรเหมาะสุด?
ผมว่าถามร้อยคนก็อาจจะได้ร้อยคำตอบ ขึ้นกับประสบการณ์ และรสนิยมแต่ละคน ของผมคุ้นกับผักบุ้งนา (ผมควรต้องเรียกมันว่าผักบุ้งสวนเพราะครอบครัวผมทำสวน ซึ่งตามร่องน้ำและคันสวนเต็มไปด้วยผักบุ้งที่ว่านี้) มาตั้งแต่เกิด มันคือผักบุ้งต้นเล็กๆ ลำต้นสีแดงๆ ม่วงๆ ที่คนชอบเอามากินแกล้มส้มตำนั่นละครับ มันมีความเหนียวกรอบและเผ็ดในตัว เมื่อจะแกงก็หั่นเป็นปล้องสั้นๆ พอคำ ทันทีที่ตักเข้าปากและกัดมัน น้ำแกงที่เข้าไปอัดอยู่เต็มปล้องจะกระจายออก รสแกงส้มเผ็ดเปรี้ยวเค็มหวานซ่านเต็มแผงลิ้น และกระพุ้งแก้ม วินาทีนี้เองที่เราจะเข้าถึงความเป็นที่สุดของแกงส้ม
วันนี้ของผมไม่มีผักบุ้งนา ผมเลือกกะหล่ำปลีและผักกาดขาวมาแทน ก็พอใช้ได้ แต่ผักสองอย่างนี้จะให้อารมณ์ที่ต่างไปเพราะในเนื้อในตัวของมันเต็มไปด้วยน้ำ แม้จะให้ความหวาน แต่ความฉ่ำน้ำทำให้น้ำแกงจางลง ผมจึงเห็นว่ามันเหมาะกับการเอาไปต้มจับฉ่าย ผัด หรือกินสดแกล้มน้ำพริกหรือปลาร้ามากกว่า
ถือเสียว่าเป็นการทดลองที่กินได้ แค่เราผสมวัตถุและสสารต่างๆ ลงในหม้อแกงแทนที่จะเป็นปีกเกอร์ในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ หากผลการทดลองวันนี้ออกมาไม่ถูกใจพรุ่งนี้ก็ทดลองใหม่ ในโลกโลกาภิวัตน์ที่มีวัตถุดิบแปลกหน้าไหลเวียนมาให้เราพบเจอมากมายก็น่าที่เราจะฉวยโอกาสทำความรู้จักกับมัน หาทางสร้างนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ ใส่ชีวิตบ้างคงจะดี
โฆษณา