13 พ.ย. 2021 เวลา 12:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ดรูอิก แห่ง Eternals
แม้สิ้นความหวัง แต่ยังรักมนุษย์
“ฉันต้องทนเห็นมนุษย์ทำสงคราม ฆ่าฟัน ทั้งที่ฉันหยุดมันได้”
1
คุณเคยจินตนาการว่าตัวเองสามารถควบคุมจิตใจของคนอื่น เพื่อให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นบ้างไหม? หรืออย่างน้อยก็เปลี่ยนพวกเขาให้เป็นแบบที่คุณต้องการ
ลองจินตนาการว่าเรากำลังต่อแถวซื้ออาหารในร้านดังที่อาจต้องรอคิวเป็นชั่วโมง หากมีใครคนหนึ่งเอาเปรียบคนอื่น และแทรกคิวเข้ามา คงเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจไม่น้อยเลย
หากคุณมีพลังเหมือนดรูอิก สามารถควบคุมจิตใจและบังคับให้คนๆ หนึ่งทำตามคุณได้คุณจะทำอย่างไร? จะบังคับให้ไปต่อแถวเหมือนคนอื่นไหม? หากเราทำแบบนั้นแล้ว โลกจะน่าอยู่ขึ้นบ้างไหมนะ
ดรูอิก คือ Eternals ผู้มีความสามารถในการควบคุมจิตใจคน เขาเกลียดสงคราม เกลียดการทะเลาะเบาะแว้งและการห้ำหั่นกัน เขามีพลังที่สามารถบังคับให้ผู้คนหยุดต่อสู้กันได้ แต่มักถูกห้ามปรามอยู่เสมอด้วยเหตุผลที่ว่า “เราไม่ควรแทรกแซงความขัดแย้งของมนุษย์”
ดรูอิก มักแสดงออกชัดเจนถึงความไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนั้น เขามีอำนาจที่จะหยุดทุกความขัดแย้งของมนุษย์อยู่ในกำมือ แต่กลับถูกห้ามมิให้ใช้มันตามใจชอบ
ไม่ดีตรงไหน ถ้ามีใครซักคนหยุดยั้งเรื่องร้ายได้ก่อนมันจะลุกลามใหญ่โต ลดทอนความสูญเสียจากการต่อสู้กันไปจนถึงขั้นสามารถหยุดสงครามและช่วยคนได้หลายร้อยหรืออาจหลายล้าน แต่คำถามคือ ใครล่ะที่เป็นคนตัดสิน ว่าสิ่งไหนถูก หรือสิ่งไหนผิด และสิ่งไหนที่ควรหยุดยั้งห้ามปราม
ในสังคมความเป็นจริง เรามักได้พบเจอผู้คนและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ชวนให้หงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาว่า หากคนนั้นเป็นอย่างนี้ หรือคนนี้ทำอย่างนั้น อะไรๆ คงจะดีขึ้น เราเจอคนเห็นแก่ตัว คนขี้โกง คนโกหก หรือแม้แต่คนที่ใช้พลังอำนาจของตนในทางที่ผิด หากเราสามารถหยุดพวกเขาได้ สังคมก็คงดีขึ้น และทุกคนก็คงจะมีความสุขมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่ดรูอิกคิดเช่นกัน เขาหมายมั่นที่จะใช้พลังของตัวเองเพื่อความสงบสุขของมวลมนุษย์อย่างแรงกล้า แต่ที่น่าสนใจก็คือ ตลอดเวลา 7,000 ปี เขากลับไม่เคยลงมือทำ
แม้เคยลั่นวาจาว่าเขาจะไม่ทนดูมนุษย์ทำสงครามอีกต่อไป และจะใช้พลังของตัวเองเพื่อหยุดการฆ่าฟันอันไร้สาระของมนุษย์ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ดรูอิกก็รู้ดีว่าถึงสงครามจะไม่ใช่เรื่องที่น่าสรรเสริญ แต่การใช้พลังของเขาเพื่อบังคับให้คนหยุดทำสงครามก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเช่นกัน
ลองนึกกลับมาที่ร้านอาหารชื่อดังที่มีคนต่อคิวยาวเหยียดอีกครั้ง หากเราคือดรูอิก เราก็สามารถบังคับให้คนที่แทรกคิว เลิกทำแบบนั้น แล้วกลับไปต่อคิวได้ แต่ในขณะเดียวกัน ลึกๆ ในใจของเราก็รู้ดี ว่าการบังคับให้คนอื่นทำในสิ่งที่ถูกต้องนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งดรูอิกเองก็เข้าใจถึงข้อนี้ดีแม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับ
“มนุษย์จะเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วก้าวผ่านมันไป” คือสิ่งที่เอแจ็ค หัวหน้าของเหล่า Eternals กล่าว แม้จะมีท่าทีที่ต่อต้าน แต่แท้จริงแล้วดรูอิกก็เข้าใจถึงความสำคัญของคำพูดนี้เป็นอย่างดี
การถูกบังคับให้เข้าแถว อาจทำให้สังคมเป็นระเบียบมากขึ้นในระยะเวลาหนึ่ง มันไม่ถูกต้องและยั่งยืนเท่าการสอนให้มนุษย์เข้าใจถึงความสำคัญของการเข้าแถว และความเลวร้ายของการเอารัดเอาเปรียบ
เช่นเดียวกัน สงครามเองก็ไม่ควรยุติเพราะถูกใครคนหนึ่งบังคับ แต่ควรยุติเพราะมนุษย์เข้าใจถึงผลเสียของสงคราม และรู้ว่าไม่ควรทำสงครามตั้งแต่แรก การแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติได้โดยไม่ต้องมีใครบังคับต่างหาก ความสงบสุขที่ได้มาถึงจะยั่งยืนได้อย่างแท้จริง
ดรูอิก อาจเปรียบเสมือนตัวแทนของคนธรรมดาอย่างเราๆ ที่ต้องเผชิญกับความ Toxic ของผู้คน สังคม และตัดสินใจอะไรยากๆ อยู่ในทุกๆ วัน บางครั้งเรารู้อยู่แก่ใจว่าการทำสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร แต่การลงมือทำจริงนั้นยากกว่ามาก การได้เห็น ดรูอิก ที่มนุษย์ยกให้เป็นเทพต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เหล่านี้ยิ่งทำให้หนังดูจับต้องได้ และใกล้ตัวอย่างน่าประทับใจ
เดี๋ยวนี้ หนังมาเวลต้องพยายามทำหนังออกมาให้ย่อยง่ายที่สุดเพื่อประชากรแฟนๆ ที่มีอยู่ค่อนโลก Eternals อาจไม่ใช่หนังที่เดินตามขนบของหนังมาเวลเท่าไหร่ แม้จะมีคนชอบและไม่ชอบปะปนกันไป แต่มันก็ช่วยให้หนังสร้างเรื่องราว และเซตติ้งเหล่าตัวละครที่มีมิติ น่าค้นหา และมีศักยภาพที่จะโลดแล่นอยู่บนหนังเรื่องต่อๆ ไปได้อย่างสมศักดิ์ศรี
เจอกันเรื่องหน้า Spiderman No Way Home คิดว่าหลายๆ คนคงเหมือนเราที่แทบจะนับวันรอแบบไม่ไหวแล้ว บางทีก็คาดหวังจนกลัวตัวเองจะผิดหวังอยู่บ้างเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าจักรวาล MCU มันกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญและขับเคลื่อนวงการหนังฮอลลีวู้ดไปแล้ว ไม่ว่ามันจะออกมาแบบไหนแฟนๆ ก็ยังคงต้องติดตามและผจญภัยร่วมกับตัวละครต่อไปอีกนานอยู่ดี
Ace
211113
โฆษณา