14 พ.ย. 2021 เวลา 02:14 • ท่องเที่ยว
ลอนดอนวันที่ 7 (ตอน 1) ไปเข้าเฝ้าพระเจ้าเฮนรี่ ที่พระราชวังแฮมป์ตันคอร์ท (Hampton court)
วันนี้เราขอไปเข้าเฝ้าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่พระราชวังแฮมป์ตันคอร์ท (Hampton Court Palace) กันดีกว่า พระราชวังสำคัญเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองลอนดอนแต่ก็ไปถึงได้โดยรถไฟและใช้เวลาไม่นานนัก ผมนั่งรถใต้ดินไปยังสถานีรถไฟวอเตอร์ลู ซื้อตั๋วแล้วรอเวลารถไฟที่จะมาถึง
พระราชวังแฮมตันคอร์ท
ระหว่างนี้เดินสำรวจสถานีรถไฟเล่นๆพลางคิดว่าวันนี้จะทำอะไรกินดี เพราะนี่ก็อยู่อย่างยาจกมานานแล้ว อยากกินอะไรอร่อยๆมีเนื้อมีหนังบ้างจู่ๆก็มองเห็นอะไรขวางทางอยู่ตรงข้างหน้า ซาลามี่กล่องใหญ่จากไหนก็ไม่รู้ตกอยู่เป็นปึกตรงข้างหน้าเรา แถมมีรอยเท้าเหยียบไปแล้วส่วนหนึ่งอีก โอ๊ย ใครหนอมาทิ้งเอาไว้ช่างน่าขยะแขยง ทำไมไม่มีใครจัดการเอามันออกไปซะ
แต่แล้วก็คิดได้ว่าของแบบนี้คงวางไว้ตั้งนานแล้วและก็ไม่มีใครมาทำอะไรกับมัน และมันก็มาขวางทางเราเองนะ จะเป็นอะไรไปได้ล่ะนอกเสียจากโชคชะตาฟ้าดินที่บังเอิญมาบรรจบกันตรงหน้าเรา เอ้อ แล้วเมื่อกี้ฉันกำลังคิดอะไรอยู่หนอ
มิน่าล่ะ เสียงความคิดคงไปถึงสวรรค์ ใครจะปฏิเสธได้เล่าเมื่อสวรรค์ประทานมา ดูซิ พอคิดถึงอาหารอร่อยพระเจ้าก็ประทานมาเลย แล้วอีกอย่างสภาพทั่วไปก็ยังดีอยู่ แม้จะมีรอยรองเท้าอยู่นิดนึงแต่ก็อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของทูตสวรรค์ประจำตัวเราก็ได้นิ
ผู้คนเดินกันขวักไขว่ไปมาตอนนี้ กลัวจังว่าจะมีใครเหยียบซาลามี่แล้วจะลื่นหกล้ม อย่ากระนั้นเลย ช่วยทำประโยชน์ให้สังคมกำจัดมันให้พ้นทางดีกว่า โชคดีมีถุงกระดาษที่เคยใช้ใส่ขนมปังอยู่พอดี หันซ้ายหันขวาไปมาก็เรียบร้อย ปฏิบัติภารกิจสำเร็จด้วยความอิ่มใจอิ่มบุญ ว่าแล้วรถไฟก็มาถึงพอดี ได้เวลาไปชมวังกันต่อ
สักพักรถไฟก็มาถึง ก่อนเวลาเปิดวังนานพอควร ก็เลยมีเวลาเดินเตร็ดเตร่เรื่อยเปื่อยไปก่อนที่ริมแม่น้ำซึ่งเงียบสงบดีมาก ล้ำนำใสท่ามกลางแมกไม้เขียวและอากาศหนาวกำลังดีเหมาะมากกับการปิกนิก คิดแล้วก็หยิบกล่องอาหารที่เตรียมไว้มานั่งอร่อยแถวนั้น
ทันใดนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าใครเข้ามาทางด้านหลังไวๆ แล้วก็โผล่หน้ามาทักทายแบบไม่รู้ตัว เพื่อนรักสี่ขาจากไหนไม่รู้ ตัวขาวจุดน้ำตาลยิ้มร่า กระดิกหางจ้องมองมาที่กล่องอาหาร
สวัสดีจ้า เรามากินด้วยกันนะ แบ่งปันกันสักหน่อยจนเกือบหมดกล่องก็มีอีกฝีเท้าเดินเข้ามา คราวนี้เป็น สองเท้าใส่บู๊ทดำ มองขึ้นไปเป็นหนุ่มหล่อผมสีน้ำตาล บอกผมว่าขออภัย หมานี่เป็นของผมเอง คุยกันสักพักพบว่าเขาเป็นคนอิตาลี มาทำงานเป็นครูอยู่ที่นี่ พอรู้ว่าเป็นเป็นคนไทย ก็บอกว่าเขาเคยไปเมืองไทย รู้จักคนไทยบ้าง
เอาละ ถึงเวลาวังเปิดให้เข้าไปชมได้แล้ว เรามาสนใจพระราชวังแฮมป์ตันคอร์ตกันเถอะ ที่นี่เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปี คศ. 1525 หรือประมาณห้าร้อยปีมาแล้ว โดยในเริ่มแรกนั้นพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 (King Henri VIII) แห่งราชวงศ์ทิวดอร์เป็นผู้สร้าง
หลังจากยุคสมัยของพระองค์ผ่านพ้นไป ทายาทผู้สืบทอดราชบัลลังก์ก็ได้ใช้แฮมป์ตันคอร์ตเป็นที่พำนักต่อมา จนถึงสมัยของพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 3 และพระราชินีแมรี่ที่ 2 (ค.ศ. 1689-1702) ได้ทำการปรับปรุงแฮมป์ตันคอร์ทครั้งใหญ่ เพื่อที่จะแข่งขันกับพระราชวังแวร์ซายน์ หลังจากนั้นในรัชสมัยพระราชินีนาถวิกตอเรีย พระองค์ได้รับสั่งให้แฮมป์ตันคอร์ตเปิดสู่ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมได้
นอกจากการเป็นที่พำนักของกษัตริย์แล้ว แฮมป์ตันคอร์ตยังมีบทบาทในด้านอื่นๆด้วย เช่น ในสมัยของการปฏิวัติโค่นล่มกษัตริย์ในยุคพระเจ้าชาร์ลที่ 1 แฮมป์ตันคอร์ตก็ได้มาเป็นที่พำนักของครอมเวลล์ ซึ่งกล่าวกันว่าเขาได้ใช้ชีวิตราวกับเป็นกษัตริย์เสียเองและมีความชื่นชมงานศิลปะของพระราชวังแห่งนี้มากโดยเฉพาะพรมตกแต่งที่สวยงาม ซึ่งมีส่วนช่วยให้แฮมป์ตันคอร์ทรอดจากการทําลายล้างไปได้
แม้ว่าแฮมป์ตันคอร์ตจะมีเรื่องราวและรูปแบบแตกต่างกันตามยุคสมัย เกี่ยวข้องกับกษัตริย์อังกฤษหลายพระองค์ อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงแฮมป์ตันคอร์ตคนส่วนใหญ่มักคิดถึงพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก่อนใคร เพราะในยุคของพระองค์มีเรื่องราวมากมายชวนจดจำ แถมยังมีผีของพระราชินีในพระองค์ (ซึ่งมีด้วยกันหลายพระองค์) มาหลอกหลอนอยู่เรื่อย ดังนั้นคุณจึงโชคดีมากที่จะได้เข้ามาชมประวัติศาสตร์ที่สนุกสนานในพระราชวังนี้ และเป็นโชคดีอีกชั้นที่ผมได้เล่าเรื่องราวของพระองค์เหล่านี้ไว้ก่อนนี้แล้ว ช่วยให้ชมวังไปพร้อมกับเกร็ดความรู้ดีๆไปด้วยกัน
เมื่อเข้าไปภายในรั้วและเดินข้ามสะพานจะได้เห็นประติมากรรมรูปสัตว์ต่างๆเรียงแถวสองข้างคอยต้อนรับเรา สัตว์เหล่านี้คือสัญลักษณ์ประจำตัวกษัตริย์(King’s Beasts) แสดงถึงบรรพบุรุษของพระเจ้าเฮนรี่ฯและ พระราชินีเจน ซีมัวร์ (Jane Seymour) ซึ่งได้แก่ สิงโต มังกร วัว เสือ ยูนิคอร์น นอกจากนี้ ยังมีสัตว์ของพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งแสดงบรรพบุรุษของพระองค์อีก เช่น กริฟฟิน ม้า เหยี่ยว ผ่านพ้นไปจากนี้คือทางเข้าพระราชวังแห่งนี้คืออาคารสไตล์ทิวดอร์ซึ่งมีอิทธิพลของสถาปัตยกรรมโกธิคตอนปลาย (Perpendicular Gothic) ผสมกับอิตาเลียนเรเนอซองซ์ (FT) ที่ใช้อิฐแดงมาประกอบสร้าง มีส่วนประกอบที่เป็นหอคอย ประตูหน้าต่างโค้ง
แม้ว่าแฮมป์ตันคอร์ตจะมีกษัตริย์หลายพระองค์มาประทับ แต่การจัดแสดงของที่นี่ก็นำเอาพระเจ้าเฮนรี่ฯ.มาเป็นพระเอกของวัง โดยห้องแรกๆมีนิทรรศการที่แนะนำให้เรารู้จักกับพระองค์ในสมัยทรงพระเยาว์และช่วงวัยหนุ่ม ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระดังฮอตฮิตมีคุณสมบัติเป็นที่หมายปองของสาวๆที่ได้พบ ทั้งความหล่อเหลาหุ่นดีแบบนักกีฬา เป็นทั้งชายชาติทหารและศิลปินที่แต่งเพลงแต่งโคลงกลอนได้เก่ง บุคลิกสง่างาม เรียกได้ว่าเป็นเจ้าชายรูปงามที่สุดของยุโรป จึงไม่น่าแปลกนักหากสาวๆชั้นสูงในอังกฤษจะทำการตบตีแย่งชิงพระองค์กันแบบละครหลังข่าว สาวไทยที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องทิวดอร์อาจเคลิ้มฝันกับพระเอกเรื่องนี้อยู่
อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ที่รู้จักเฮนรี่ที่ 8 มาแล้วมักไม่คุ้นเคยกับพระองค์ในวัยหนุ่ม แต่กลับรู้จักพระเจ้าเฮนรี่ฯในรูปแบบของชายวัยกลางคนหุ่นอ้วนฉุมีเคราผู้สร้างเรื่องโหดๆร้ายๆในเวลาต่อมา โดยเฉพาะการเข่นฆ่าพระมเหสีทั้ง 6 ของพระองค์อย่างสยดสยอง ดังนั้นท่านที่มีภาพประทับใจของพระเจ้าเฮนรี่ฯทั้งสองวัยก็ควรจะดีใจได้ว่าเป็นโอกาสอันสูงที่จะคอยย้ำเตือนตนว่าสังขารนั้นไม่เที่ยง
ทีพระราชวังแฮมป์ตันคอร์ตท่านจะได้พบการจัดแสดงน่าชมหลายอย่าง โดยในห้องแรกเป็นการแนะนำราชวงศ์ทิวดอร์และเฮนรี่ที่ 8 ภาพเขียนที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น บันทึกสงคราม ผังราชวงศ์ (family tree) ที่แสดงความสัมพันธ์ของสมาชิกราชวงศ์แต่ละคน มีการนำเสนอโดยใช้เก้าอี้ไม้มาวางไว้ในห้องแล้วเขียนชื่อบุคคลลงไป เพื่อบ่งชี้ว่าบุคคลนั้นได้เข้ามามีส่วนร่วมในห้องนี้หรือในเหตุการณ์ใดบ้าง จารึกข้อความบอกเล่าบนพนักเก้าอี้และให้ทราบความเป็นมา
นอกจากนั้นที่ห้องต่างๆจะมีป้ายกระดาษแปะหรือเสียบหนีบไว้บนผนังเพื่ออธิบายรายละเอียดว่าห้องนี้คือห้องอะไรและมีเรื่องราวสำคัญอย่างไร ในบางห้องจะได้เห็นแบบจำลองหุ่นคนในเครื่องแต่งกายแบบต่างๆซึ่งเป็นหุ่นกระดาษและเสื้อผ้ากระดาษพื้นขาว นี่เป็นวิธีการดีทีเดียวในการนำเสนอ ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกว่าสื่อต่างๆที่ปรากฏนั้นอยู่คนละมิติกับห้องและมีสภาพเป็นของชั่วคราว แม้มันจะโดดเด่นแต่ก็ไม่รบกวนจินตนาการของเรา สามารถแยกมิติการนำเสนอออกมาจากความเป็นจริงในห้องต่างๆได้
ห้องที่สวยงามมากและต้องไม่พลาดคือห้องโถงใหญ่ (The Great Hall) ซึ่งมีผืนพรมแขวนผนังทอด้วยเส้นไหมและด้ายทอง (tapestry) เป็นภาพต่างๆเกี่ยวกับประวัติของอับราฮัม ซึ่งมีรายละเอียดสวยงาม เหนือผืนพรมเหล่านั้นจะมีภาษาฝรั่งเศสโบราณเขียนว่า “Dieu et mon droit” แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “God and My Right" แสดงถึงการครอบครองบัลลังก์อันเกิดจากการสืบทอดราชสมบัติตามสันตติวงศ์และสิทธิที่มาจากพระเจ้า นอกจากนั้นจะได้เห็นหน้าต่างกระจกสีโดยระหว่างกระจกแต่ละบานมีหัวกวางติดเรียงกันเป็นแถว
แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดนั้นอยู่เหนือศีรษะเรา คือเพดานโค้งแบบที่เรียกว่าแฮมเมอร์บีม (Hammer beam) สร้างโดยมีคานไม้โค้งซ้อนกันเป็น 2 ชั้น คานชั้นบนถ่ายเทน้ำหนักลงมายังคานชั้นล่างเป็นกรอบวงโค้ง มีการแกะสลักและวาดสีสวยงามมาก สวยจนต้องบอกว่าต้องมาดูให้เป็นบุญตา บนเพดานนั้นมีราชลัญจกรของพระเจ้าเฮนรี่ฯ อยู่ และหากคุณตาดีตาถึงอาจสังเกตเห็นตราสัญลักษณ์ขนาดจิ๋วของพระเจ้าเฮนรี่ฯและพระนางแอนโบลีเป็นตัวอักษร HA พันเกี่ยวกันไว้บนเพดานแห่งนี้ด้วย
ภาพจาก https://www.pinterest.es/pin/345862446367793028/
ห้องนี้เองเป็นสถานที่จัดเลี้ยงในงานใหญ่มากมายในอดีต ส่วนในปัจจุบันนี้ก็ได้มีการนำเสนอเรื่องราวโดยวิธีการนำเอาโต๊ะไม้ขนาดใหญ่มาวางตั้ง คลุมด้วยผ้าปูโต๊ะสีขาว ซึ่งบนผ้าปูนั้นมีข้อความเขียนเกร็ดความรู้ต่างๆให้เราได้ทราบ เช่นชวนให้มองบนเพดานซึ่งมีสีน้ำเงินและทองสวยงาม บอกเราให้สังเกตตราประทับที่มีรูปสัตว์มหัศจรรย์ เช่น ตราประจำตัวของพระเจ้าเฮนรี่ฯเป็นรูปสิงโตสามตัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอังกฤษและฝรั่งเศส ดวงตรารูปกุหลาบทิวเดอร์ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายบิดา (Dukes of Lancaster) และมารดา (Dukes of York) ของพระเจ้าเฮนรี่ฯ
สิ่งสำคัญอีกประการที่ต้องมาชมก็คือโบสถ์ภายในพระราชวัง มีหน้าต่างกระจกสีและเพดานแบบศิลปะโกธิคที่มีลายประดับเป็นเส้นสายสีทองแกะสลักอย่างซับซ้อนสอดประสานกันบนพื้นเพดานสีฟ้าสดดูหรูหราอลังการ
https://www.hrp.org.uk/hampton-court-palace/whats-on/the-chapel-royal/#gs.gdhy8y
http://www.walsom.com/illustrations/urban-historic/chapel-royal.html
นอกจากนั้นยังมีห้องหับอื่นๆอีกที่พรรณนาไม่ไหว ที่โดดเด่นคือห้องผู้พิทักษ์ (The Guard Chamber) ซึ่งนำเอาอาวุธต่างๆทั้งดาบและปืนมาใช้ตกแต่งแบบอัดแน่นเต็มเหนี่ยว สร้างแพทเทิร์นต่างๆเต็มผนังไปหมด แม้ว่าจะไม่ค่อยสวยแต่ก็น่าสนใจ ห้องนี้เป็นห้องเตรียมการตรวจความเรียบร้อย โดยเฉพาะการแต่งกายของข้าราชบริพารให้เหมาะสมก่อนเข้าเฝ้ากษัตริย์ในอีกห้องต่อมา ซึ่งมีพระราชบัลลังก์เป็นพระเก้าอี้ภายใต้คานูปี (canopy) สีแดงซึ่งเป็นที่ประทับของกษัตริย์ ซึ่งตามระเบียบโบราณก่อนหน้านี้ผู้ที่เข้ามายังห้องนี้จะต้องค้อมศีรษะให้กับบัลลังก์นี้เสมอแม้จะเป็นบัลลังก์เปล่าก็ตาม
โพสต์จนเหนื่อยแล้วละ เดี๋ยวไปต่ออีกเพจนึงละกัน พบกันอีกที ในเพจไปเข้าเฝ้าพระเจ้าเฮนรี่ ที่พระราชวังแฮมป์ตันคอร์ท (Hampton court) (ตอนที่ 2)
โฆษณา