14 พ.ย. 2021 เวลา 04:58 • ไลฟ์สไตล์
ทำอย่างไรเราจะมีสุขภาพดีไปจนถึงบั้นปลายชีวิต 🪴
ภาพโดยผู้เขียน
เช้านี้ฉันนั่งจิบกาแฟพร้อมชมกุหลาบในสวน วูวูเซลากำลังออกดอกสีส้มกลีบหยัก ๆ คล้ายถูกจับจีบ พราวเต็มต้น สาวน้อยมองเคอร์กำลังแตกยอดอ่อน ๆ คาดว่าอีกเดือนคงจะสะพรั่งเหมือนกัน วันนี้ฉันอนุญาตให้ตัวเองสโลว์ไลฟ์ ชื่นชมบรรยากาศในสวนกุหลาบให้เต็มอิ่ม ก่อนจะเริ่มต้นเข้าสู่โหมดชีวิตประจำวัน
1
ผลการวิจัยบอกว่าการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจะทำให้เราแก่ช้ากว่าคนอื่น
1
ปัจจุบันสถานการณ์จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีทันสมัย ความก้าวหน้าทางนวตกรรมทางการแพทย์ แต่การมีอายุที่ยืนยาวขึ้นไม่ได้หมายถึงการมีสุขภาพดีจนถึงบั้นปลายชีวิต เพราะอายุมากขึ้นความเสื่อมของร่างกายก็เพิ่มขึ้น เป็นไปตามวัฏจักรชีวิต
ภาพจาก pixabay
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกบอกว่าเมื่อ 70 ปีที่แล้ว ทั่วโลกมีคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 205 ล้านคน แต่ในปี 2565 จะมีถึง 1,000 ล้านคน คนรุ่นใหม่จะเกิดน้อยลง โลกขาดแรงงานที่มีประสิทธิภาพที่จะทำให้ประเทศพัฒนา แต่ละประเทศเก็บภาษีได้น้อยลง เพราะไม่มีคนทำงาน เมื่อสูงอายุก็จะเริ่มเจ็บป่วย เงินออมก็จะถูกนำออกมาใช้เพื่อรักษาตัวเอง ยิ่งทำให้กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ
ภาพจาก pixabay
สถานการณ์ในประเทศไทย ตามที่เคยได้ยินมาว่า ต่อไปคนวัยทำงาน 1 คนจะต้องดูแลผู้สูงอายุ 2 คน ในความเป็นจริง อาจดูแลมากกว่าสองคนต่อครอบครัว เพราะคนเป็นโสดมากขึ้น หรือ คู่แต่งงานไม่อยากมีลูกเพราะไม่มีอยากมีภาระ ในอีก 20 ปี ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี จะมีมากถึง 17 ล้านคน หรือ 1 ใน 4 คนของคนไทย จะเป็นผู้สูงอายุ 1 คน
เมื่อคนเราสูงวัยแล้ว ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปธรรมชาติ ความเสื่อมหลัก ๆ ของผุ้สูงอายุมี 4 ด้าน ด้านแรก คือ การเคลื่อนไหวจะช้าลง ด้านที่สอง การมองเห็นลดลง ด้านที่สาม เริ่มหูตึง การได้ยินลดลง ด้านที่ 4 ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนไป เริ่มนอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย
ทำอย่างไรคนเราจึงจะมีสุขภาพดีไปจนถึงบั้นปลายชีวิต เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อสังคม ประเทศชาติ ครอบครัว และตัวเราเอง จากผลการวิจัยพบว่ามี 3 วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้มีสุขภาพดี
ภาพ pixabay
วิธีแรก คือ การออกกำลังกายหรือ การทำให้ร่างกายแอคทีพสม่ำเสมอ เพียงแค่ทำให้กล้ามเนื้อมีการเคลื่อนไหวจะไปกระตุ้นระบบร่างกายเราทุกส่วน ส่งผลต่อสมองทำให้ความจำดีขึ้น การตัดสินใจดีขึ้น ลดความเครียด วิธีที่สอง คือ การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตามที่ได้เกริ่นไปตอนแรก การได้สัมผัสสายลม แสงแดด หรือ เฝ้าดูการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่เราปลูกเอง การทำสวน หรือ การอยู่กับสัตว์เลี้ยง จะทำให้ร่างกายปรับฮอร์โมน ลดความเสื่อมร่างกายได้
วิธีสุดท้ายคือ การทำสมาธิ หรือ การโฟกัสจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนาน ๆ จะทำให้จิตใจสงบ อารมณ์คงที่ เครียดยาก นอกจากนี้ การทำสมาธิสามารถเพิ่มเนื้อสมองป้องกันอัลไซเมอร์ได้ด้วย
1
ภาพ Pixabay
ทั้ง 3 วิธีนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้ว แต่ไม่ลงมือทำ เหมือนพี่สาวของฉันเอง
ตอนนี้ที่บ้านฉันเป็นสังคมผู้สูงอายุไปแล้ว ฉันผู้มีอายุ 61 ต้องดูแลพ่ออายุ 99 คนวัยแรงงานที่จะดูแลไม่มี พี่สาวอีก 4 คน อยู่คนละบ้าน ต่างก็อายุมากแล้ว แต่ละวันเจอหน้ากันจะบ่นป่วยนั่นโน่นนี่รายวัน พอฉันแนะนำ 3 วิธีง่าย ๆ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง กลับปฏิเสธไม่ยอมทำ อ้างว่าทำงานบ้านเยอะแล้ว หรือ แค่เดินไปมาก็ถือเป็นการออกกำลังกายแล้ว
1
ซึ่งการเปลี่ยนทัศนคติของผู้สูงวัยเป็นสิ่งสำคัญ
ภาพ pixabay
คุณผู้อ่านถึงแม้อายุยังน้อย สามารถเริ่มทำตาม 3 วิธีนี้ได้เลย ไม่ต้องรอให้ถึงเกณฑ์ที่จะเป็นผู้สูงอายุ ( เพราะผู้สูงอายุไม่สามารถเป็นได้ง่าย ๆ มันต้องอาศัยเวลา ) พอเราแก่ตัวลงจะมีต้นทุนสุขภาพที่แข็งแรงกว่าคนอื่น ร่างกายจะเสื่อมลงน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ทำ พูดง่าย ๆ คือ แก่น้อยกว่าเพื่อน ๆ
ภาพโดยผู้เขียน วูวูเซลา
ถ้าหากรักตัวเอง รักครอบครัว รักประเทศชาติ จงเริ่มทำ 3 วิธีนี้ทุกวัน ได้แก่ การออกกำลังกาย การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และการทำสมาธิ ในอนาคตเมื่อถึงวันที่จะจากโลกนี้ไป ก็จะเสมือนใบไม้แก่ร่วงหล่นจากขั้วไปเอง โดยร่างกายไม่ต้องทุกข์ทรมาน
1
กุหลาบวูวูเซลา ภาพโดยผู้เ
ฟังเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ยูทูปนี้ค่ะ
อ้อยคราฟต์เล่าเรื่อง 💋
บทความที่ 28/1000 (BD)
โฆษณา