14 พ.ย. 2021 เวลา 11:30 • ปรัชญา
แค่ใช้ชีวิตก็เหนื่อยแล้ว แรงหมด
เวลาก็แทบไม่เหลือจะเอาที่ไหนมาออกกำลังกาย
ถ้าคุณรู้สึกแบบนี้อยู่ เอ้า อ่านต่อ #goodquestion
เอาจริงถ้าไปบ่นให้ใครฟัง คำตอบที่มักจะเจอคือ “บริหารเวลา”
แต่รู้ๆกันอยู่ ชีวิตจริง มันพูดง่าย ทำยาก
เพราะจริงๆแล้ว สาเหตุที่ทำให้เรา ไม่มีเวลา หรือไม่มีแรง
มันมีปัจจัยต่างๆอยู่เบื้องหลังเยอะมาก
ถ้าพร้อมแล้ว ลุย!
🔴 เริ่มต้น ที่ “เจตนา” ถ้าคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่
แสดงว่าเรามีความคิดว่า อยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง
ซึ่งนี่คือสิ่งที่สำคัญมากๆ การมี “เจตนาที่จะเปลี่ยนแปลง”
คือก้าวแรก
เล่าให้ฟัง ว่าปกติก่อนคนเราจะมีเจตนาเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง
มักจะมี Trigger อะไรบางอย่างที่มากระตุ้นให้เรารู้ตัวว่า
เราใช้ชีวิตแบบเดิมไปเรื่อยๆไม่ได้
ลองย้อนกลับไปสังเกตตัวเองก่อนนิดว่า
อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรา “เริ่มคิด” ว่าต้องเปลี่ยน
เช่น รู้สึกเหนื่อยมาก ล้ามาก รู้สึกอ้วนขึ้น และเริ่มรู้สึกว่า
“เห้ย... ต้องปรับอะไรบางอย่างแล้วนะ”
🔴 แล้วทำไมเราถึงไม่มีเวลา การจะบอกให้เราบริหารเวลา
โดยไม่ได้ Backtrack การใช้เวลาของเรา เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ
ซึ่งคนเราทุกคน มีเวลา 24 ชั่วโมง เท่ากัน ดังนั้นเวลาที่เรามีนันไม่มีทางอยู่ดีๆ หล่นหายไปไหน สิ่งต่อไปที่เราต้องตั้งคำถามคือ
“แล้วเวลาฉันหายไปไหนหมด”
✅ สิ่งแรกที่เราควรทำ คือการลองจดบันทึกว่า
เราทำอะไรบ้าง ในแต่ละวัน คร่าวๆก็พอ เช่น
❓ฉันนอนกี่ชั่วโมง
❓ฉันทำงานกี่ชั่วโมง (เอาแบบทำงาน หรือเรียนจริงๆนะ
ไม่นับอยู่หน้าคอม หรือมือถือ)
❓ฉันอยู่หน้าคอม หรือมือถือ โดยที่ไม่ได้เกี่ยวกับงาน
หรือการเรียนกี่ชั่วโมง
❓ฉันใช้เวลากินอาหาร หรือเลือกอาหารที่จะกิน กี่ชั่วโมง
❓ฉันออกกำลังกาย หรือใช้ร่างกายกี่ชั่วโมง
เอาแค่นี้ก่อน ทั้งหมด 5 ข้อนี้ ควรรวมกันได้ 24 ชั่วโมง
ถ้าเรารวมไม่ได้ 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าปัญหาที่เรากำลังเจอ
อาจจะเป็นปัญหาเชิง Acccountability หรือพูดง่ายๆ
“อาจจะมีช่วงเวลาที่เราใช้เวลาไปกับอะไรก็ไม่รู้ โดยที่เราไม่รู้ตัว”
แต่ถ้าคำตอบของคุณคือ
นอนน้อย (4-5 ชั่วโมง) ทำงานเยอะ (12-16 ชั่วโมง)
ปัญหาของคุณอาจจะไม่ใช่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ... เราไม่มีแรง!
ถ้าไม่มีแรง ... อย่าเพิ่งออกกำลังกาย
ต้องแก้ปัญหาเรื่องการนอนก่อน!
🔴 ถ้าอยากบริหารเวลาได้ ควรเข้าใจคำว่า Passion
เวลาได้ยินคำว่า Passion บ่อยๆ ผมก็อี๋เหมือนกัน
ปลุกฟง ปลุกไฟอะไร แต่จริงๆแล้วรากศัพย์ของคำว่า Passion
มาจากคำว่า Pati ซึ่งแปลว่าความลำบาก ความเจ็บปวด
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ “มีไฟ” !
ดังนั้นถ้าเราอยากบริหารเวลา เราต้องรู้ว่า Passion ของเราคืออะไร
Passion ของคนที่สุขภาพไม่ดี คือความเจ็บป่วย ผลักดันให้อยากมีสุขภาพที่ดีขึ้น
Passion ของเด็กวัยรุ่นที่ผอม ลงพุง โดนแกล้ง
ผลักดันให้อยากแข็งแรง
🔴 แล้วเกี่ยวอะไรกับการแก้ปัญหา ไม่มีเวลาออกกำลังกาย?
เกี่ยวมาก แบบแยกออกจากกันไม่ได้เลย
เพราะเจ็บปวดกับอะไรบางอย่าง การผลักดันตัวเอง
จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น
ถ้าเรามองเห็นความสำคัญของอะไรบางอย่าง
เราจะไม่มีคำว่า “ไม่มีเวลา”
แต่เราจะเอาเวลาที่เรามี
มาใช้กับสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญ
🔴 อยากมีชีวิตที่ดี ต้องมีร่างกายที่ดี
สมมุติอยากรวย เเต่ป่วยง่าย เหนื่อยง่าย คงจะไม่ไหว
ในโลกที่เราควบคุมปัจจัยภายนอกได้ยาก
เเล้วมีอะไรบ้างล่ะ ที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายของเราได้
ตอบได้สั้นๆ “ร่างกาย”
ดังนั้นเราควรเอาเวลาที่เรามีในแต่ละวัน
มาให้กับร่างกายของเราบ้าง
ลองจิตนาการดู ถ้าเราใช้เวลากับร่างกาย
อย่างมีคุณภาพเพื่อให้เรา ไม่เจ็บป่วยง่าย
สมองแล่น แข็งแรง อึดสุดๆ น่าจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น
ทุกครั้งที่เขียนบทความแบบนี้
จะมีคนคิดว่า ออกกำลังกาย คุมอาหาร
ก็ป่วยได้อยู่ดี
อันนี้ผมจะตั้งคำถามว่า แล้วให้ทำไงอะ
ให้นอนหายใจเฉยๆ ไม่ต้องพยายามอะไรเลยเหรอ?
อันนี้เลยต้องย้ำว่า DO WHAT YOU CAN และ FUCK IT ช่างมัน
กับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
🔴 สิ่งที่เรามักมองข้าม
คือการที่เรา “ไม่มีเวลา” ให้กับร่างกายของเรา
ยิ่งทำให้เรามีเวลาน้อยลงในอนาคต
ลองจินตนาการดู ถ้าไม่มีเวลาไปเรื่อยๆ
แล้ววันนึงป่วยขึ้นมา เวลา และทรัพยากรอื่นๆของเรา
จะหายไปกับการพยายามรักษาตัวเองหมด
✅ TIP: เปลี่ยนนิยามใหม่ อย่าคิดว่าต้องออกกำลังกาย
ลองเปลี่ยนใหม่เป็น “ใช้ร่างกาย” แต่สิ่งที่สำคัญ คือต้องทำทุกวัน
ให้เป็น Routine เริ่มจากสัก 15 นาทีต่อวันก่อน แนะนำตื่นมาปุป
ทำเลย จะได้เสร็จๆ เย็นมาจะได้ไม่มีข้ออ้าง
✅ TIP: ลดข้อแม้! ไม่ต้องคิดอะไรมาก คือถ้าอยากกระโดดตบ 15 นาที หรือเดินเล่น ก็ทำตอนท้องว่างไปเลยก็ได้ พูดง่ายๆ ลด “ข้อแม้”
ให้มากที่สุด ยิ่งข้อแม้เยอะ เดี๋ยวจะไม่ได้ทำเอา
✅ TIP: เตือนตัวเองบ่อยๆ “ทุกนาที ส่งผลต่อเป้าหมายของเรา”
เวลาไถมือถือ ให้คิดข้อนี้เยอะๆ แล้วลุกไปหากิจกรรมที่ใช้ร่างกายทำ
✅ TIP: อย่าตั้งความคาดหวังว่าจะเปลี่ยนในเวลาอันสั้น
ค่อยๆให้เวลาตัวเองในการปรับตัว และเรียนรู้เกี่ยวกับ
พฤติกรรมของตัวเอง พอใช้ร่างกายวันละ 15 นาทีได้แล้ว
ค่อยๆเพิ่มขึ้น จนเราสามารถใช้ร่างกายได้ วันละ 30-60 นาที
จากนั้นค่อยๆหากิจกรรมอื่นๆมาทำ
และทำแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ขอให้ได้ทำ!
ดังนั้น DO WHAT YOU CAN
1
โฆษณา