19 พ.ย. 2021 เวลา 03:51 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 19 พ.ย. 2021
"Dow Jones ปิดลบเมื่อคืนนี้ ชณะที่ ดัชนี S&P500
และ Nasdaq ปิดในแดนบวก ขานรับผลประกอบการ
ที่แข็งแกร่งของบริษัท Nvidia ส่วน Alibaba
เปิดเผยตัวเลขผลประกอบการกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาด"
3
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 +0.18% ​(ที่ 4846 จุด), ดัชนี HSTECH -1.41% (ที่ 6383 จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่ 1862 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 24.91 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 75 (Greed > Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก รวมทั้งผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทค้าปลีก เช่น บริษัทโคห์ลส์ คอร์ป
📌 ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (18 พ.ย.) โดยปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 7 วัน หลังจากที่บวกขึ้นติดต่อกันนาน 6 วัน เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลงตามราคาน้ำมันและโลหะ
📌 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากสัญญาน้ำมันร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในระหว่างวัน หลังมีข่าวว่าสหรัฐเรียกร้องให้จีนระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 79.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 81.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
📌 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐนั้น อาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,861.4 ดอลลาร์/ออนซ์
📌 สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 268,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 260,000 ราย แต่ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน
📌 บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้ลงนามในข้อตกลงซื้อยาแพกซ์โลวิด ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 จำนวน 10 ล้านคอร์ส วงเงิน 5.29 พันล้านดอลลาร์ สำหรับการส่งมอบภายในปี 2565
ไฟเซอร์ระบุว่า หากยาแพกซ์โลวิดได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ทางบริษัทก็จะเริ่มส่งมอบยาดังกล่าวในปีนี้ และจะส่งมอบครบจำนวนในปีหน้า
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐได้สั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์จากบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค จำนวน 1.7 ล้านคอร์ส วงเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์
เมื่อเปรียบเทียบราคายาแพกซ์โลวิดและโมลนูพิราเวียร์ พบว่าราคายาต่อ 1 คอร์สของแพกซ์โลวิดมีราคาถูกกว่าโมลนูพิราเวียร์ โดยรัฐบาลสหรัฐซื้อยาแพกซ์โลวิดจากไฟเซอร์เฉลี่ยราคาคอร์สละ 529 ดอลลาร์ หรือราว 17,000 บาท และซื้อยาโมลนูพิราเวียร์จากเมอร์คเฉลี่ยราคาคอร์สละ 700 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 23,000 บาท
📌 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้นำของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในวันจันทร์ที่ 22 พ.ย. เนื่องในวาระครบรอบ 30 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและอาเซียน
ในการประชุมสุดยอดดังกล่าว ผู้นำจีนและอาเซียนจะประเมินความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายตลอด 30 ปีที่ผ่านมา และจะกำหนดทิศทางในอนาคต หลังจากที่จีนและอาเซียนได้บรรลุความตกลงในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีนเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ของจีนได้เรียกร้องให้อาเซียนอนุญาตให้พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว แต่ได้รับการคัดค้านจากบรูไน สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย หลังจากที่พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนในเดือนที่แล้วเช่นกัน เนื่องจากเมียนมาไม่ได้ปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อในการประชุมผู้นำอาเซียนในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นโรดแมปสำหรับการหาทางออกต่อวิกฤตการเมืองภายในประเทศ
📌 ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก โดยมีแรงหนุนจากดัชนี S&P500 และ Nasdaq ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวหุ้นของอาลีบาบาหลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาด
นักลงทุนยังจับตาการซื้อขายในตลาดหุ้นจีนวันนี้ หลังมีการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเมื่อวานนี้ โดยหุ้นของอาลีบาบาลดลงกว่า 5% หลังจากที่บริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาด
อาลีบาบาเปิดเผยผลประกอบการต่ำกว่าคาดในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 2/2564 ตามปีงบการเงินบริษัท โดยได้รับผลกระทบจากการบริโภคที่ชะลอตัว รวมทั้งปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ บริษัทยังถูกกดดันจากการที่รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการคุมเข้มบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อป้องกันการผูกขาดตลาด
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.58 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใกล้เคียง กับปิดตลาดเย็นวานนี้ เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่
"บาททรงตัวใกล้เคียงช่วงเย็นวานนี้ ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ส่งผลกระทบเข้ามา วันนี้คงดูเรื่อง flow" นักบริหารเงินกล่าว นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.50 - 32.65 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องดูปัจจัยเรื่อง ทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ ซึ่งเมื่อวานมีเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ 5.7 พันล้านบาท
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1 ASP-DISRUPT
2 ASP-EUG
3 ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
4 ASP-JHC
5 ASP-ROBOT
6 B-Bharata
7 B-GTO
8 B-INNOTECH
9 BCAP-CLEAN
10 BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
11 BCARE
12 K-CHANGE-A
13 K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
14 K-HIT
15 K-USA-A
16 K-USXNDQ-A
17 K-WORLDX
18 KF-EUROPE
19 KF-GTECH
20 KF-ORTFLEX
21 KF-US
22 KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
23 KFGBRAND-A
24 KFHTECH-A
25 KFINFRA-A
26 KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
27 KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
28 KT-EURO/K-EUSMALL
29 KT-PRECIOUS
30 KT-WTAI-A
2
31 LHCYBER-A
32 LHESPORT-A / WE-PLAY
33 LHINNO-A
34 LHMOBILITY
35 M-EM
36 MATECH-A
37 MFTECH
38 ONE-DISC-RA
39 ONE-GECOM 💵💵💵
40 ONE-UGG-RA
41 P-CGREEN
42 PRINCIPAL GCLEAN-A
43 PRINCIPAL GCLOUD-A
44 PRINCIPAL GHEALTH-A 💵💵💵
45 Principal VNEQ-A
46 PWIN
47 SCBDJI(A)
48 SCBGOLD (แบบไม่ Hedge)
49 SCBGOLDH (แบบ Hedge)
50 SCBKEQTG 💵💵💵
51 SCBNK225
52 SCBS&P500
53 SCBSEMI
54 SCBUSSM
55 T-ES-GGREEN
56 T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO
57 T-GLOBALENERGY / MRENEW
58 T-Premium Brand
59 TBIOTECH 💵💵💵
60 TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
3
61 TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
62 TCLOUD
63 TGENOME 💵💵💵
64 TGHDIGI 💵💵💵
65 TMB-ES-AUTOMATION
66 TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
67 TMB-ES-STARTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
68 TMBAGLF
69 TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70 TMBGQG
71 TMBWDEQ
72 TNEWENGY
73 TNEXTGEN / WE-CYBER
74 UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
75 UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
76 UEDTECH 💵💵💵
77 UEV
78 WE-CANB, MCANN
79 WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
80 WE-GOLD 💵💵💵
81 WE-TENERGY / SCBCLEANA
2
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1775, 1800, 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 พ.ย. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/6190f32f3207bb0ca0046097
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
13. กองทุนญี่ปุ่น เช่น ASP-JHC, SCBNK225
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
2
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50, STOXX600
ประจำวันที่ 14 พ.ย. 2021 https://www.blockdit.com/posts/61909ded8dea1d0cace37890
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, BNB, XRP, ADA,
SOL, DOT, LTC, DOGE, SHIB
ประจำวันที่ 14 พ.ย. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/6190b9ae8dea1d0caced1e98
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
2
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - https://bit.ly/lineneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา