15 พ.ย. 2021 เวลา 11:33 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ทุกคนต้องการเป็นเจ้าของ metaverse รวมทั้ง Facebook และ Microsoft แต่มันคืออะไรกันแน่?
คำว่า "เมทาเวิร์ส" เกิดขึ้นในนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง "Snow Crash" ในปี 1992 ซึ่งเขาจินตนาการถึงภาพแทนตัวที่เหมือนจริงซึ่งพบกันในอาคาร 3 มิติที่เหมือนจริงและสภาพแวดล้อมเสมือนจริงอื่นๆ
ตั้งแต่นั้นมา การพัฒนาต่างๆ ก็ได้สร้างเส้นทางสู่ metaverse ที่แท้จริง โลกเสมือนจริงออนไลน์ที่รวมเอาความจริงเสริม ความเป็นจริงเสมือน อวตารโฮโลแกรม 3 มิติ วิดีโอ และวิธีการสื่อสารอื่นๆ เมื่อ metaverse ขยายออกไป มันจะนำเสนอโลกทางเลือกที่เหนือจริงเพื่อให้คุณอยู่ร่วมกันได้
metaverse คืออะไร?
เป็นการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ของเทคโนโลยี รวมทั้งความเป็นจริงเสมือน ความเป็นจริงเสริม และวิดีโอที่ผู้ใช้ "ใช้ชีวิต" ภายในจักรวาลดิจิทัล ผู้สนับสนุน metaverse จินตนาการว่าผู้ใช้ทำงาน เล่น และติดต่อกับเพื่อนๆ ผ่านทุกอย่างตั้งแต่คอนเสิร์ตและการประชุมไปจนถึงการเดินทางเสมือนจริงทั่วโลก
เมื่อไหร่ที่เราจะได้เห็นมัน?
Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ที่ชื่อใหม่ (เดิมคือ Facebook) ประมาณการว่าอาจต้องใช้เวลา 5-10 ปีก่อนที่ฟีเจอร์หลักของ metaverse จะกลายเป็นกระแสหลัก แต่ลักษณะของ metaverse มีอยู่ในปัจจุบัน บรอดแบนด์ความเร็วสูงพิเศษ หูฟัง Virtual Reality และโลกออนไลน์ที่เปิดตลอดเวลาได้เปิดใช้งานแล้ว แม้ว่าทุกคนอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ก็ตาม
Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta กล่าวว่า "แพลตฟอร์มและสื่อตัวต่อไปจะเป็นอินเทอร์เน็ตที่สมจริงและเป็นตัวเป็นตนมากขึ้นเมื่อคุณอยู่ในประสบการณ์ ไม่ใช่แค่เพียงมองดู และเราเรียกสิ่งนี้ว่า metaverse" มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta กล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากเปิดเผยการรีแบรนด์ของบริษัท
Horizon Workrooms เบต้าเปิดตัวโดย Facebook ในเดือนสิงหาคม 2021 ซึ่งเป็นพื้นที่การประชุมเสมือนจริงที่เพื่อนร่วมงานสามารถเข้าร่วมการประชุม VR โดยใช้ชุดหูฟัง Oculus Quest 2 VR
Metaverse กับ Cryptocurrency
การมาของสกุลเงินดิจิทัล Cryptocurrency และสินทรัพย์ดิจิทัล ก็ได้สร้างการรับรู้ให้กับคนว่าแท้จริงแล้ว เราสามารถซื้อ-ขายสินค้าและบริการด้วยเงินสมมติในโลกดิจิทัลได้ อีกทั้งสามารถครอบครอง ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ภาพจำลองทางดิจิทัลที่ไม่สามารถจับต้องได้เลย ไม่ว่าจะเป็นผลงานศิลปะ การแสดง หรือคลิปคอนเสิร์ตออนไลน์ก็ตาม ครั้นพอคนเริ่มยอมรับ Cryptocurrency กันอย่างแพร่หลาย ทำให้กิจกรรมทางดิจิทัลเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้และมีอยู่จริงมากขึ้น
ในโลกของคริปโต เรายังไม่ได้เห็นการสร้าง Project มาเพื่อทำ Metaverse โดยตรง แต่ในหลาย ๆ Project ก็ได้นำเรื่อง Metaverse มาปรับใช้กับ Project ของตัวเอง ตัวอย่างเช่น Metaverse กับ Crypto Gaming
The Sandbox เป็นหนึ่งใน Project เกมที่มีการนำเทคโนโลยี Metaverse เข้ามาปรับใช้ โดยทาง The Sandbox ได้มีการเขียนไว้ใน Whitepaper เลยว่า วิสัยทัศน์ของ Project ต้องการสร้าง Metaverse ที่ทำให้โลกเสมือนจริงและโลกของเกมอยู่ร่วมกันได้ โดยปราศจากศูนย์กลาง
ทำให้ผู้เล่นสามารถใช้เหรียญ SAND ซึ่งเป็นเหรียญที่สร้างขึ้นเพื่อให้ในระบบนิเวศของ The Sandbox ในการซื้อที่ดินและสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อสร้างโลกเสมือนจริงบน The Sandbox ได้นั่นเอง นอกจากนั้น ที่ดินและสินทรัพย์ต่าง ๆ ยังสร้างอยู่บน Blockchain ทำให้มีความปลอดภัย และมีลักษณะเป็น Non-Fungible Token (NFT) ทำให้สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันผ่าน Marketplace ของแพลตฟอร์ม หรือ NFT Marketplace อื่น ๆ ได้อีกด้วย
จะเห็นได้ว่า The Sandbox นั้น นำ Metaverse มาช่วยออกแบบระบบนิเวศภายในเกมให้มีความหลากหลายและสมจริงมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับผู้ที่เข้ามาใช้งานแพลตฟอร์ม
Metaverse จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอะไรบ้าง?
Metaverse ไม่ใช่เพียงแค่โลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ที่เปิดให้คนสื่อสารเพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นประสบการณ์หนึ่งที่ได้เชื่อมต่อผู้คนระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงไปสู่โลกดิจิทัล โดยอาศัยการใช้เทคโนโลยีหลายประเภท เพื่อทำกิจกรรมใดก็ได้พร้อม ๆ กัน คำศัพท์ที่ปรากฏอยู่ดังต่อไปนี้มีส่วนประกอบสร้าง Metaverse ให้สมจริงและจับต้องได้มากขึ้น
Assisted Reality เทคโนโลยีผู้ช่วยที่อำนวยความสะดวกให้ผู้คนสามารถดูหน้าจอและโต้ตอบกับหน้าจอได้โดยไม่ต้องใช้มือ (hands-free) ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้คือ แว่นตาอัจฉริยะ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย ให้ผู้ใช้สื่อสารและสั่งการผ่านเสียงก็จะได้ข้อมูลขึ้นสู่สายตาทันที
Augmented Reality (AR) เทคโนโลยีโลกเสมือนที่สามารถปรากฏอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ส่วนใหญ่ธุรกิจค้าปลีกจะใช้เทคโนโลยี AR เพื่อให้ลูกค้าสามารถทดสอบนำสินค้าในโลกออนไลน์ไปจำลองในโลกจริง ตัวอย่างเช่น IKEA แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก ได้ผลิตแอปพลิเคชัน เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองนำรูปเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเทคโนโลยี AR ไปทดลองวางในห้องตนเองได้
Meta space คำที่ใช้เรียกโลกทางกายภาพ หรือโลกที่เราใช้ชีวิตอยู่เป็นส่วนใหญ่
Multiverse หรือ จักรวาลโลกคู่ขนาน ใช้เรียกแพลตฟอร์ม หรือ Community ในโลกดิจิทัลที่ทำงานอิสระจากกันและกัน ตัวอย่างเช่น Facebook, Minecraft, Instagram, Roblox, Fortnite, Discord โดยตามทฤษฎีแล้ว Metaverse สามารถดึง Multiverse เหล่านี้มาทำงานอยู่ในที่เดียวได้
NFT หรือ Non-Fungible Tokens เป็นเสมือนเครื่องยืนยันว่าใครก็ตามสามารถครอบครอง ซื้อ หรือ ขาย และสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ใดก็ตามที่ปรากฏอยู่ในโลกดิจิทัลเท่านั้น โดยมีเทคโนโลยีบล็อกเชนคอยกำกับความเป็นเจ้าของและป้องกันการขโมย ตัวอย่างของ NFT ได้แก่ ผลงานศิลปะ บัตรกีฬา ของสะสม โดย NFT สามารถซื้อขายได้โดยสกุลเงินดิจิทัล Cryptocurrency
Virtual Reality หรือ ประสบการณ์เสมือนจริง เป็นการใช้อุปกรณ์ หรือเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้งานกับโลกดิจิทัล ตัวอย่างเช่น การที่ผู้คนในในนวนิยายเรื่อง Ready Player One ใช้ชุดแว่น Virtual Reality เพื่อเดินทางสู่โลกแห่งเกม
อ้างอิงบทความ
Mike Snider And Brett Molina บน USA TODAY
โฆษณา