Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ ร.6
•
ติดตาม
16 พ.ย. 2021 เวลา 02:01 • ประวัติศาสตร์
อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลก ครั้งที่ ๑
ณ บริเวณสนามฝั่งตรงข้ามโรงละครแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า ๑๐๐ ปี อันเป็นอนุสรณ์ถึงวีรกรรมของทหารอาสา ผู้เสียสละชีวิตเป็นราชพลีในเหตุการณ์สงครามโลก ครั้งที่ ๑
เมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๗ สงครามโลก ครั้งที่ ๑ ได้อุบัติขึ้นในทวีปยุโรป พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำเนินนโยบายรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด จนกระทั่งฝ่ายมหาอำนาจกลางได้กระทำการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และปราศจากมนุษยธรรม อีกทั้งทรงตระหนักด้วยพระปรีชาญาณทางการทหาร ว่าฝ่ายสัมพันธมิตร น่าจะได้รับชัยชนะในสงคราม ซึ่งเมื่อสงครามสงบลงแล้ว หากประเทศสยามเข้าร่วมรบกับฝ่ายสัมพันธมิตร ย่อมได้รับประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจรจากับนานาประเทศ เพื่อแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ทั้งในเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขต และการแก้พิกัดภาษีศุลกากร
จึงทรงตัดสินพระราชหฤทัยยุติการดำเนินนโยบายรักษาความเป็นกลาง พร้อมทั้งประกาศสงครามต่อฝ่ายมหาอำนาจกลาง เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๔๖๐
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องทรงมหาพิชัยยุทธ ในวันประกาศสงครามต่อฝ่ายมหาอำนาจกลาง เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๔๖๐
ต่อมาในวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสนาบดีกระทรวงกลาโหมออกประกาศรับสมัครประชาชน และทหารที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดเข้ารับราชการในกองทหารอาสา เพื่อไปร่วมในงานพระราชสงคราม ณ ทวีปยุโรปซึ่งปรากฎว่ามีประชาชน ทหาร ข้าราชการ และสมาชิกในราชสกุล ตลอดจนประชาชนชาวต่างประเทศที่เคยพำนักอยู่ในประเทศสยาม ต่างพร้อมใจกันมายื่นใบสมัครเป็นทหารอาสาจำนวนมาก
ทหารอาสาบันทึกภาพร่วมกันภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก่อนออกเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในราชการสงคราม ณ ทวีปยุโรป
ในระว่างที่มีการจัดเตรียมกองทหารอาสาอยู่นั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งทูตทหารเพื่อทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับกองทหารฝ่ายสัมพันธมิตรในทวีปยุโรป และช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่กองทหารอาสาที่จะเดินทางตามไปในภายหลัง จนกระทั่งวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๑ กองทหารอาสาได้เดินทางออกจากประเทศสยาม โดยเรือศรีสมุทร และเรือกล้าทะเล เพื่อไปถ่ายขึ้นเรือเอ็มไพร์ซึ่งเป็นเรือที่รัฐบาลฝรั่งเศสเช่ามาลำเลียงทหารอาสาไปสู่สมรภูมิประเทศฝรั่งเศส
กองทหารอาสาเดินทางมาถึงเมืองมาร์เซยส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๑ จากนั้นได้แยกย้ายกันออกฝึกเตรียมร่วมรบกับฝ่ายสัมพันธมิตร
กองทหารบกรถยนต์ นับเป็นกองทหารอาสาที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศสยาม เนื่องจากได้ปฏิบัติการช่วยเหลือส่งกำลังบำรุง และเป็นกองลำเลียงให้แก่ฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยกองทหารบกรถยนต์ได้ยกไปสู่เขตหน้าแห่งยุทธบริเวณ ในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๑ และได้ทำการลำเลียงส่งกำลังแก่กองทัพบกฝรั่งเศสในพื้นที่แนวกระสุนด้วยความองอาจกล้าหาญ ในระหว่างวันที่ ๒๖ กับวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๑ รัฐบาลฝรั่งเศสจึงได้มอบเหรียญกล้าหาญ ครัวซ์ เดอะ แกรร์ (Croix de Guerre) ประดับที่ยอดธงไชยเฉลิมพลของกองทหารบกรถยนต์เพื่อเป็นเกียรติยศ
จนกระทั่งฝ่ายมหาอำนาจกลางยอมแพ้ และลงนามในสัญญาสงบศึก เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๑ กองทัพของฝ่ายสัมพันธมิตรได้ยกเข้าไปยึดดินแดนเยอรมนีทางฝั่งซ้ายแห่งลำน้ำไรน์ ซึ่งกองทหารบกรถยนต์ก็ได้ร่วมเดินทางไปปฏิบัติการในดินแดนข้าศึกด้วย
ทหารอาสาซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทหารฝ่ายสัมพันธมิตร ในสงครามโลก ครั้งที่ ๑
ภายหลังจากสิ้นสุดสงคราม และกองทหารอาสาเดินทางกลับสู่ประเทศสยามแล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการสมโภชพระนคร และต้อนรับกองทหารอาสาอย่างสมเกียรติ โอกาสนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ประดับที่ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหารบกรถยนต์ พร้อมทั้งพระราชทานเหรียญงานพระราชสงครามในทวีปยุโรปแก่ทหารอาสาทุกนาย
1
ทหารอาสาซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทหารฝ่ายสัมพันธมิตร ในสงครามโลก ครั้งที่ ๑
ส่วนทหารอาสาที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในสงครามโลก ครั้งที่ ๑ ซึ่งได้จัดการฌาปนกิจในทวีปยุโรป ก่อนเชิญอัฐิกลับมาประเทศสยาม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทาน พร้อมกับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำอัฐิไปบรรจุในอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๒ โดยมีรายละเอียดตามข่าวในพระราชสำนัก ดังนี้
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ประดับที่ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหารบกรถยนต์
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานเหรียญงานพระราชสงครามในทวีปยุโรปแก่ทหารอาสาทุกนาย
เหรียญงานพระราชสงครามในทวีปยุโรป
"วันพุธที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๒
วันนี้เวลาบ่าย กองทหารได้จัดการแห่อัฐิของทหารซึ่งได้เสียชีวิตในระหว่างไปราชการสงคราม ณ ทวีปยุโรป ออกจากกระทรวงกลาโหมไปยังพระอุโบสถ วัดมหาธาตุ
เวลา ๕ ล.ท. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห้ว เสด็จพระราชดำเนินด้วยกระบวนรถยนต์พระที่นั่งไปประทับยังพระอุโบสถ ทรงบำเพ็ญการกุศลพระราชทานส่วนกุศลแก่ทหารซึ่งได้สละชีวิตถวายเป็นราชพลี ในระหว่างการพระราชสงคราม ณ ทวีปยุโรป เป็นเกียรติยศพิเศษ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระมหาสมณะ ทรงแสดงพระธรรมเทศนา จากวัดมหาธาตุกองทหารได้แห่อัฐิไปบรรจุที่อนุสาวรีย์ ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ที่สนามย่อมตะวันตกเฉียงเหนือแห่งท้องสนามหลวง เพื่อเป็นที่ระลึกเตือนใจคนไทยทั้งปวงให้จดจำเยี่ยงอย่างของบุคคลผู้มีความจงรักภักดียิ่งจนถึงได้สละชีวิตเป็นราชพลี และเพื่อเป็นเกียรติยศของชาติบ้านเกิดเมืองมารดร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯ ไปยังอนุสาวรีย์ แลทรงวางพวงมาลาเหนือที่บรรจุอัฐิ แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับพระราชวังดุสิต"
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลก ครั้งที่ ๑
อนุสาวรีย์แห่งนี้ ออกแบบโดย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ มีลักษณะเป็นทรงเจดีย์ตามรูปแบบศิลปะประยุกต์จากสถาปัตยกรรมศรีวิชัย อันมีต้นเค้ามาจาก จันทิ ซึ่งเป็นศาสนสถานของชวาภาคกลาง
อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลก ครั้งที่ ๑
ตัวอนุสาวรีย์ทำด้วยหินขัดสีขาว ฐานเป็นรูปพานย่อมุม ช่วงกลางอนุสาวรีย์ทั้ง ๔ ด้าน เจาะลึกลงไปจารึกข้อความด้วยอักษรสีดำ กล่าวถึงการเข้าร่วมสงครามโลก ครั้งที่ ๑ ของประเทศสยาม และที่มาของการจัดสร้างอนุสาวรีย์ พร้อมรายนามทหารอาสาที่เสียชีวิตในระหว่างสงคราม ซึ่งบรรจุอัฐิภายในอนุสาวรีย์แห่งนี้
ตัวอย่างข้อความที่จารึกบนอนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลก ครั้งที่ ๑
บริเวณหน้าบันเหนือช่องจารึกข้อความ ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นรูปช่อดอกไม้ กินรี และตัวเหรา ส่วนยอดอนุสาวรีย์เป็นรูปเจดีย์ทรงกลมสูง ที่มุมทั้งสี่ด้านประดับรูปจำลองของอนุสาวรีย์ เหนือหน้าบันสลักรูปกงจักร อนุสาวรีย์ตั้งอยู่บนพื้น ๓ ชั้น มีการย่อมุมเช่นเดียวกับฐานอนุสาวรีย์ พื้นอนุสาวรีย์ล้อมด้วยเสาหินขัด สูงประมาณ ๑.๕๐ เมตร มีโซ่เหล็กสีดำคล้องโดยรอบ เส้นเฉพาะทางขึ้นทั้ง ๔ ด้าน
ในวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดมหายุทธสงคราม ทางราชการกำหนดให้เป็นวันที่ระลึกทหารอาสาสงครามโลก ครั้งที่ ๑ โดยมีการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนา และพิธีวางพวงมาลาเป็นประจำทุกปี
พวงมาลาของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลก ครั้งที่ ๑
2 บันทึก
2
1
2
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย