## กว่าจะรู้ตัว ก็สายเกินไปเสียแล้ว ##
.
.
"มาเร็วไป 3 ชั่วโมง ยังดีกว่ามาช้าไป 1 นาที"
.
.
หลายคนที่อ่านข้อความนี้ในวินาทีแรกก็คงจะนึกถึงเรื่องของมารยาททางสังคมพื้นฐานอย่างการตรงต่อเวลา ซึ่งมันก็ถูก เพราะประโยคสั้นๆแค่นี้ ยังเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายคนทำไม่ได้
.
.
การตรงต่อเวลา เป็นมารยาทขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรจะมี มันแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของคุณ และแสดงถึงการให้เกียรติอีกฝ่ายด้วย และการตรงต่อเวลาก็ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในเรื่องงาน แต่ไม่ว่านัดไหนๆคุณก็ควรมาตรงเวลา มาก่อนได้ยิ่งดี โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนนัดเอง
.
.
แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเศร้าที่สังเกตได้เลยคือ มีคนมากมายที่รักษาเวลาไม่ได้
มันแสดงถึงการไร้ความรับผิดชอบ และการไม่ให้เกียรติผู้รอ
.
.
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ หลายคนยังมีความคิดว่า "ยิ่งสนิท ยิ่งไม่ต้องเกรงใจ"
พอมีนัดกับคนไม่รู้จัก คนเหล่านี้มีแนวโน้มจะไปตรงต่อเวลามากกว่า แต่ถ้าเป็นคนรู้จักกันกลับไปสาย บางทีหลายชัวโมง ถึงขั้นล้มนัดโดยไม่บอกก็มี
.
.
คนเหล่านี้มีความคิดในหัวว่า "เรามาสายตลอด คงชินกันแล้วแหละ"
และใช้ความสนิทสนมในการเอาเปรียบ ไม่ให้เกียรตเวลาคนอื่น
.
.
และเมื่อโดนบ่น คนเหล่านี้จะตอบสนองประมาณว่า "ยังไม่ชินอีกหรอ"
ทั้งที่ในความเป็นจริง คำพูดนั้นมันเป็นคำที่เห็นแก่ตัวเอามากๆ
.
.
แทนที่จะถามคนรอว่า "ยังไม่ชินอีกหรอ"
คนเหล่านั้นควรถามตัวเองว่า "แล้วไม่คิดจะปรับตัวบ้างหรอ" มากกว่า
.
.
นี่คือมุมมองของประโยคนี้ต่อการตรงต่อเวลา
ซึ่งจริงๆแล้วประโยคของเชคสเปียร์ในรูปนี้มีความลึกซึ้งพอสมควร
.
.
เขาเชื่อมโดยไปถึงการรู้ตัวเมื่อสายเกินไป กับอะไรหลายๆอย่างในชีวิต
อาจจะเป็นเรื่องการเงิน เรื่องความรัก หรือแม้กระทั่งเรื่องเวลา
.
.
บางคนไม่เคยเก็บเงินเกษียณเลย พอใกล้เกษียณหรือเกษียณมาก็เพิ่งมารู้ตัวว่าเงินที่มีอยู่นั้นไม่พอใช้ไปตลอดชีวิตแน่ๆ
.
.
บางคนไม่เคยดูแลความสัมพันธ์ให้ดีเลย กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนที่แย่แค่ไหนก็ในตอนที่อีกฝ่ายหมดรักไปแล้ว
.
.
บางคนใช้ชีวิตด้วยความประมาท กินอาหารที่ไม่ดี ไม่เคยดูแลสุขภาพเลย กว่าจะรู้ตัวว่าสุขภาพสำคัญก็ในตอนที่เป็นโรคร้ายเสียแล้ว
.
.
นี่คือใจความสำคัญของประโยคที่ว่า
มาเร็วไป 3 ชั่วโมง ยังดีกว่ามาช้าไป 1 นาที
.
.
ต่อให้เพิ่งเกษียณมา 1 นาที มันก็คือเกษียณ
ต่อให้เพิ่งหมดรักไป 1 นาที มันก็คือหมดรัก
ต่อให้เพิ่งเป็นมะเร็งไป 1 นาที มันก็คือมะเร็ง
.
.
เรื่องนี้สอนให้อย่าใช้ชีวิตด้วยความประมาท เตรียมตัวให้พร้อมก่อนหน้าสำหรับทุกเรื่อง อย่าอยู่แต่กับปัจจุบัน แต่ต้องวางแผนถึงอนาคตด้วย ก่อนที่มันจะสายเกินไป
.
.
สรุปง่ายๆก็คือ "รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้" นั่นแหละครับ
.
.
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมแชร์สิ่งดีๆออกไปให้คนรอบข้างได้อ่านกัน
เพื่อให้กฎของแรงดึงดูด ดึงสิ่งดีๆกลับเข้ามาหาคุณ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
