17 พ.ย. 2021 เวลา 13:22 • ปรัชญา
เรื่องราวของคำว่า วิญญาณหก มันมีคำว่าหูตาจมูกลิ้นกายใจ ใจเรานั้นอยู่ที่ไหน ก็ตรงที่หน้าอกเบื้องซ้ายซายโครงเบื้องซ้ายที่มันเต้น ตุ้บตั้บๆอยู่นั้นแหละ ก็เป็นที่รับรู้ความรู้สึกของออกอารมณ์ เหมือนกัน พออารมณ์มันเข้ามาสัมผัส มันมีความสัมพันธ์กันอยู่กับกาย มันบีบเค้นให้ทนไม่ไว้ เลือดสูบฉีดไปทั่วสรรพางค์กาย หน้าดำหน้าแดงเกิดขึ้นมา ทิฐิเกิดขึ้นมาด้วยความโกรธ สมมุติว่ามีอารมณ์โกรธขึ้นมาครอง มันครองทั้งกาย ใจก็นั้นก็บีบบังคับกาย ปกติคนเราจิตนั่นอ่อนต่ออารมณ์ เวทนาอารมณ์ที่เกิดขึ้นที่กาย ส่งไปให้จิต จิตไม่ได้เคยฝึก สติของจิตไม่เคยฝึกหัดมา ก็ทำไปตามอารมณ์
รูป+ ตา +จักษุวิญญาณ ส่งต่อไปให้จิต มีอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง ในสัมผัสที่จิตรับรู้เกิดขึ้น
เพราะมี ตา กระทบ รูป สื่อผ่านวิญญาณตา ส่งไปให้จิตรับรู้ ภาพหรือรูปที่เกิดขึ้น วิญญาณนั่นหมายถึงสิ่งที่สื่อให้จิตรับรู้ รับรู้แล้วก็มีเรือ่งราวของสัญญาจำ ที่บอกเรื่องราวของรูปนั้น เป็นอารมณ์ที่ปรุงแต่งขึ้นมา ชอบหรือไม่ชอบ ปรุงแต่งไปด้วยลีลามายาความนึกคิดต่างๆ เป็นอุปาทานต่างๆมากมาย ด้วยอารมณ์ที่ปรุงแต่ง เป็นอารมณ์ที่เค้าเรียกว่าอารมณ์กรรม ซักนำจิตให้สั่งลูกนัยน์ตาให้เคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ จิตที่เป็นเช่นนี้ ก็เหมือนจิตน้อยๆยังเป็นทาสของอารมณ์อยู่ ต้องทำตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น ฝืนอารมณ์ไม่ได้ ยับยั้งอารมณ์ไม่ได้ ต้องใช้กายวาจาไปตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น เพราะอารมณ์นั่นอยู่เหนือจิต จิตเป็นทาสอารมณ์ (เบื้องหลังของอารมณ์นั้นก็คือกรรม ที่ไหลออกมาจากแม่ทั้งสี่) เค้าจึงบอกให้เราฝึกหัดปฏิบัติ เพื่อสติจะได้เข้มแข็ง เป็นสติของจิต ที่จะรู้เท่าทันอารมณ์ ไม่ใช่สติทำไปตามอารมณ์
ปกติของจิตมีกรรมไม่รู้อะไร ทำไปตามอารมณ์ที่บังคับจิต เราจึงต้องฝึกหัดสติ และจิตให้เข้มแข็งขึ้นมา ตื่นขึ้นศึกษาเรื่องราวของอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตน จะสลัดอารมณ์ที่เกิดขึ้นมานั้นทิ้งได้มั้ย เพราะอารมณ์นั้นไม่ใช่จิต แต่ทำไมจ้ตต้องทำตามอารมณ์ แล้วสิ่งที่จิตได้รับจากการทำตามอารมณ์ เป็นสุขหรือทุกข์ ถ้าเป็นสุขนั้นมันยั้งยืนมั้ย หรือ ว่าเป็นแค่สุขที่สมหวังหรือไม่สมหวังของอารมณ์ชั่วครั้งชั่วคราว แล้วสุขของจิตที่แท้จริงนั่นคืออะไร จิตจะเสาะแสวงหาได้ที่ใด มันก็อยู่ในเรือนกายนี้เหมือนกัน ที่เค้าว่า สร้างบุญสร้างกุศลปฏิบัติธรรมขึ้นมา ให้เป็นกายของบุญ จิตได้เรือนกายที่เป็นบุญ จิตก็พลอยสุขไปด้วย
โฆษณา