18 พ.ย. 2021 เวลา 09:21 • ไลฟ์สไตล์
“อายุปูนนี้แล้ว ฝึกสมองไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา”
“ก็เราไม่ได้สมองดีเหมือนเขานี่ จะโง่ก็ช่วยไม่ได้”
คำพูดเหล่านี้เคยแว่บเข้ามาในหัวสมองของพี่แอ๋ว
ภาพความหลังที่สะท้อนออกมา จากเด็กบ้านนอก
ที่ต้องเข้ามาเรียนในเมือง ดังนั้นสิ่งที่ฝังในหัวคือต้องเรียน
ต้องเชื่อฟังคุณครู ครูสั่งอะไรก็ต้องทำ จึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กดี
อ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง จับใจความเองไม่ได้ ไม่เป็น
พูดง่าย ๆ คือ คิดเองไม่เป็น ต้องรอคำสั่งจากครู จึงจะทำ
แล้วทำไมเกี่ยวอะไรกับหนังสือเล่มนี้ ที่พี่แอ๋วต้องเอามารีวิว
เพราะ ประโยคที่ว่า “คนที่มีสมองนักเรียน ไม่อาจพัฒนาจิตใจให้เข้มแข็ง
หรือเปลี่ยนนิสัยของตัวเองได้”
ประโยคนี้สุดจะจี้ดเข้าหัวใจ จึงต้องซื้อและหยิบมาอ่าน
ภาพหนังสือของผู้เขียน
ชื่อหนังสือ ใช้สมองเปลี่ยนชีวิต
ผู้เขียน Toshinori Kato
สำนักพิมพ์. อินสปายร์ในเครือ บริษัทนานมีบุ๊คส์ จำกัด
ราคา 225 บาท
ลิ้งค์สั่งซื้อหนังสือถ้าอยากได้เอาไว้อ่าน
ช่วงนี้พี่แอ๋วกำลังเคร่งเครียดกับการพัฒนาตัวเอง เปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยตัวเอง เปลี่ยนนิสัยตัวเอง พี่แอ๋วก็หาหนังสือมาอ่านเยอะไปหมด แต่เล่มนี้สุดยอดเพราะ เป็นหนังสือที่ชี้ให้เห็นว่าการที่เราอยู่ในระบบการศึกษาแบบเก่ามานานเกือบ 56 ปีคือเท่าอายุของพี่เลย ทำให้พี่เคยชินกับการใช้สมองเหมือนนักเรียน และมีวิธีคิดแบบนักเรียนดังที่เกริ่นนำไปแล้วนั้น
หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณ ๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาสมอง และพัฒนาตัวเองช่วยได้แน่นอน เพราะคนหนึ่งคนนั้นมีพี่เป็นหนึ่งที่ค่อย ๆ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากสมองแบบนักเรียนได้แล้วถึงจะแก้ไม่ได้100 % แต่สำหรับตัวพี่หนังสือเล่มนี้ดีมาก ค่ะ เค้าช่วยพี่ในการปรับปรุงตัวเอง ทั้งความคิด การกระทำ และเข้าใจกลไกของสมองต่อการกระทำของตนเอง
หนังสือ ใช้สมองเปลี่ยนชีวิตเสนอทางลัด 5 ขั้นตอน 36 วิธี ในการเปลี่ยน “สมองนักเรียน” ให้เป็น “ สมองผู้ใหญ่” ซึ่งเปิดเผยโดยนายแพทย์โทะชิโนะริ คะโต๊ะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองผู้เป็นที่ปรึกษาให้บุคคลที่มีชื่อเสียงมากมาย
หนังสือเล่มนี้เป็นทางลัดและทางลัดเหล่านี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนวิธีคิด
แต่อาจพลิกชีวิตคุณอย่างคาดไม่ถึงเลยก็ได้
ผู้เขียน
Aewlsaradee” หรือ “แม่แอ๋วศรี” ผู้หญิงที่ชอบเรียนรู้ ชอบอ่านหนังสือ ชอบดูงานศิลปะและชอบท่องเที่ยว ตั้งใจมอบสาระดี ๆ ในทุกเรื่องที่คิดว่าดี มีประโยชน์ มาให้ผู้อ่านผ่านตัวหนังสือ ติดตามผลงานหลายผลงานได้ที่
เฟสบุ๊ก :
TikTok:
Blog: Aewlsaradee
โฆษณา