18 พ.ย. 2021 เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กองทุนเทคโนโลยีจีน ตอนนี้มีตัวไหนให้ซื้อบ้าง
1
หลังจากฝ่ามรสุมและแรงกดดันจากทั้งในประเทศและนอกประเทศตัวเอง
กองทุนเทคโนโลยีจีนยังน่าลงทุนหรือไม่ มาดูกัน
เราจะพามาย้อนดูกันสักหน่อยว่าสถานการณ์หุ้นจีนที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง
#สรุปกฎระเบียบที่ออกมาแล้ว
1. ห้ามกีดกันคู่แข่งออกจาก ecosystem
ยกตัวอย่างเช่น ในปัจจุบัน Alibaba ก็มีแอพในกลุ่มของตัวเอง เช่น Taobao, Tmall, Alipay ซึ่งจะไม่ยอมให้แอพ Tencent เข้าถึงผู้ใช้งาน รวมถึงแอพตัวเล็กๆถ้าไม่มี Alibaba ถือหุ้นหรือเป็นพาร์ทเนอร์ทางใดทางหนึ่งจะไม่ได้เข้าถึง Alibaba ecosystem เช่นกัน
ซึ่งล่าสุดรัฐบาลจีนสั่งเลิกทั้งหมด ต้องเปิดให้คู่แข่งหรือบริษัทอื่นมาใช้ ecosystem ของตัวเองด้วย ตัวอย่างเช่นการซื้อของในแอพ Tmall ของ Alibaba มีโอกาสจะจ่ายเงินผ่าน WeChatPay ได้ หลังจากบีบให้ผู้ซื้อต้องใช้ Alipay มาโดยตลอด
2. ห้ามทำ exclusive partnership
Exclusive partnership คือ การจดทะเบียนให้ร้านค้าบน platform อยู่กับบริษัทแค่เจ้าเดียวเท่านั้น เช่น ร้านอาหารดีๆจะต้องขายบน Meituan เท่านั้น ห้ามไปจดกับคู่แข่ง
รัฐบาลจีนสั่งเลิก !
3. ห้ามกดราคาสินค้าต่ำกว่าต้นทุนเพื่อเป็นการบีบให้คู่แข่งล้ม
เป็นหนึ่งกลยุทธ์สุดฮิตที่บริษัทเทคจีนชอบใช้ โดยจะระดมทุนมาเพื่อดัมพ์ราคาขายของจนสุดท้ายคู่แข่งล้มหมด (Lazada, Shopee ในไทยเป็นตัวอย่างที่ดี) หลังจากนั้นค่อยมารีดกำไรจากผู้ซื้อทีหลังเมื่อคุมตลาดได้หมดแล้ว
รัฐบาลจีนสั่งเลิก ! (เฉพาะในจีนเท่านั้น ส่วนธุรกิจนอกจีนรัฐบาลสนับสนุนให้ทำด้วย !!)
4. Common Prosperity
ความมั่งคั่งร่วมกันที่บริษัทใหญ่ต้องช่วยสังคมและ SME ให้เติบโต ผ่านการบริจาคและการสนับสนุนต่างๆ ต่อจากนี้บริษัทขนาด เล็ก-กลาง ในจีนดูจะได้เปรียบมาก มีนโยบายและกฎหมายใหม่ออกมาเพื่อช่วยให้สู้กับบริษัทใหญ่ได้
5. กฏหมายด้านข้อมูล Data Protection
รัฐบาลผ่านกฎหมายให้สามารถสั่งระงับธุรกิจที่ใช้หรือเก็บข้อมูลผู้ใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง รวมถึงบริษัทที่ให้ข้อมูลกับรัฐบาลต่างชาติเช่นกัน รวมถึงกฏหมายควบคุมการเก็บข้อมูลรถยนต์ของคนจีน โดยระบุว่าชัดเจนว่าข้อมูลทั้งหมดจะต้องถูกเก็บไว้ในจีนเท่านั้น และถ้าต้องการส่งข้อมูลไปวิเคราะห์ต่างประเทศต้องขออนุญาตรัฐบาลทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าทั้ง Supply Chain ตั้งเเต่โรงงานผลิตไปจนถึงผู้ซื้อจะไม่ทำข้อมูลในจีนรั่วไหล
1
#ค่อนข้างชัดว่าจุดต่ำสุดผ่านไปแล้ว
การลงมาจัดระเบียบภาคเอกชนของรัฐบาลพุ่งเป้าไปยังการลดผูกขาด โดยถ้าบริษัทอยากโตต้องโตผ่านการคิด Innovation หรือธุรกิจใหม่ๆเท่านั้น ถ้าจะโตผ่านการผูกขาดท่าน Xi จะขอทุบ
แน่นอนว่าช่วงที่ผ่านมาภาคเอกชนรับลูกเป็นอย่างดี เริ่มปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้อง จึงเชื่อว่าบริษัทที่มีคุณภาพสูงจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง แต่คงไม่ใช่ทุกตัวนะครับ เพราะเทคโนโลยีบางอย่างในจีนอิ่มตัวมากแล้ว เช่น e-commerce
1
ใครอยากลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีนคงต้องมองไปยังกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากรัฐบาลเป็นหลัก
#ยกตัวอย่าง กองทุนที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีน
1.BCAP-CTECH
ถือหุ้นเทคโนโลยีจีนที่อยู่ใน All Share ผ่าน
Invesco China Technology ETF และ KraneShares CSI China Internet ETF ที่เน้นหุ้นเกี่ยวกับ Internet
หุ้นที่ถือครองมากสุด 5 อันดับแรกเป็น
Tecent Holdings 10.78%
Meituan 9.90%
Baidu 6.30%
Bilibili 5.55%
Alibaba 4.40 %
ข้อมูล ณ วันที่ 16/11/2021
2. TCHTECH-A
ซึ่งมีแบบ ssf, rmf ด้วย เป็นกองทุนแบบ Feeder Fund เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ผ่าน Invesco China Technology ETF
2
โดยกองทุนหลักจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบเชิงรับ (Passive or Indexing Investment Approach) ในการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี FTSE China Incl A 25% Technology Capped ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีจีนที่มีขนาดกลางและใหญ่ (Big - Medium Tech)
หุ้นที่ถือมากสุด 5 อันดับแรก
Meituan 10.19%
Tencent Holdings 10.13%
Baidu 8.26%
Bilibili 7.39%
Kuaishou Technology 6.20%
ข้อมูล ณ วันที่ 16/11/2021
3. PRINCIPAL-CTECH
เป็นกองทุนใหม่ที่จะเปิดขาย IPO ในวันที่ 19-25 เดือนนี้ ลงทุนผ่าน 2 ดัชนี คือ iShares Hang Seng TECH ETF ที่จะประกอบด้วยหุ้นเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด 30 ตัวแรก (China Big Tech) และ KraneShares SSE STAR Market 50 Index ETF ที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี Startup ของจีน
BottomLiner
โฆษณา