ช่วงต้นของทศวรรษที่ 60 ผู้คนเริ่มได้ยินชื่อของ บ็อบ ดีแลน (Bob Dylan) จากเพลง Blowin’ in the Wind ซึ่งขึ้นไปอยู่ในอันดับ 2 ของ US ชาร์ต ในปี 1963 เพียงแต่เวอร์ชันที่ไต่อันดับได้สูงขนาดนั้นกลับเป็นของ Peter, Paul & Mary ที่นำมาคัฟเวอร์หลังจากเวอร์ชันต้นฉบับของบ็อบ ดีแลน ปล่อยเพียงสามสัปดาห์ เพราะเวอร์ชันต้นฉบับของดีแลนที่อยู่ในอัลบั้ม The Freewheelin’ Bob Dylan ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ก่อนที่ชื่อเสียงของดีแลนจะเริ่มขยายไปสู่กลุ่มผู้ฟังระดับประเทศในช่วงที่เขาขึ้นแสดงดนตรีพร้อมกับ Peter, Paul & Mary ในงานเทศกาลที่นิวพอร์ต และนิตยสารอย่าง Time, Playboy และ The New Yorker จะเริ่มเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับบทเพลงนี้ไปสู่สาธารณชน
โดยในปี 1994 เพลงนี้ได้รับเกียรติให้ถูกบรรจุเข้าไปในหอเกียรติยศของแกรมมี่ หรือ Grammy Hall of Fame และในปี 2004 Blowin’ in the Wind ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 14 ของนิตยสาร Rolling Stone ในหัวข้อ 500 บทเพลงที่ดีที่สุดตลอดกาล
ดีแลนกล่าวไว้ว่า เขาใช้เวลาเขียนเพลงนี้เพียง 10 นาทีในบ่ายวันหนึ่ง โดยเขียนถ้อยคำใส่ไปในเมโลดี้ของเพลง No More Auction Block ซึ่งเป็นบทเพลงเก่าเกี่ยวกับทาส และในเย็นวันเดียวกัน ดีแลนได้ลองนำเพลงนี้ไปเล่นที่ไนต์คลับ Gerde’s Folk City ในกรีนวิชวิลเลจ ซึ่งเขามีกำหนดการเล่นที่นั่น ก่อนจะเริ่มบรรเลง ดีแลนได้กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่บทเพลงของการประท้วงหรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะ เพราะผมไม่ได้เขียนเพลงประท้วง” ระหว่างการแสดงครั้งแรกครั้งนั้น ดีแลนอ่านเนื้อเพลงบางช่วงที่เขียนโดยลายมือตัวเองไม่ออก แถมยังเพิ่มเนื้อเพลงใหม่ขึ้นมาดื้อๆ ไปพร้อมกันอีกด้วย