19 พ.ย. 2021 เวลา 08:44 • นิยาย เรื่องสั้น
ตำนาน ผีม้าบ้อง
ในเรื่องเล่าของชาวเหนือ ตำนาน "ผีม้าบ้อง" มีด้วยกันหลายสำนวน เรื่องที่สุดฮิตก็คือ มีชาย 2 คนเป็นเพื่อนรักกัน สนิทสนมกลมเกลียว จนนับถือกันเป็น "เสี่ยว" ซึ่งโดยทั่วไป คำว่า "เสี่ยว" นี้ มีความหมายสองอย่าง
1) เรียกเพราะเกิดปีนักษัตรเดียวกัน เช่น ปีไก่ ปีหมา หรือถ้าตรงวันตรงเดือน จะยิ่งแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพราะถือว่าเกิดมาร่วมบุญร่วมภพชาติ
2) สนิทสนมรักกันจนเหมือนญาติ แม้เกิดห่างวันเดือนปี ก็นับเป็นเสี่ยวกันได้
ในยุคสมัยก่อนโน้น เมื่อบ้านเรือนชาวเหนือส่วนใหญ่ยังตั้งอยู่ในแวดล้อมป่าดง ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทางเหนือนั้นมีประเพณี "แอ่วสาว-อู้สาว" ซึ่งเป็นการสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างชายหญิง เป็นเรื่องสามัญในประเพณี เมื่อบ้านใดมีลูกสาว โตมาเป็นสาวแรกรุ่น ก็จะมีหนุ่มๆ มาแอ่ว (เที่ยว) หา ในการแอ่วนั้น มีกติกาที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า หนุ่มแต่ละคนจะขึ้นแอ่วบ้านใดก็ได้ บางคืนอาจจะไปสองสามบ้าน หากพึงพอใจก็ไปติดๆ กันต่อจากนั้น หรือหากไม่พอใจ ก็ไม่ขึ้นแอ่วเรือนนั้นอีก ส่วนฝ่ายหญิง ตกยามค่ำแลง ก็จะอาบน้ำทาแป้งแต่งตัว ออกมานั่งรอที่ห้องโถง (ทางเหนือเรียก "เติ๋น") ข้างพ่อแม่ที่รู้ธรรมเนียมก็จะรีบเข้าห้องนอนเสีย ลงเรือนไปบ้านญาติพี่น้องก่อน
เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว พ่อแม่คนใดที่จามๆ ไอๆ อยู่ในห้องนอน หรือไม่ยอมลุกออกจากห้องนอก ก็จะถูกครานินทาว่า เป็นพ่อแม่ขี้หวงขี้ขาง ใจแคบ ส่งผลต่อการพิจารณาว่าจะเข้าไปเขยกันหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการแอ่วอู้ของบ่าวสาว คือการมีระยะห่างที่เหมาะสม การให้เกียรติ ไม่ฉวยโอกาส ห้ามปากว่ามือถึง ต้องไม่มีการลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศ ตามธรรมเนียมเดิมนั้น เมื่อหนุ่มขึ้นบ้านสาว ก็จะต้องนั่งห่างๆ ก่อน บ้างจึงจะนั่งใกล้หัวบันไดบ้าง นั่งขอบเติ๋นบ้าง ดูทีท่าว่า เจ้าบ้านเองเต็มใจต้อนรับตนหรือไม่ หากสาวใดพอใจคนมาเยือน ก็จะต้อนรับขับสู้ เชิญชวนกินน้ำกินบุหรี่ แต่ถ้าไม่พึงใจ ก็มักถามคำตอบคำ และอ้างว่าต้องเข้านอนแล้ว พอหนุ่มลงเรือนก็ดับไฟทันควัน เป็นสัญญาณว่า ไม่ต้องมาอีกแล้ว
ในแต่ละคืน สาวบางบ้านจึงได้ต้อนรับหนุ่มๆ มากหน้าหลายตา ส่วนหนุ่มบางคน ได้ยินว่าบ้านไหนมีคนงามก็ไปตามเสาะหา บางคืนก็ไปหลายบ้าน บางครั้งไปถึงต่างหมู่บ้านก็มี เรียกว่า ออนทัวร์กันเป็นที่สนุกสนาน จะว่าไป ก็เป็นการเลือกคู่ที่เท่าเทียมกันดีทั้งสองฝ่าย เพราะเมื่อยังอยู่ระหว่างแอ่วอู้หากัน ไม่ได้ตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน ก็จะหึงหวงกันไม่ได้ แต่เมื่อไหร่ที่ตกลงแล้วว่าจะเป็นแฟนกันแล้ว ผู้ชายก็ต้องหยุดการไปแอ่วหาสาวอื่น ส่วนผู้หญิงก็จะไม่รับชายอื่นขึ้นเรือนแล้วเช่นกัน ต่อจากนั้น การหมั้นหมายเตรียมแต่งงานก็จะตามมา กลับมาที่เรื่องผีม้าบ้องในตำนาน ที่อธิบายเรื่องการแอ่วอู้ของบ่าวสาว เพราะในยุคสมัยนี้ ประเพณีเหล่านี้แทบจะหายสาบสูญไปหมดแล้ว ชีวิตในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนแปลกหน้าจะเข้าบ้านใคร และการรอต้อนรับผู้ชายเพียงลำพังในบ้าน ก็เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม
แต่ในยุคสมัยโน้น ลองย้อนกลับไปถึงภาพค่ำคืนมืดดำ มีหนุ่มๆ ที่อกใจไหวเต้น เพราะมีสาวงามคนนั้นคนนี้อยู่ในจินตนาการ การได้ออกจากบ้านไปแอ่วสาวย่อมคือความสุขหาใดเหมือน และในภาพจำเหล่านั้น เรื่องเล่าผีม้าบ้องก็เริ่มจากตรงนี้
และในภาพจำเหล่านั้น เรื่องเล่าผีม้าบ้องก็เริ่มจากตรงนี้
ติดตามชมตอนหน้าค่ะ😊😙
โฆษณา