19 พ.ย. 2021 เวลา 13:34 • ประวัติศาสตร์
ทำไม! ชาวกรีกโบราณนิยมสร้างรูปปั้นเปลือย​? และเป็นศูนย์กลางในประติมากรรมกรีก!?
เราอาจจะคุ้นเคยหรือเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว​ กับรูปปั้นเปลือยเปล่า​ ที่มีการเปิดเผยร่างกาย​ ที่มักจะจัดแสดงตามนิทรรศการ​ พิพิธภัณฑ์​หรือตามวิหารของกรีก
ท่ามกลางประติมากรรมเก่าแก่มากมายที่ถูกค้นพบในโลกปัจจุบัน
ยุคกรีกและโรมันโบราณประติมากรรมส่วนใหญ่จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นรูปสลักที่แสดงถึง การเคารพต่อเทพเจ้าหรือไว้เพื่อเชิดชูเกียรติยศต่อพระมหากษัตริย์ของพวกเขา เช่นประติมากรรมแกะสลักเทพีวีนัสหรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า วีนัส เดอมิโล รูปปั้นแกะสลักร่างของเทพีสาวแห่งกรีก ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความสวยงาม
Lely's Venus (Aphodite) หมอบอยู่ที่อ่างอาบน้ำ
ศิลปะคลาสสิก​ กรีกโบราณมีความโดดเด่นท่ามกลางวัฒนธรรม​โบราณอื่นๆ ในด้านการพัฒนา​ การพรรณาถึงร่างกายของมนุษย์ตามธรรมชาติ​ แต่ในอุดมคติโดยทั่วไปแล้วรูปร่างผู้ชายเปลือยมักเป็นจุดสนใจ
ภาพเปลือยในศิลปะกรีกถูกใช้เป็นสัญลักษณ์​ เพื่อแสดงวีรบุรุษ​จากตำนาน เทพเจ้า​ นักรบ​ หรือวีรบุรุษ​สงคราม
เมื่อก่อนนั้น​ สังคมในสมัยกรีกโบราณจำกัดภาพเปลือยของผู้หญิง​ ยกเว้นเมื่อถูกนำมาแสดงในระดับเล็กน้อย
ชาวกรีกจะยึดมั่นในเหตุผลและความสมบูรณ์ของมนุษย​์​ เพราะถือว่า ร่างกายของมนุษย์เป็นความงาม​ตามธรรมชาติ​ เช่นเดียวกับ​ ภูเขา​ ต้นไม้​ สายน้ำ​ ดังนั้นศิลปกรรมของกรีกจึงแสดงถึงความสมบูรณ์ของร่างกายมนุษย์​อย่างชัดเจน
งานประติมากรรมภาพคนจะแสดงให้เห็นถึงกล้ามเนื้อและอวัยวะต่าง ๆ ให้สมบูรณ์ที่สุด ปราศจากเครื่องนุ่มห่ม ส่วนมากเป็นเรื่องศาสนา ซึ่งสร้างถวายเทพเจ้าต่าง ๆ วัสดุที่นิยมใช้สร้างงานได้แก่ ทองแดง และดินเผา ในสมัยต่อมานิยมสร้างจาก สำริด และหินอ่อนเพิ่มขึ้น ในสมัยแรก ๆ รูปทรงยังมีลักษณะคล้ายรูปเรขาคณิต
ต่อมาในสมัยอาร์คาอิก ( 200 ปีก่อน พ.ศ. ) เริ่มมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์มากขึ้น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เทพเจ้า รูปนักกีฬา รูปวีรบุรุษ รูปสัตว์ต่าง ๆ ในยุคหลัง รูปทรงจะมีความเป็น มนุษย์มากขึ้น แสดงท่าทางการเคลื่อนไหวที่สง่างาม มีการ ขัดถูผิวหินให้เรียบ ดูคล้ายผิวมนุษย์ มีลีลาที่เป็นไปตามธรรมชาติมากขึ้น ทำให้ ประติมากรรมกรีก จัดเป็นยุคคลาสสิก ในวงการศิลปะ
จะเห็นได้ว่า​ งานประติมากรรมของกรีก​ จะนิยมสร้างสรรค์แนวเหมือนจริง​(Realistic)​ โดยเฉพาะสรีระของมนุษย​์
ชาวกรีกถือว่าร่างกายมีความงดงาม​ยิ่ง​ จึงนิยมปั้นและแกะสลักรูปคนเปลือยกายไว้มากมาย​
งานประติมากรรม​ลอยตัวที่มีชื่อเสียง​ ได้แก่​ เทพธิดาวีนัส​ (Venus) รูปเทพเจ้าอพอลโล (Apollo)​ รูปนักกีฬาไมรอน​(Myron)​ ประติมากรรมสัมฤทธิ์​รูปเด็กหนุ่ม​ เป็นรูปเปลือยที่มีสัดส่วนของร่างกาย ตลอดจนการจัดวางท่วงท่า​ได้อย่างสวยงาม
ชาวกรีกเป็นชาติแรกที่สร้างทฤษฎีสัดส่วนทองคำ (golden section) ในการจัดวางความสวยงามหรือองค์ประกอบศิลปที่ลงตัว ใช้ในงานศิลปทุกแบบ ทั้งจิตรกรรมประติมากรรมหรือสถาปัตยกรรม
กฎสัดส่วนทองคำ(Gold Ration)
สัดส่วนทองคำ​ (Golden Ratio)​ มาจากการคำนวนทางคณิตศาสตร์เพื่อทำให้งานออกแบบมีสัดส่วนที่งามตามสูตรคำนวณ ที่ใช้ตัวเลขทางคณิตศาสตร์มาอธิบายความงามงดงามของธรรมชาติ อัตราส่วนของสัดส่วนทองคำ​ คือสัดส่วน 1 : 1.618 มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้งานออกแบบดูสมบูรณ์แบบมากที่สุด
ภาพลักษณ์​ของมนุษย​์ในอุดคติได้รับการพัฒนาในศิลปะกรีก​ ซึ่งให้คุณค่ากับร่างกายของชายที่เพรียวบาง​ กระชับ​ ไร้อายุ​ มีซิกแพ็กที่งดงาม​ และมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์
แม้ว่าสัดส่วนที่ต้องการจะแปรผันไปตามกาลเวลา​ แต่ภาพเปลือยของผู้ชายที่สมบูรณ์​ มักจะยืนในท่าที่สมดุล
ชี้ให้เห็นว่าศิลปะอาจเลียนแบบชีวิตได้อย่างใกล้ชิด​ มีการแสดงบทบาทต่างๆของผู้ชาย​ ตั้งแต่ความกล้าหาญ​ และความพ่ายแพ้​ อย่างเช่น​ นักรบและวีรบุรุษ​ ที่มักถูกแสดง​ ในแบบรูปเปลือย​(ไม่เสมอไป)​นั้น​ ให้เห็นถึงความกล้าหาญทางกายภาพที่เอาชนะศัตรู
ซึ่งเชื่อว่า​ ภาพเปลือยเปล่านี้​ มีพลัง​ มีอุดมคติ​ และความสวยงาม​ที่เป็นธรรมชาติ
แสดงให้เห็นว่ารูปปั้นเปลือยเปล่านี้​ ถือเป็นศิลปะที่มีความโดดเด่น​ อันน่าทึ่ง​ ทั้งนี้รูปภาพเปลือยที่สร้างก็เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพ​ต่อเทพเจ้า​ และยังแสดงให้เห็นว่า​ มีความรุ่งโรจน์ทางด้านศิลปะ​มากในยุคนั้น​ จนในปัจจุบันก็ยังมีให้เห็นถึงศิลปะที่งดงามนี้ จนกลายเป็นที่ศึกษาทางด้านศิลปะ​ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว​ที่เป็นที่นิยมจนปัจจุบัน
Reference :
โฆษณา