20 พ.ย. 2021 เวลา 10:32 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Hellbound (2021) ⭐️⭐️
Hellbound แอบเป็นซีรีส์เสียดสีสังคม เกี่ยวกับความเชื่อศาสนาและความงมงาย เมื่อมีกลุ่มคนที่หากินกับความกลัวของมนุษย์ ตั้งตนเป็นผู้สื่อสารกับพระเจ้า…??
1
เมื่อศรัทธาบังเกิด ก็เริ่มมีกลุ่มย่อยหัวรุนแรงอย่างกลุ่ม “ลูกศร” ที่ออกมาวางอิทธิพลใส่”ผู้ที่ไม่เห็นด้วย”กับลัทธิใหม่นี้
กลุ่มลูกศรตั้งตนเป็นศาลเตี้ยพิพากษาคนที่เห็นต่าง..?
1
ขณะที่ลัทธิศาสนาใหม่พร่ำบอกให้ทุกคนไม่ทำบาป…
แต่”กลุ่มลูกศร”ที่ออกจะคลั่งไคล้ความรุนแรง กับลัทธิศาสนาใหม่นี้ กลับไม่ได้แยกจากกันอย่างที่ควรจะเป็น?
เป็นพันธมิตรแบบรู้ๆกัน แค่ไม่ยอมรับออกหน้าออกตา
อะไรคือบรรทัดฐานของคนบาปกันแน่??
ใครไม่ใช่พวกข้า คือคนบาปงั้นหรือ??
1
ระหว่างที่ลัทธิศาสนาใหม่ขยายอิทธิพลกว้างขวาง ก็เกิดกลุ่มคลื่นใต้น้ำ ที่พยายามจะเปิดเผยความจริงว่าทุกคนกำลังถูกลัทธินี้หลอกลวง
.
.
1
📍ความคิดเห็นหลังดูจบ (มีสปอย)
แนวนี้ไม่ใช่ทางสักเท่าไหร่ค่ะ เป็นเรื่องที่ดูแล้วเหนื่อยมาก ต้องใช้ความคิดเยอะ ความโหดเลือดสาดระดับ18+ ดูแล้วต้องเผลอทำคิ้วขมวดหลายครั้ง
สัตว์ประหลาดที่มาลากคนกลับนรก ไม่มีความปรานีใดใด รุมฆ่าเหยื่ออย่างทารุณ ดูแล้วกระอักกระอ่วน (ที่เห็นในตัวอย่างแค่น้ำจิ้ม)
เรื่องความโหด ทางกลุ่มลูกศรก็ป่าเถื่อนเช่นกัน…
แค่เห็นถือกระบองเหล็กเดินมาก็กลัวแล้วค่ะ
.
.
ไม่ว่าประกาศิตวันตายจากสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาตินั้นจะเกิดขึ้นมาเพราะสาเหตุใด แต่สิ่งนั้นได้ถูกโยงว่าเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าตามลัทธิศาสนาใหม่ และถูกใช้ประโยชน์จาก”ความกลัว”เข้ามา ”จัดระเบียบโลก” ตามความเชื่อของผู้นำลัทธิ
ด้วยการโยนเหตุผลของปรากฏการณ์นี้ไปที่ “บาป” เพราะมนุษย์ทำบาปจึงต้องถูกลงโทษ แต่ทว่ามนุษย์เราเกิดและใช้ชีวิตมา แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เคยปนเปื้อนบาปสักครั้ง
ประกาศิตของอสูรกายจึงกลายเป็นทฤษฎีสร้างอำนาจในมือของผู้นำลัทธิอย่างง่ายดาย
ลัทธิได้ประโยชน์ขนาดไหน ดูได้จากขนาดอาคารที่ตั้งขององค์กร แน่นอนว่าลัทธิใหม่นี้ต้องเป็นองค์กรที่มีเงินไหลสะพัด
ยิ่งมีคนศรัทธา ยิ่งเสริมสร้างอำนาจ
ความกว้างขวางทำให้ลัทธิมีสมาชิกแทรกซึมอยู่ในทุกองค์กร จนแทบจะมีอิทธิพลเหนือกฎหมาย??
.
.
อสูรกายว่าน่ากลัวแล้ว
แต่มนุษย์ที่หากินจากความกลัวอสูรกายนี้น่ากลัวยิ่งกว่า
2
หากตั้งใจมาดูยูอาอิน แอบสปอยเลยว่าโดนหลอกแล้วจ้า ตัวดำเนินเรื่องหลักคือคุณทนายค่ะ ยูอาอินออกมาสร้างอิทธิพลตอนต้นเรื่อง ออกมาจุดประกายลัทธิ แล้วก็ม่องเท่งตรงกลางเรื่องไปเลย จุดนี้ทำเอาเหวอ อ้าว!! แล้วฉันจะดูใคร?
.
.
2
ยูอาอิน
เอาใจช่วยคุณทนายไปค่ะ ตอนใกล้ๆจบจะมีจุดเปลี่ยน แล้วพอถึงตอนสุดท้ายก็พลิกไปอีกตลบ ถ้าซีซั่นนี้ดึงความสนใจได้ ซีซั่น2 ต้องมาแน่นอน
.
.
ดูทรงเรื่องแล้ว อย่าไว้ใจว่าทุกคนที่ดำเนินเรื่องจะอยู่กับเราจนถึงตอนสุดท้าย ถ้าทำภาคต่อคุณทนายอาจจะอยู่กับเราถึงแค่ ep.2ก็ได้นะ เหมือนที่ภาคนี้ทิ้งยูอาอินไว้ที่ep.3😅
1
อ่ะถึงจะตายไว ขอชมก่อนว่ายูอาอินนี่แหล่ะค่ะที่ทรงอิทธิพลจริงๆ การแสดงเป็นผู้นำลัทธิที่มีความลึกลับ ผ่านความเจ็บปวดและมีความซับซ้อนในจิตใจมาอย่างยาวนาน เล่นออกมาได้ปังมาก ไม่มีอะไรจะติ
และก็ขอชื่นชมมุมกล้องฉากต่อสู้ของคุณทนายสุดสวยที่ต้องกระโดดหนีทางหน้าต่างจากชั้นบน..
ถูกถ่ายแบบต่อเนื่องโดยมีช่างกล้องกระโดดตามลงมาแล้ววิ่งตามไปด้วย 👏 👏 อันนี้ก็ชอบค่ะ
สุดท้ายอสูรกายทั้ง 3 ก็ยังคงทิ้งปริศนาถึงที่มาที่ไป
และอนาคตของลัทธิใหม่นี้ก็ยังคงไม่มีตอนจบ
สรุป ส่วนตัวคิดว่า Hellbound เป็นเรื่องที่เนื้อหาหนักหน่วง ชวนอึดอัด มีช่วงสนทนาที่ยาวนาน ต้องคิดและตีความเยอะ (โดยเฉพาะช่วง ep.3 ของยูอาอิน ยาวมาก ท่องบทอะไรได้ยาวขนาดนี้ ฟังแล้วต้องกดไปฟังใหม่อีกรอบ เมื่อกี้หมายความว่าอะไรนะ)
ใครที่เครียดอยู่ มาดูแล้วน่าจะเครียดกว่าเดิม แต่แน่นอนก็มีกลุ่มผู้ชมที่น่าจะชอบดูหนังแนวนี้ เหมาะกับสายดาร์กหนักๆค่ะ
.
.
ปวดหัวสุดกับตาคนนี้
.
.
ด้วยความที่ดูรวดเดียวจบทั้ง 6 ตอน
หลังดูจบถึงกับต้องไปดูวาไรตี้เฮฮาเพื่อผ่อนคลาย
จบการรีวิว
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
โฆษณา