ช่องคลอดหดเกร็ง (vaginismus) ep1-2
เมื่อฉันเป็นวาไจนิสมุส ep1-2
(When I have vaginismus)
By AP1
ฉันหวังว่าเรื่องราวของฉัน จะสามาถช่วยผู้หญิงหลายคนบนโลกใบนี้
เธออาจมีภาวะเดียวกันกับฉัน
เธออาจไม่รู้ว่าจะบอกใครได้
เธออาจไม่เคยคุยเรื่องเพศกับใคร
เธอไม่ได้สนใจเรื่อง sex
เธออาจคิดว่าเดี๋ยวมันจะเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์
ฉันหวังว่าเรื่องราวต่างๆ และการรักษาต่างๆ (ฉันขอเรียกว่าแบบฝึกหัด)
จะสามารถช่วยผู้อื่นได้ เรื่องราวของฉันอาจจะช่วยทำให้ คู่รักหลายคู่เข้าใจและรักกันมากขึ้น
เพียงแค่เราเปิดใจ ยอมรับว่ามันเป็นปัญหา กล้าที่จะไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญช่วยแก้ปัญหาให้เราได้
เข้าเรื่องว่าทำไมฉันถึงรู้ว่าฉันเป็นวาไจนิสมุสเลยละกัน
เรื่องมีอยู่ว่าฉันแต่งงานมาหลายปี แต่ไม่มีบุตร
มันเป็นเรื่องราวซับซ้อนเกินกว่าที่จะเล่าหรือเอ่ยให้ใครฟังได้ง่ายๆ
ฉันใช้เวลาหลายปีในการทบทวนว่าเราทำไมไม่มี sex กันเหมือนคู่สามีภรรยาอื่น
บางครั้งฉันร้องไห้ การที่ผู้หญิงแต่งงานแล้วไม่มี sex กับสามี มันยังไงไม่รู้
ความจริงแล้วสามีฉันก็พยายามเมคเลิฟกับฉันในวันฮันนีมูน แต่ผลมันออกมาในแบบที่ฉันเจ็บมาก จำได้ว่าใช้เท้ายันสามีเลยหละ สุดท้ายเราก็ได้แต่กอดกันไว้ และเขาบอกฉันว่าฉันน่าจะไปถามเพื่อนบ้าง
ฉันไม่ได้ถามใคร เพราะคิดเอาเองว่านี่มันเป็นครั้งแรกของผู้หญิงใครๆก็ต้องเจ็บทั้งนั้นมั้ง
เขาเป็นเกย์ไหม หรือเสื่อมสมรรถภาพ ทำไมถึงไม่มี sex กับเราอีกเลย หรือเขาคงกลัวเราเจ็บอีก ทำไมเราแค่นอนจับมือกันเฉยๆ
และสรุปตรงที่ว่าฉันไม่สน
เรารักกันเหมือนคู่รักทั่วไปขาดแต่แค่ฉันมี sex ไม่ได้เพราะว่ามันเจ็บมาก และตกลงที่จะมีบุตร ฉันอยากมีลูก
จนกระทั่งวันที่ตรวจภายใน ฉันไม่รู้ว่าจะเจ็บแค่ไหน และถึงเวลาแล้วที่ฉันควรมีบุตร ฉันอายุ 34 แล้วและแต่งงานมานานกว่าสองปี ฉันจึงตัดสินใจไปคลินิกมีบุตรยาก
ฉันพบว่าตัวเองมีภาวะผิดปกติที่เรียกว่าวาไจนิสมุส ในวันนั้นเอง
คุณหมอตรวจภายในให้ฉัน แต่ฉันกลัวมาก กลัวจนน้ำตาคลอ เกร็งก้น และเกือบจะยันคุณหมอเลยหละ
สุดท้ายคุณหมออัลตราซาวด์รังไข่ มดลูก ต่างๆผ่านทางหน้าท้องพบว่าปกติ
ส่วนสามีมีน้ำอสุจิน้อย นี่ก็เป็นปัญหา แต่อย่างไรก็ตามเวลานั้นฉันคิดเอาว่าเป็นเพราะสามีไม่ได้มีสมรรถภาพทางเพศเหมือนวัยหนุ่ม แต่ฝ่ายชายไม่ยอมรับ เราจึงต้องพึ่งพาวิทยาศาสตร์ ฉันคิดว่าปัญหามาจากฝ่ายชายในตอนแรก เราจึงจูงมือกันมาคลินิกมีบุตรยาก
อ้าว แต่ปรากฏว่าหวยออกที่ฉัน อ้าวฉันเป็นวาไจนิสมุสรึ
เหลือแต่ภาวะบางอย่างของฉันที่ต้องรับการรักษา คุณหมอแผนกมีบุตรยาก ส่งฉันไปพบกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศโดยเฉพาะ ฉันตกลงไปพบด้วยความคิดที่ว่าฉันน่าจะรักษาได้ และฉันน่าจะมีลูกได้
ในครั้งแรกที่ไปพบอาจารย์หมอ ฉันรู้สึกว่าฉันต่อต้านการเป็นโรคนี้ ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าฉันเป็นโรคนี้ ฉันเข้าใจว่าฉันเวอร์จิ้นอะไรทำนองนั้น แฟนจะมี sex ด้วย มันก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา
แต่มันไม่ใช่ธรรมดาตรงที่ จุ๋มจิ๋มของฉันไม่เคยถูกนิ้วสัมผัสในแบบที่เรียกว่าเล้าโลมด้วยตัวเองน่ะสิ
เอาจริงๆมันยากมากในแต่ละครั้งที่จะต้องตอบคำถามคุณหมอ
แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป
ฉันได้รับคำแนะนำให้ดูหนังโป๊ และฟังเพลงที่ชอบให้ผ่อนคลายหรือคิดจิตนาการถึงสายลม ท้องฟ้า ที่ชอบ
แล้วใช้เทียนไขขนาดต่างๆฝึกสอดใส่ เข้าไปช่องคลอด ฉันจะทำได้ไง ฉันไม่เคยเอาอะไรใส่เข้าไปเลย แม้แต่นิ้วของฉันเอง
(อาจารย์หมอพยายามหาสาเหตุให้ฉัน แต่ก็ไม่รู้จริงๆ จนคุยไปคุยมาครั้งสุดท้าย ได้ความว่ากลัวสกปรก 555)
เริ่มแรก ฉันทำไม่ได้เลย
แค่คอตตอนบัด ยังเข้าได้ทีละนิดเลย
ฉันพยายามฝึกจนใส่คอตตอนบัดได้สุด (ตอนใส่ตอตตอนบัด ฉันยังต้องดูหนังเลย)
ตอนแรกใส่เข้าไปแล้วมันจะติดเหมือนตัน แต่ว่ามันไม่ได้ตัน เป็นกล้ามเนื้อของเราเองที่หดเกร็งแบบอัตโนมัติ ทำให้ใส่เข้าไปไม่ได้
ถ้าเราออกแรงฝืนมันเราจะเจ็บ
ถ้าเราผ่อนคลายมากพอ ค่อยๆหายใจเข้าออก
จังหวะที่หายใจออกก็ค่อยๆดันเข้าไป
ติดก็หยุด ฟังเพลงต่อ ดูหนังต่อ จินตนาการต่อ
ผ่อนคลายอีก ก็ค่อยๆหายใจเข้า ออก
พอหายใจออก ก็ดันเข้าไปอีก
ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ จนสุดคอตตอนบัด เท่านี้ก็ดีใจมากแล้ว
สำหรับแบบฝึกหัดแรกของฉัน
เดี๋ยวยังมีแบบฝึกหัดให้ฉันฝึกอีกมากมายเลยหละ
ฉันเก็บความคืบหน้าเอาไว้ไปรายงานอาจารย์หมอครั้งต่อไป
ฉันได้รับกำลังใจทุกครั้งที่ไปพบอาจารย์หมอ และทีมอาจารย์พยาบาล
ว่าคนที่เป็นเหมือนฉันก็มี และก็สามารถมีบุตรได้หลายคู่แล้ว
ฉันมีความหวัง และเชื่อว่าฉันต้องทำได้เช่นกัน
คำแนะนำที่ให้ใช้เทียนไข หรือไดเลเทอ (dilator) แต่ฉันหาซื้อไดเลเทอไม่ได้
จึงหาเทียนไข ขนาดต่างๆ เริ่มตั้งแต่ขนาดเทียนแฮปปี้เบิร์ดเดย์กันก่อนเลย
ใส่ถุงยาง แล้วทายาชา และเจลหล่อลื่น
ฉันใช้เวลานานไม่แพ้คอตตอนบัด
ฉันต้องเริ่มต้นก่อนด้วยคอตตอนบัด
แล้วพอใส่ได้แล้วก็ขยับมาเป็นเทียนแฮปปี้เบิร์ดเดย์
แค่ฉันใช้เทียนแฮปปี้เบิร์ดเดย์ได้ก็น่าดีใจมากแล้ว
เมื่อฉันเป็นวาไจนิสมุส Ep.2
ฉันได้รับคำแนะนำให้ฝึกคีเกลด้วย
เป็นการขมิบช่องคลอด
ขมิบตลอดเวลาที่นึกขึ้นได้ หรือทำสามเวลาหลังอาหารก็ได้ เซสนั่นละ 20 ครั้ง
เมื่อเวลาผ่านไป ฉันสามารถหาซื้อ ไดเลเทอร์ได้ ฉันจึงไม่ต้องใช้แท่งเทียนในการฝึก desensitization (ลดความกลัวอย่างเป็นระบบ) อีกต่อไป
อาจารย์หมอแนะนำให้ฉันฝึกใช้ไดเลเทอร์สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
แต่ยอมรับว่าช่วงที่ทำไม่ได้สักที ฉันทำแค่เดือนละ 3 ครั้ง ก่อนจะไปพบนัดต่อไป
ก็มันทำไม่ได้นี่นา เจ็บ
Dilator มีลักษณะเป็นพลาสติกสีขาวหลายขนาด มีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กเท่านิ้ว จนกระทั่งใหญ่ขึ้นเท่า dildo
รวมทั้งสิ้น 6 size
วิธีการฝึกก็เหมือนเดิม ถ้ากลัวเจ็บ เราควรทายาชา และเจลหล่อลื่นที่ปลายไดเลเทอร์ก่อน
ส่วนถุงยางอนามัย ไม่ต้องใส่ให้ ไดเลเทอร์ เนื่องจากไม่ได้สกปรกอะไร เราใช้ของเราคนเดียว ใช้เสร็จแล้วล้างทำความสะอาดด้วยสบู่ ผึ่งแห้ง
ช่วงแรกต้องเริ่มด้วยคอตตอนบัด แล้วจึงค่อยขยับขนาด มาเป็นไดเลเทอร์อันเล็กสุด
เหมือนเดิม ต้องสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย ปิดม่าน จุดน้ำมันหอมระเหย เปิดเพลง จินตนาการ
ตอนแรกใส่เข้าไปแล้วมันจะติดเหมือนตัน แต่ว่ามันไม่ได้ตัน เป็นกล้ามเนื้อของเราเองที่หดเกร็งแบบอัตโนมัติ ทำให้ใส่เข้าไปไม่ได้
ถ้าเราออกแรงฝืนมันเราจะเจ็บ
ถ้าเราผ่อนคลายมากพอ ค่อยๆหายใจเข้าออก
จังหวะที่หายใจออกก็ค่อยๆดันเข้าไป
ติดก็หยุด ฟังเพลงต่อ ดูหนังต่อ จินตนาการต่อ
ผ่อนคลายอีก ก็ค่อยๆหายใจเข้า ออก
พอหายใจออก ก็ดันเข้าไปอีก
ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ จนสุดไดเลเทอร์ประมาณ 3 นิ้ว
พอทำขนาดเล็กได้แล้วก็ปรับขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ฉันใส่เจลกับยาชากับทุกขนาด
จนกระทั่งทำได้ถึงไซส์ 5 และ dildo
ซึ่งใช้เวลานานเลยหละ
กว่าร่างกายฉันจะคุ้นชิน
และหดเกร็งน้อยลง จนตอนนี้ฉันว่าแทบจะหายแล้วนะ
ฉันยังต้องฝึกต่อไป
ตอนหลังมานี้ ไม่ต้องใส่ยาชา หรือเจลหล่อลื่น
ฉันก็สามารถทำได้โดยไม่เจ็บหรือ หดเกร็ง เหมือนครั้งแรกแล้ว
ฉันดีใจมาก
ครั้งสุดท้ายที่ไปพบ อาจารย์หมอให้ทำทุกวัน
ซึ่งเมื่อก่อนฉันไม่คิดว่าจะทำได้
แต่ตอนนี้ฉันทำได้แล้ว (ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น มีจริง)
แบบฝึกหัดต่อไปของฉัน คือการทำ sensate focus หรือการสัมผัส ( เหมือนการทำ foreplay นะฉันว่า) อันนี้ให้ทำแยกต่างหากกับการฝึกใช้ไดเลเทอร์
การทำ sensate focus โดยให้ฉันและสามีสัมผัส ส่วนต่างๆ ของร่างกายของกันและกัน โดยเปลือยกาย
ฝ่ายหญิงนอนทับบนตัวฝ่ายชาย (อีโรติกมาก)
หรือจะใช้การนวดให้กันก็ได้ อาจใช้น้ำมันนวดร่วมด้วย
นอกจากนี้ ในแต่ละแบบฝึกหัด อาจต้องสร้างบรรยากาศร่วมด้วย แนะนำให้ ใช้น้ำมันหอมระเหย กลิ่นลาเวนเดอร์ เหลือกลิ่นกุหลาบ หรือกินอะไรก็ได้ที่เราชอบ สร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลาย
เปิดเพลง แอลฟ่า มิวสิค หรือ เปิดเพลงที่ชอบ หรือ บางคนอาจจะชอบเงียบๆ แบบไหนก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย
ส่วนตัวฉัน ชอบเพลงที่ชอบ
โดยแบบฝึกหัดนี้ แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
หลังจากนั้นหนึ่งถึงสองเดือน กลับมาพบอาจารย์หมอเพื่อรายงานผลอีกครั้ง
ส่วนใหญ่เท่าที่ฉันอ่านจากเวปไซต์ต่างๆ คนไข้จะหายไปไม่มาตามนัด
ฉันเข้าใจแหละ ก็แต่ละแบบฝึกหัด มันยาก หรือ บางทีก็น่าอายที่จะพูดนะ
แต่ไม่น่าเชื่อนะ ฉันกลับไปพบอาจารย์หมอตามนัด
ด้วยความเชื่อที่ว่า ฉันมีเซ็กส์ไม่ได้ ฉันก็มีลูกไม่ได้ แต่ถ้าฉันทำได้ ก็น่าจะมีลูกได้นะ และ ฉันกับสามี เราทำเองไม่ได้ ฉันจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากอาจารย์หมอ
เล่าความคืบหน้าให้ฟัง และมักจะได้รับคำถามที่ตอบยาก เช่น ทำ sensate focus แล้วรู้สึกอย่างไร
ฉันได้แต่ตอบว่ารู้สึกดี ทั้งที่ความจริงแล้วเต็มไปด้วยความรู้สึก ที่ไม่สามารถ อธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ (หน้าแดง)
ฉันยอมรับว่าการฝึกทำให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้น
ฉันรู้สึกว่าได้รับความรักมากขึ้นจากการสัมผัส
อาจารย์หมอ เป็นสูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน แซ็คโซโลจิสต์ (sexologist) ซึ่งคาดว่า มีไม่กี่ท่านในประเทศไทย และฉันยังโชคดี ได้พบอาจารย์พยาบาล
อาจารย์พยาบาล สอนให้ฉันรู้จัก จุดสัมผัสต่างๆของร่างกาย จุดที่พึงพอใจของผู้หญิง จุดที่พึงพอใจของผู้ชาย
ฉันได้เรียนรู้ เอ สปอต จีสปอต ผ่านโมเดลจุ๋มจิ๋มจำลอง รวมถึง วีดีโอ สอนการสอดใส่ นิ้ว ในผู้หญิง
ไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าฉันต้องเรียนด้วย แต่ว่าไป มันก็ดีนะ
ทำให้ฉันได้รู้ว่า ผู้หญิงเราใช้นิ้ว ให้ถึง ออกัสซัม ได้นะ ไม่ผิด
และฉันไปอยู่ที่ไหนมาบนโลกนี้ ตั้งสามสิบกว่าปี ถึงจะได้รู้จักใช้นิ้ว
ทางการแพทย์แล้วเค้าให้ผู้หญิงทำได้นะ คุณหมอผู้หญิงถามฉันบ่อย ว่าเคยช่วยตัวเองไหม
ฉันก็เลยถึงบางอ้อ ทำได้ ไม่น่าเกลียดใช่ไหม
แล้วก็พูดเรื่องนี้ได้ด้วยใช่ไหม
แต่ก่อนฉันเคยคิดว่ามีแต่ผู้ชายที่ดูหนังโป๊แล้วช่วยตัวเอง
อาจารย์พยาบาล ที่เป็น sex therapist แนะนำให้ผู้หญิงทำด้วยนะ
เปิดโลกอีกแล้ว
ฉันไปอยู่โลกไหนมา ฉันไม่เคยใช้นิ้วกับตัวเองเลย อาจจะเพราะกลัวสกปรกมั้ง (ฉันพยายามหาสาเหตุ)
เอาเป็นว่า อาจารย์พยาบาลถามว่าฉันไม่เคยคุยเรื่องนี้กับใครเลยรึ ใช่ ฉันไม่เคยพูดเรื่องอย่างนี้กับใครเลย
การปรึกษา sex therapist ฉันต้องเปิดใจมากๆเลย
ฉันต้องเปิดใจ เรียนรู้ ยอมรับ และลองทำ
ไม่คิดว่าผู้หญิงไทยๆอย่างฉัน จะกล้ามาคุยเรื่องแบบนี้กับผู้เชี่ยวชาญ
ฉันนึกว่าจะมีแต่ฝรั่งในหนังเรื่อง sex education ซะอีกที่เขาจะไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
คิดซะว่าเราเป็นฝรั่งละกัน
โพสต์นี้พอเท่านี้ก่อน เดี๋ยวจะมาเล่าถึงแบบฝึกหัดต่อไป ให้อ่านในโพสต์ต่อไป
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
