มุกนี้ตามข้อมูล การถกปัญหาหมูแพง พบผลผลิตลดลงจากปีก่อน สถิติเผยคนไทยกินหมูลดลง เหลือ 16 กก./คน/ปี โดยนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยปัญหาราคาหมูแพง สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้มีการประกาศปรับราคาจำหน่ายสุกรมีชีวิตเป็น 84 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564
จากการเปรียบเทียบราคาหมู เมื่อช่วงมกราคม 2564 กับช่วงเดือน ธันวาคม 2564 ปรากฏว่า ราคาหมูขายปลีก ราคาปรับขึ้นมา 32-40 บาทต่อกิโลกรัม แต่ถ้าหากเป็นร้านขายปลีกที่รับหมูไปขายทอดที่สอง ทอดที่ 3 ราคาจะบวกเพิ่มอีกกิโลกรัมละ 10-20 บาท โดยประชาชนในภาคเหนือ ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูมากที่สุด
แต่ตราบใดที่คุณมีเนื้อหมู คุณก็สามารถทำอาหารที่เอร็ดอร่อยได้ เช่นสเต็กเนื้อสันใน, หมูผัดสับปะรดเปรี้ยวหวาน, หมูตุ๋น, ย่างกีบเท้าคากิ, หมูสะเต๊ะ, ไส้กรอก, ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน , ซี่โครงหมูอบเกลือ , หมูสไลด์ โอ้ยยย.. เขียนแล้ว... น้ำลายไหลเลย ?
ปีใหม่นี้มาว่ากันด้วยเรื่องหมูๆกันดีกว่า เริ่มด้วยปริมาณวิตามินบี 1 ที่มากกว่าเนื้อวัวถึง 5 เท่า
การขาดวิตามิน B1 ทำให้ร่างกายมักรู้สึกเหนื่อยและปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ วิตามินบีมีความสำคัญมากในการคงความอยากอาหาร การเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร และการเผาผลาญพลังงาน
เนื้อหมูติดมันที่มีวิตามิน B1 คือ 0.5 มก./100 กรัม ซึ่งมากกว่าเนื้อแกะไม่ติดมัน 3 เท่า และเนื้อวัวติดมันและอกไก่ถึง 5 เท่า
การดื่มบ่อยๆ, การกินของหวาน หรือการกินหมูหลังการออกกำลังกายที่หนักหน่วงสามารถเสริมด้วยวิตามินบี 1 ได้
มีคนทำการทดลองเพื่อศึกษาการสูญเสียวิตามิน บี1 ในเนื้อหมูเมื่อทำการปรุงด้วยน้ำมันที่อุณหภูมิสูง จะเห็นได้ว่ายิ่งอุณหภูมิในการปรุงอาหารต่ำลงและเวลาทำอาหารสั้นลงเท่าใด การสูญเสียวิตามินบี 1 ก็จะน้อยลงเท่านั้น
การเติมสารที่เป็นกรด เช่น น้ำส้มสายชู ในระหว่างขั้นตอนการปรุงอาหาร ยังช่วยลดการสูญเสียวิตามินบี 1 ได้อีกด้วย เพราะวิตามินบี 1 มีความเสถียรมากกว่าในสภาพแวดล้อมที่มีค่า pH ต่ำ
ถ้าอัตราไขมันในร่างกายของคุณสูงกว่าหมู
อ้วนจนเป็นหมู! ที่หลายๆคนชอบพูดอย่างนั้น
อย่างไรก็ตามตอนนี้เราควบคุมได้แล้ว
ศาสตราจารย์คาซึยะ โฮตาชิ ( K.Otsuji) จากโภชนาการสัตว์ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัย Teikyo ในญี่ปุ่นแนะนำให้รู้จักกับโปรแกรมที่ทำให้อัตราไขมันในร่างกายของสุกรอยู่ระหว่าง 14% และ 18%
แต่คุณรู้ไหมว่าอัตราไขมันในร่างกายที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสมสำหรับผู้ชายอยู่ที่ประมาณ 15% และสำหรับผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 25%
แล้วทำไมคุณไม่เรียนรู้วิธีกิน และนอนอย่างสมดุลย์ล่ะ?
แน่นอนว่ามีหมู "อ้วน" ที่มีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายอยู่ที่ 30 ถึง 40% แต่เมื่อพิจารณาว่าคนสมัยใหม่ที่ดูแลสุขภาพแต่ชอบกินเนื้อไม่ติดมัน
ฟาร์มจะไม่ยอมให้สุกรอ้วนโดยธรรมชาติ
จากนี้ไป การบริโภคจะดีกว่า.. แต่ถึงจะพูดแบบนี้ จง "อย่าเปลี่ยนวิธีการกินให้คุณอ้วน จนคุณกลายเป็นหมู นะครับ!"
มาที่คำว่า... บางเท่าซี่โครงกันดีกว่า
......ผมต้องขอโทษด้วย..... มันไม่จริง!
หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
....แต่การบริโภคซี่โครง.. อาจอ้วนกว่าเนื้อ3ชั้น!
ดูตารางองค์ประกอบอาหารนี่สิ ปริมาณไขมันของเนื้อหมู 100 กรัมแต่ละส่วน
หมูไม่ติดมัน 6.2g, เนื้อแดง 7.9g,ซี่โครง 23.1g,หมูติดมัน20.4g, ขาหมู18.8g, ลำใส้ใหญ่ 18.7g
ฉนั้น ซี่โครงหมูย่าง อย่ากินเยอะ และ น้ำมันหมูมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวอยู่มากมาย
เมื่อเทียบกับน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวในน้ำมันหมูนั้นสูงกว่าจริง ๆ แต่แท้จริงแล้วไม่มีแค่ในน้ำมันหมู นอกจากนี้ กรดไขมันอิ่มตัวยังมีปริมาณค่อนข้างสูงอีกด้วย
ปริมาณไขมันอิ่มตัวของน้ำมันมะพร้าวและเนยนั้นสูงกว่าน้ำมันหมูมาก แต่น้ำมันทั้งสองนี้มีชื่อเสียงและมีรสชาติที่ดูดีขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ผมไม่แนะนำให้ทุกคนกินแต่น้ำมันหมู
น้ำมันหมูมีปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวสูงกว่าเมื่อเทียบกับน้ำมันพืช ตัวอย่างเช่น ปริมาณไขมันอิ่มตัวของน้ำมันมะกอกอยู่ที่ 14% ในขณะที่น้ำมันหมูมีปริมาณ 39%...มากถึง 3 เท่า!
องค์การอนามัยโลก (ปีพ.ศ. 2556)" แนะนำว่าการบริโภคกรดไขมันอิ่มตัวไม่ควรเกิน 10% ของแคลอรี่ทั้งหมด
คำนวณตามแคลอรี่ประจำวัน 1800kcal ของผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่ไขมันอิ่มตัวควรมีการควบคุมให้อยู่ภายใน 18g ทั้งหมด สามารถแทนที่ด้วยน้ำมันหมูซึ่งมีประมาณ 50 g
หากไขมันในเลือดผิดปกติ คุณจำเป็นต้องควบคุมปากและจำกัดไขมันอิ่มตัวให้มากขึ้น
นอกจากน้ำมันหมูแล้ว ผมอยากให้ระวังอาหารแปรรูปพวก ไอศกรีม ,โดนัท, เค้ก,เนย ,คุกกี้, มันฝรั่งทอด...
รู้ไหมครับว่า...คุกกี้โอรีโอ 2 ชิ้นมีไขมันอิ่มตัว 5 กรัม และน้ำตาล 9 กรัม! นั่นทำให้หมดกังวลกับปัญหาการกินอย่างมีความสุข?
ถ้าเขียนถึงการกินอาหารคำโตๆอย่างมีความสุข... มีวิดีโอเคล็ดลับมากมายบนอินเทอร์เน็ตที่แสดงให้เห็นว่า "ไก่ชิ้นใหญ่,หมูสเต็ก ที่ติดกาวด้วยเนื้อสับ
เมื่อพูดถึง กาว คุณกล้ากินไหม"?
กลไก "กาว" ก็คือ ทรานส์กลูตามิเนส หรือที่เรียกว่า TG เอ็นไซม์กาวติดเนื้อ ซึ่งช่วยให้โปรตีนในเนื้อบดสามารถรวมกันเป็นชิ้นเนื้อเดียวกันได้ทั้งหมด
ตามที่เราเรียนรู้ในชีววิทยาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นว่าเอ็นไซม์เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ดังนั้น หลังจากกินเข้าไป พวกมันจะถูกย่อยเป็นกรดอะมิโนเหมือนกับโปรตีนอื่น ๆ โดยไม่มีอันตราย
ลองนึกถึงการกินสเต็กพอร์คชอปสักชิ้นกับหลายร้อยชิ้น...จริงๆแล้วกินยากนะครับ เพราะคุณจะอิ่มเสียก่อน ...ฮาาาาาาาาาา
แต่ มาตอนนี้เราสามารถกินสเต็กพอร์คชอปสองถึงสามชิ้นในคราวนึงได้แล้ว
อร่อยมั้ย? แน่นอน คุณยังสามารถกินพอร์คชอปและสเต็ก "ของจริง" ได้ ตราบใดที่กระเป๋าตังค์หนาพอ แต่ต้องแน่ใจว่ามันปรุงอย่างทั่วถึง
แต่อย่าลืม...สเต็กเนื้อออริจินัลที่ด้านในปลอดเชื้อและไม่จำเป็นต้องปรุงให้สุกอย่างทั่วถึง ในขณะที่เนื้อสับนั้นทำขึ้นโดยมีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์
มากันที่หมูเนื้อนุ่มกันบ้าง
เมื่อตอนนี้ “เทนเดอร์ลิ่ง” ได้กลับมาเพิ่มความเอร็ดอร่อยให้เนื้อ?
เนื้อนุ่มในตำนานก็คือ...คาราจีแนน
หมากฝรั่งนี้ถูกกล่าวถึงในเรื่องเกี่ยวกับโยเกิร์ต มันคือโพลิแซ็กคาไรด์จากพืชและสารเติมแต่งที่เข้ากันได้ การเติมลงในเนื้อสัตว์จะทำให้เนื้อนุ่ม
และถ้าคุณชอบไส้กรอกอย่างจริงจัง...
เมนูเนื้อในระหว่างอาหารกลางวันแบบไส้กรอก...
ผมอยากบอกว่ามันทำมาจาก "ของเหลือ"?
ในมาตรฐานแห่งชาติสำหรับผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอกแฮม ไส้กรอก และเนื้อแปรรูป ข้อกำหนดด้านวัตถุดิบจะต้องดำเนินการตาม GB 9959.1 "มาตรฐานสำหรับหมูสดและแช่แข็ง" และ GB/T9959.2 "มาตรฐานสำหรับการแยกส่วน เนื้อหมูติดมันสดและแช่แข็ง"
ไก่ ,เป็ด และปลาสามารถนำมาทำเป็นไส้กรอกแฮมได้ ดังนั้นจะมีการอ้างอิงมาตรฐานระดับชาติสำหรับผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกสดและแช่แข็งนี้เช่นกัน
กล่าวคือ หมูสดแช่แข็งที่คุณซื้อนั้นใช้มาตรฐานอะไร?
และอะไรคือมาตรฐานของเนื้อดิบในไส้กรอกแฮมและเนื้อแปรรูป
ซึ่งต้องเป็นไปตามตัวชี้วัดทางประสาทสัมผัส ,กายภาพ ,เคมี และจุลชีววิทยา และผ่านการตรวจสอบการกักกัน
การทำเนื้อแปรรูปไม่ได้หมายความว่าเนื้อสัตว์ด้อยคุณภาพและไม่ปลอดภัย
แม้ว่าจะใช้เศษบางๆและเนื้อสับก็จริง แต่ก็ไม่ส่งผลต่อความปลอดภัย
ในความเป็นจริงเกลือและไขมัน ควรจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะใส่ใจ เมื่อกินไส้กรอกแฮมและเนื้อสัตว์แปรรูปนี้
เนื้อไม่ติดมัน 100 กรัมมีไขมันเพียง 6 กรัม,ไส้กรอกคีโต Shuanghui King Zhongwang (60 กรัม) มีไขมัน 8.4 กรัมและโซเดียม 660 มก. ปริมาณโซเดียมคิดเป็นมากกว่า 1/3 ของความต้องการรายวันของผู้ใหญ่
อาหารกลางวันแสนอร่อย สามารถเพิ่มปริมาณไขมันของเนื้อสัตว์นั้นให้สูงขึ้นไปได้อีก
แล้วสิ่งที่มากับหมูล่ะ?
...โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร... ปัจจุบันเรายังกินหมูโดยไม่ต้องกังวลใจได้ไหม?
ความร้ายแรงของเหตุการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู คือเมื่อหมูติดเชื้อแล้วแทบจะตายทุกตัวและแพร่กระจายจากสิบเป็นร้อย และไม่มีวัคซีนให้ป้องกัน ส่งผลให้หมูเสียชีวิตเป็นจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจมหาศาล และฟาร์มหมูขาดทุน
ดังนั้นเมื่อเกิดโรคระบาด หมูที่ป่วยจะถูกคัดออก และความน่าจะเป็นในการซื้อหมูที่เป็นโรคระบาดก็ต่ำมาก
การให้ความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 60°C เป็นเวลา 30 นาทีสามารถยับยั้งไวรัสโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูได้
ดังนั้นแม้ว่าคุณจะซื้อ ตราบใดที่คุณกินหมูที่ปรุงแล้ว คุณไม่ต้องกังวลกับไวรัสและแบคทีเรีย
หมูอร่อยนะ สเต็กเนื้อสันใน, หมูผัดสับปะรดเปรี้ยวหวาน, หมูตุ๋น, ย่างกีบเท้าคากิ, หมูสะเต๊ะ, ไส้กรอก, ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน , ซี่โครงหมูอบเกลือ , หมูสไลด์
ผมขอรายงานชื่อเมนูอาหารอีกครั้งนะครับทุกคน...แฮร์
เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าอาหารจาน(แพงๆรับปีใหม่)ไหนที่คุณชื่นชอบที่สุด ?
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
