Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไฉไลเป็นบ้า
•
ติดตาม
20 พ.ย. 2021 เวลา 18:46 • ข่าว
"วัดร้าง" ทั่วไทยเพิ่ม 1,485 แห่ง วิกฤตวงการสงฆ์เสื่อมศรัทธา?
1
เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา เว็บไซต์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยข้อมูลทะเบียนศาสนสมบัติกลางและวัดร้างทั่วประเทศ ปี 2564 รวมทั้งสิ้น 1,485 แห่ง
น่าคิดมากว่าสาเหตุที่วัดร้างมาจากพระน้อยลง หรือขาดแคลนคนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ทั้งๆที่ไทยคือเมืองพุทธ ประเทศที่ให้ความสำคัญกำหนดศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ
ย้อนกลับไปดูสถิติวัดร้างปี 2552 มีข่าวว่าที่ จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านไปทำบุญวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา แล้วปรากฏว่าไม่พบพระหรือเณรจำพรรษา
มีการสำรวจพบอีกว่าในปีนั้น 32 วัดไม่มีพระ-เณร
336 วัดมีพระเพียง 1 รูป
226 วัด มีพระ-เณรแค่ 2 รูป
โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 7-8 ก.ค.2552 ที่ชาวบ้านพากันไปทำบุญช่วงเข้าวันพรรษา ทราบภายหลังว่าไม่มีพระอยู่มานานหลายเดือนแล้ว
ปี 2553 พศ. เผยว่ามีวัดร้างทั่วประเทศประมาณ 5,800 แห่ง
เดือน ก.ย.2558 ถัดมาอีก 5 ปี สถิติวัดร้างปีนั้นทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 193 แห่ง
ปี 2562 จำนวนวัดที่มีพระสงฆ์อยู่ที่41,310 แห่ง โดย จ.เชียงใหม่มี 1,258 วัด เป็นสำนักสงฆ์กว่า 470 แห่ง
เฉพาะในเขตตัวเมือง จ.เชียงใหม่มีวัดร้างมากถึง 495 แห่ง
จากปี 2558 มีวัดร้าง193แห่ง ล่าสุดปีนี้ มีวัดร้างทั่วประเทศ 1,485 แห่ง แค่เพียง 6ปีผ่านไปเท่านั้นจำนวนพุ่งขึ้นมาก และหากเอาจำนวนวัดร้างเมื่อปี 2553 มานับรวม ก็น่าจะมีวัดร้างมากกว่า 7,000 แห่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมา 2563 มีกรณีวัดร้างที่ถูกยกขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา โดยเข้าที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 20 พ.ค.
ขั้นตอนในการยกวัดร้างกรณีนี้ขึ้นเป็นวัดมีพระจำพรรษา เริ่มต้นที่เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ได้มีลิขิต ลงวันที่ 20 พ.ย.2561 แจ้งว่า ได้ส่งรายงานการขอยก วัดสินศรี (ร้าง) ตั้งอยู่ที่ บ้านนาส้มมอ หมู่ที่ 3 ต.ท่าหลวง อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
โดยพระอุดมปรีชาญาณ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ นายรังสิยศ งามฤทธิ์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ และนายบรรหาร เมตไตรพันธุ์ นายช่างโยธาชำนาญงาน ได้ไปตรวจสอบแล้ว มีความเห็นสรุป ดังนี้
วัดสินศรี (ร้าง) ที่ดินของวัดมีจำนวน 11 ไร่ 2 งาน 37 ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 51970
อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ กุฏิสงฆ์ 4 หลัง ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ โรงครัว โรงเก็บของ หอกลอง ฌาปนสถาน และห้องน้ำ 2 หลัง 7 ห้อง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา 5 รูป
มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ 1,400 คน
การขอยก วัดสินศรี (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง การสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย และการยุบเลิกวัด การขอรับพระราชทาน-วิสุงคามสีมา และการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ. 2559 ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 โดยผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองและเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับจนถึงเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และสมเด็จพระพุฒาจารย์ ผู้พิจารณากลั่นกรองการขอยกวัดร้างฯ ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา
จะเห็นได้ว่า มีขั้นตอนที่ต้องเสนอประมาณ 2 ปี ผ่านหลายตำแหน่งทั้งเจ้าคณะและเจ้าประคุณสมเด็จมากมาย อีกทั้งต้องออกตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
ร้างแล้วยกขึ้นมาเหมือนเดิมยากมาก ส่วนเวลาจะร้างนั้นบางกรณีเจ้าอาวาสสึกไปมีเมีย เมื่อวัดไร้สมภารบรรดาพระลูกวัดก็ต้องย้ายออกไปโดยปริยายเพื่อให้มีสังกัด
นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเมษายน 2558 ระบุความหมายของ"วัดร้าง” คือพุทธสถานที่หมดหน้าที่ใช้งานอย่างเป็นทางการไปแล้ว มีตั้งแต่การขาดพระสงฆ์จำพรรษาประจำวัด การถูกยุบรวมกับวัดอื่น ๆ ไปจนถึงถูกทำลายโดยภัยหายนะ สงคราม จนกระทั่งกลายเป็นเศษซากโบราณสถาน บางแห่งเหลือไว้เพียงชื่อและตำแหน่งที่จดจำต่อ ๆ กันมา
การจะสร้างวัดสักแห่งจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยิ่งต้องมีโยมอุปัฏฐากคอยเป็นกิจธุระด้วยแล้ว ทำให้วัดที่ไม่ใหญ่ไม่ดังอยู่ลำบาก
ชาวบ้านเดี๋ยวนี้แห่ไปทำบุญกับวัดที่ให้โชคลาภ จะสร้างอะไรสักอย่างเงินทองระหว่างวัดพระอารามหลวงกับวัดบ้านนอกก็ต่างกัน… นี่หรือเมืองพุทธ
พระบางรูปอยู่วัดว่างๆไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่นั่งสมาธิ ไม่บิณฑบาตร ไม่สนใจออกธุดงค์
ที่เป็นข่าวตั้งวงมั่วสุมก็มีให้เห็นบ่อยๆ
พระสงฆ์เองก็ต้องตามโลกให้ทัน แต่พอจะใช้วิธีบรรยายธรรมให้คนรุ่นใหม่ฟังก็โดนตำหนิ
คือสาเหตุเล็กๆน้อยๆที่สั่งสมกันมามากมาย ทำให้สถิติวัดร้างเพิ่มขึ้นหลายเหตุผล
วงการศาสนาก็ต้องสังคายนากันทั้งระบบเช่นกันถ้ายังต้องอยู่ให้รอดบนโลกใบนี้ เหมือนคนทั้งโลกที่ต้องอยู่กับโควิดให้รอด
ทุกอย่างล้วนต้องเปลี่ยนแปลง
++
เครดิตภาพ : TanyakanYanaso
"วัดร้าง" ทั่วไทยเพิ่ม 1,485 แห่ง วิกฤตวงการสงฆ์เสื่อมศรัทธา?
เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา เว็บไซต์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยข้อมูลทะเบียนศาสนสมบัติกลางและวัดร้างทั่วประเทศ ปี 2564 รวมทั้งสิ้น 1,485 แห่ง
น่าคิดมากว่าสาเหตุที่วัดร้างมาจากพระน้อยลง หรือขาดแคลนคนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ทั้งๆที่ไทยคือเมืองพุทธ ประเทศที่ให้ความสำคัญกำหนดศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ
ย้อนกลับไปดูสถิติวัดร้างปี 2552 มีข่าวว่าที่ จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านไปทำบุญวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา แล้วปรากฏว่าไม่พบพระหรือเณรจำพรรษา
มีการสำรวจพบอีกว่าในปีนั้น 32 วัดไม่มีพระ-เณร
336 วัดมีพระเพียง 1 รูป
226 วัด มีพระ-เณรแค่ 2 รูป
โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 7-8 ก.ค.2552 ที่ชาวบ้านพากันไปทำบุญช่วงเข้าวันพรรษา ทราบภายหลังว่าไม่มีพระอยู่มานานหลายเดือนแล้ว
ปี 2553 พศ. เผยว่ามีวัดร้างทั่วประเทศประมาณ 5,800 แห่ง
เดือน ก.ย.2558 ถัดมาอีก 5 ปี สถิติวัดร้างปีนั้นทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 193 แห่ง
ปี 2562 จำนวนวัดที่มีพระสงฆ์อยู่ที่41,310 แห่ง โดย จ.เชียงใหม่มี 1,258 วัด เป็นสำนักสงฆ์กว่า 470 แห่ง
เฉพาะในเขตตัวเมือง จ.เชียงใหม่มีวัดร้างมากถึง 495 แห่ง
จากปี 2558 มีวัดร้าง193แห่ง ล่าสุดปีนี้ มีวัดร้างทั่วประเทศ 1,485 แห่ง แค่เพียง 6ปีผ่านไปเท่านั้นจำนวนพุ่งขึ้นมาก และหากเอาจำนวนวัดร้างเมื่อปี 2553 มานับรวม ก็น่าจะมีวัดร้างมากกว่า 7,000 แห่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมา 2563 มีกรณีวัดร้างที่ถูกยกขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา โดยเข้าที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 20 พ.ค.
ขั้นตอนในการยกวัดร้างกรณีนี้ขึ้นเป็นวัดมีพระจำพรรษา เริ่มต้นที่เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ได้มีลิขิต ลงวันที่ 20 พ.ย.2561 แจ้งว่า ได้ส่งรายงานการขอยก วัดสินศรี (ร้าง) ตั้งอยู่ที่ บ้านนาส้มมอ หมู่ที่ 3 ต.ท่าหลวง อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
โดยพระอุดมปรีชาญาณ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ นายรังสิยศ งามฤทธิ์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ และนายบรรหาร เมตไตรพันธุ์ นายช่างโยธาชำนาญงาน ได้ไปตรวจสอบแล้ว มีความเห็นสรุป ดังนี้
วัดสินศรี (ร้าง) ที่ดินของวัดมีจำนวน 11 ไร่ 2 งาน 37 ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 51970
อาคารเสนาสนะที่สร้างแล้ว คือ กุฏิสงฆ์ 4 หลัง ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ โรงครัว โรงเก็บของ หอกลอง ฌาปนสถาน และห้องน้ำ 2 หลัง 7 ห้อง มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา 5 รูป
มีประชาชนให้การสนับสนุนทำนุบำรุงวัดประมาณ 1,400 คน
การขอยก วัดสินศรี (ร้าง) ขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง การสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย และการยุบเลิกวัด การขอรับพระราชทาน-วิสุงคามสีมา และการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ. 2559 ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 โดยผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองและเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับจนถึงเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และสมเด็จพระพุฒาจารย์ ผู้พิจารณากลั่นกรองการขอยกวัดร้างฯ ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา
จะเห็นได้ว่า มีขั้นตอนที่ต้องเสนอประมาณ 2 ปี ผ่านหลายตำแหน่งทั้งเจ้าคณะและเจ้าประคุณสมเด็จมากมาย อีกทั้งต้องออกตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
ร้างแล้วยกขึ้นมาเหมือนเดิมยากมาก ส่วนเวลาจะร้างนั้นบางกรณีเจ้าอาวาสสึกไปมีเมีย เมื่อวัดไร้สมภารบรรดาพระลูกวัดก็ต้องย้ายออกไปโดยปริยายเพื่อให้มีสังกัด
นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเมษายน 2558 ระบุความหมายของ"วัดร้าง” คือพุทธสถานที่หมดหน้าที่ใช้งานอย่างเป็นทางการไปแล้ว มีตั้งแต่การขาดพระสงฆ์จำพรรษาประจำวัด การถูกยุบรวมกับวัดอื่น ๆ ไปจนถึงถูกทำลายโดยภัยหายนะ สงคราม จนกระทั่งกลายเป็นเศษซากโบราณสถาน บางแห่งเหลือไว้เพียงชื่อและตำแหน่งที่จดจำต่อ ๆ กันมา
การจะสร้างวัดสักแห่งจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยิ่งต้องมีโยมอุปัฏฐากคอยเป็นกิจธุระด้วยแล้ว ทำให้วัดที่ไม่ใหญ่ไม่ดังอยู่ลำบาก
ชาวบ้านเดี๋ยวนี้แห่ไปทำบุญกับวัดที่ให้โชคลาภ จะสร้างอะไรสักอย่างเงินทองระหว่างวัดพระอารามหลวงกับวัดบ้านนอกก็ต่างกัน… นี่หรือเมืองพุทธ
พระบางรูปอยู่วัดว่างๆไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่นั่งสมาธิ ไม่บิณฑบาตร ไม่สนใจออกธุดงค์
ที่เป็นข่าวตั้งวงมั่วสุมก็มีให้เห็นบ่อยๆ
พระสงฆ์เองก็ต้องตามโลกให้ทัน แต่พอจะใช้วิธีบรรยายธรรมให้คนรุ่นใหม่ฟังก็โดนตำหนิ
คือสาเหตุเล็กๆน้อยๆที่สั่งสมกันมามากมาย ทำให้สถิติวัดร้างเพิ่มขึ้นหลายเหตุผล
วงการศาสนาก็ต้องสังคายนากันทั้งระบบเช่นกันถ้ายังต้องอยู่ให้รอดบนโลกใบนี้ เหมือนคนทั้งโลกที่ต้องอยู่กับโควิดให้รอด
ทุกอย่างล้วนต้องเปลี่ยนแปลง
++
เครดิตภาพ : TanyakanYanaso
บันทึก
7
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย