21 พ.ย. 2021 เวลา 23:52 • ไลฟ์สไตล์
Shoes review
ขอใช้พื้นที่นี้ในการได้เล่าถึงรองเท้าดี ๆ ที่เคยผ่านมือมาบ้างนะครับ คือความรู้สึกเวลาได้คู่ดี ๆ มา เอามาแกะกล่องดู มันตื่นเต้นยังกับแกะของขวัญวันปีใหม่อะไรยังงั้น เลยขอมาเล่าต่อนิดนึง
คู่ในรูปคือ John Lobb รุ่น Chapel คนชอบรองเท้าทุกคนคงอยากมี John Lobb กันไว้ซักคู่ ก็มันป็นแบรนด์สุดไฮโซนี่ครับ เปิดในกรุงลอนดอนมาเป็นร้อยปี ผลิตรองเท้าให้ราชวงศ์กับคนดัง ๆ ทั้งนั้น ต่อมาพอขยายกิจการไปปารีสได้พักนึง ก็ขายกิจการให้ Hermes แต่ยกเว้นร้านใน London ร้านเดียวที่ยังเป็นของตระกูล Lobb แล้วก็ผลิตแต่รองเท้าสั่งตัดเท่านั้น ดังนั้นรองเท้าที่มีในตลาดคือรองเท้าที่ผลิตภายใต้การดำเนินงานของ Hermes เกือบทั้งหมด
รองเท้าที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์นี้มี 2 รุ่น คือ double monk straps กับ loafers รุ่น Lopez โดยเฉพาะ Double monk strap นี่คือ เค้าเป็นคนติดค้นเป็นเจ้าแรกของโลกตั้งแต่ปี 1940 โดย William Lobb เจ้าของรุ่นที่ 2 (ถ้าจำไม่ผิดอะนะ) ก่อนที่มันจะเป็นที่นิยมขนาดแบรนด์อื่นต้องก๊อปกันไปทุกแบรนด์ ทุกวันนี้ double monk straps รุ่น John Lobb William ก็ยังมีขายแล้วก็ยังฮิตไม่เลิกกันทีเดียว
กลับมาพูดถึง รุ่น Chapel อีกที คือรุ่นนี้เป็นรองเท้าใน Prestige line (เดี๋ยวค่อยเล่าวันหลัง ว่ามันคืออะไร เอาเป็นว่ามันแพงกว่ารุ่นทั่วไป มือหนึ่งคือ 7 หมื่นกว่าบาท) ความเทพของรุ่นนี้คือด้านบนทำจากหนังแผ่นเดียว ตั้งแต่สายคาดยันหัวรองเท้า! ตอนแรกที่รู้จักรุ่นนี้คือตะลึงกับความคือสร้างสรรค์ของมันมาก ๆ รองเท้า whole cut ก็ใช่ว่าจะไม่มีให้เห็น แต่ไม่คิดว่ารองเท้า double monk straps มันจะตัดแบบ whole cut ได้ด้วย เค้าทำยังไงน่ะเหรอครับ ก็คือตัดหนังมาแผ่นเดียว แล้วเย็บเป็นเกลียวขึ้นไปน่ะสิ ถ้านึกภาพไม่ออก ก็เหมือนเอาเวเฟอร์แผ่นเดียวมาม้วนเป็นโคนไอศกรีมนั่นแหละครับ จะเห็นว่ามีรอยเย็บแค่จุดเดียวคือข้างรองเท้าด้านใน ส่วนด้านหลังส้นกับข้างเท้าด้านนอกไม่มีการเย็บใด ๆ เหมือนที่รองเท้า double monk คู่อื่นมีกัน
โฆษณา