22 พ.ย. 2021 เวลา 08:47 • หนังสือ
#อาร์เทอร์แชมป์ที่โหล่ จาก แพรวสำนักพิมพ์ เล่าถึงชีวิตของอาร์เทอร์เด็กชายธรรมดาในครอบครัวที่ไม่ธรรมดา อาร์เทอร์ถือกำเนิดขึ้นในครอบครัววิปเปิล ครอบครัวที่มีสถิติการทำลายสถิติโลกมากที่สุด ทุกวินาทีของครอบครัววิปเปิลคือการพยายามทำลายสถิติใหม่ๆอยู่เสมอ แต่ไม่ใช่กับอาร์เทอร์ เด็กชายไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย ซ้ำยังไม่เคยสร้างสถิติใดเพิ่มให้กับตระกูลวิปเปิลได้เลย นั่นทำให้เขารู้สึกแปลกแยกและไม่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อทุกการกระทำของเขาไม่ได้ถูกประเมินจากความพยายามและทุ่มเท แต่วัดค่าจากความสำเร็จและสถิติที่ต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น
ในตอนแรกเราเข้าใจว่าจะเป็นหนังสือที่เล่าถึงประเด็นของครอบครัว ความสำเร็จ ความหมายของการเป็นที่หนึ่ง และความสุขของชีวิต แต่ที่ไหนได้กลับมีเรื่องของการสืบสวนและความชุลมุนวุ่นวายเข้ามาเกี่ยวด้วย โดยมีจุดเริ่มต้นจากคำสาปประจำตระกูลวิปเปิลที่ได้รับการกล่าวถึงตั้งแต่ต้นเรื่อง จากนั้นคำสาปนั้นก็ค่อยๆเผยตัวออกมาอย่างช้าๆ ครอบครัววิปเปิลต้องพบกับเรื่องราวไม่คาดฝันที่เป็นมากกว่าอุบัติเหตุธรรมดาอยู่หลายครั้ง ไหนจะการหวนคืนสู่วงการของตระกูลคู่แข่งที่หายหน้าไปนานอีก เรียกได้ว่าหายนะแท้ๆ
เป็นเรื่องที่อ่านได้เพลินและครบรสมาก มีทั้งตื่นเต้น สนุก ทึ่ง อึดอัด และเศร้าใจ เผลอแป๊ปเดียวก็จบเล่มแล้ว คือถ้าได้อ่านจะรู้ว่าประเด็นในเรื่องมันเยอะและน่าสนใจมากจนเราสงสัยว่ามันจะจบในเล่มจริงๆเหรอ หรือจะหักมุมยังไง แต่สรุปแล้วเหมือนว่าจริงๆเล่มนี้จะมีเล่มต่อ แต่ว่าไม่ได้ถูกนำมาแปลเป็นภาษาไทย น่าเสียดายเหมือนกันเพราะเนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นน่าติดตามเลย อยากรู้ว่าบทสรุปของเรื่องราวน่าปวดหัวนี้จะจบลงยังไงกันแน่ เพราะมีตัวละครบางตัวที่เราหมั่นไส้มากจริงๆจนอยากเห็นว่าฉากสุดท้ายของตานี่จะเป็นแบบไหน 🤣
เราชอบที่เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าการที่พ่อแม่ของอาร์เทอร์ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวเขาและมักมองว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรมันส่งผลกระทบอะไรกับความรู้สึกนึกคิดของอาร์เทอร์บ้าง คือจริงอยู่ว่าพ่อแม่ของเขาเนี่ยรักเขามาก และก็คอยเป็นกำลังใจให้เสมอ แต่ก็ชัดเจนว่าสิ่งที่พวกเขาคาดหวังจากลูกชายคนนี้คือการที่เด็กชายต้องประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่นๆ เป็นการกดดันที่ทำให้อาร์เทอร์รู้สึกเหมือนเขาถูกผลักออกมาอยู่วงนอกของครอบครัวตัวเอง รวมถึงทำให้เขาไม่มั่นใจในตัวเองด้วยเช่นกัน นั่นจึงทำให้เมื่อเขาเห็นอะไรบางอย่างที่สัญชาตญาณของเขาบอกว่าไม่ดีแน่ เขากลับไม่ยอมเชื่อและไม่กล้าที่จะบอกพ่อแม่ เพราะกลัวว่าจะโดนดุ
แต่เรารักตัวละครนี้ก็ตรงที่ถึงแม้เขาจะอยากได้รับการยอมรับจากครอบครัวแค่ไหน เขาก็ไม่ปล่อยให้ความทะเยอทะยานนั้นมาครอบงำจิตใจอันบริสุทธิ์ของเขา (ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขามองว่าตัวเองไม่มีวันทำสำเร็จก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า) หลายๆเหตุการณ์ในเรื่องทำให้เราได้รู้ว่าถึงแม้เขาจะไม่ค่อยเชื่อมั่นในสัญชาตญาณตัวเองนัก แต่เมื่อถึงเวลาคับขันเขาก็กล้าที่จะเสี่ยงไปกับมันและยอมละทิ้งสิ่งที่จะทำให้เขาได้กลับไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างแท้จริง เพื่อทำในสิ่งที่เขาควรทำมากที่สุดและถึงแม้จะเสียใจที่ทำให้ครอบครัวผิดหวังอีกครั้ง แต่เขาก็ดูจะไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่เขาตัดสินใจทำลงไปขนาดนั้น
“โดมิโนตัวนี้พิเศษพอๆกับตัวแรกและตัวสุดท้าย เพราะหากไม่มีโดมิโนตัวนี้ทุกอย่างก็จะหยุดชะงัก และนั่นคือสิ่งที่มอบพลังให้โดมิโนวิเศษตัวนี้ไงล่ะ”
อาร์เทอร์อาจจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดของครอบครัว ไม่ใช่คนที่ทำแต้มแรก และไม่ใช่คนที่คว้าแต้มสุดท้ายที่ส่งพวกเขาให้เป็นที่หนึ่งมาได้ แต่เขาก็คือส่วนหนึ่งของครอบครัว คือแรงสนับสนุนทั้งหมดที่พ่อแม่พี่น้องต้องการ เพราะถ้าไม่มีเขาทุกคนอาจจะไม่สามารถสร้างสรรค์สถิติใหม่ๆได้อย่างที่เป็นอยู่ แต่เพราะอาร์เทอร์ที่พร้อมจะยอมรับความผิดพลาดและแก้ไขมัน พร้อมที่จะรับมือกับทุกปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยใจที่เปิดกว้าง และพร้อมที่จะละทิ้งความต้องการของตนเพื่อผลักดันให้คนที่เขารักประสบความสำเร็จ ครอบครัววิปเปิลจึงยังคงยืนหยัดอยู่ได้และสร้างสถิติมากมายที่น่าพึงพอใจ สิ่งนี้แหละที่ทำให้เราคิดว่าอาร์เทอร์เป็นคนสำคัญของครอบครัวมากกว่าที่เขาจะรู้ได้
อีกอย่างคืออาร์เทอร์ไม่ใช่คนอวดเก่งอะไรที่จะทำเป็นว่าตัวเองเก่งในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้จริงๆ เขาเป็นตัวละครตัวเดียวของเรื่องเลยมั้งที่ยังคงพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะเขาไม่เคยเป็นเจ้าของสถิติใดๆ ทำให้เขาต้องพยายามให้มากขึ้นตลอดเวลา กลับกันคนที่เป็นเจ้าของสถิติบางคนนั้นแทนที่จะพยายามรักษาตำแหน่งไว้อย่างสุดความสามารถ กลับเอาตำแหน่งพวกนั้นมาหลอกตัวเองว่าตนเก่งที่สุดจนทำให้ความสามารถถดถอยลง แต่ก็ยังคงอีโก้จัดไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ทั้งที่จริงๆแล้วการเป็นที่หนึ่งในโลกมันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตเลยด้วยซ้ำ การมีชีวิตอยู่และตั้งใจใช้ชีวิตอย่างดีต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ปล.จริงๆอยากให้มีเล่มต่อออกมานะ เพราะยังมีหลายเรื่องเลยที่ยังไม่เคลียร์ แบบทิ้งปมค้างไว้เยอะมากจริงๆ จบแบบนี้มันรู้สึกไม่สุดยังไงไม่รู้ หวังว่าสำนักพิมพ์จะตีพิมพ์เล่มต่อออกมา ถึงจะห่างกับเล่มแรกไปหน่อยก็ไม่เป็นไร รออ่านฮะ
โฆษณา