23 พ.ย. 2021 เวลา 01:40 • คริปโทเคอร์เรนซี
📌 Pionex คืออะไร
Pionex คือ Exchange สำหรับซื้อ-ขาย Cryptocurrency เหมือนกับ Bitkub หรือ Binance ที่คนทั่วไปนิยมใช้
Pionex เป็น Exchange ที่มี Volume การซื้อขายติด Top 20 ของโลก
💖 Pionex ดียังไง
1. จุดเด่นเลย คือ มี Bot Trading (จริงบางอันก็ไม่ได้เรียกว่าบอท) ให้ใช้ฟรีมากกว่า 14 แบบ อาทิเช่น Grid Trading, Martingale bot, Spot-future Arbitrage bot, Rebalancing Bot ฯลฯ
2. Trading fee ถูกกว่า Binance (กรณีใช้ USDT เทรด) และแน่นอนว่าถูกกว่า Exchange เจ้าดังของไทยแน่นอน (The maker and the taker fee is 0.05% of the transaction)
3. สามารถใช้ Smart trade ได้ พวก Trailing sell, Trailing buy
4. มัน DCA ได้ด้วยนะ สำหรับนักเทรดสายอดทน สามารถ DCA ได้ตั้งแต่ช่วง 10 นาที จนถึง 1 เดือน
5. คู่เหรียญที่มีให้เทรด อาจจะน้อยกว่า Binance แต่เหรียญดังๆ มีครบ รวมถึงเหรียญกาว เหรียญต้นน้ำบางเหรียญที่ยังไม่มีลิสต์บน Binance ที่นี่ก็มีนะ
1
📝มารู้จักกับบอทแต่ละตัวใน Pionex กันดีกว่า (ขออธิบายแต่ละตัวคร่าวๆ นะ)
ขอเพิ่มเรื่องบอทนิดนึง หากถามว่าบอทของ Pionex ดีกว่าบอทตัวอื่นๆ ที่มีขายตามท้องตลาดยังไง
ข้อดีคือ มันมีระบบ AI setting เป็นเหมือน Guildline ให้ (ดูแล้วไม่ได้เหมือน AI ซักเท่าไร) ซึ่งทำให้คนที่ไม่มีความรู้ด้านนี้ก็สามารถพอเปิดบอทได้
หรือถ้าคุณเป็นมืออาชีพ ก็สามารถ Custom Settings ได้เอง
🤖 Grid Trading
ถ้าคุณเคยรู้จัก Grid Trading อยู่แล้ว มันก็เหมือน Grid Trading ที่คุณรู้จักนั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลย
สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จัก Grid Trading เลย
Grid Trading (แบบเบสิค) คือ การวาง Position การซื้อ-ขาย เป็นขั้นๆ ระยะห่างเท่ากัน, จำนวนเงินที่ใช้ในแต่ละช่วงเท่ากัน
โดยวางการ Position การซื้อไว้ในช่วงราคาต่ำๆ และวาง Position การขายในช่วงราคาที่สูงขึ้นจากราคาซื้อ
ตัวอย่างเช่น
ตั้งขาย -- 12$
ตั้งขาย -- 11$
ราคาปัจจุบัน -- 10$
ตั้งซื้อ -- 9$
ตั้งซื้อ -- 8$
ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 10$ เมื่อราคาต่ำลงเหลือ 9$ -- Bot จะทำการซื้อเหรียญที่ 9$ และตั้งขายที่ 10$
เมื่อราคาขยับขึ้นไปที่ 10$ -- Bot จะขายเหรียญที่ซื้อมาตอน 9$ ที่ราคา 10$
ดังนั้นมีราคามีการเหวี่ยงขึ้น เหวี่ยงลง Bot จะซื้อขายเหรียญไปมาเรื่อยๆ กำไรที่เราได้ เกิดขึ้นจากการแกว่งของราคาของเหรียญนั้นๆ
⛔️ สิ่งที่ควรศึกษาเพิ่มเติมของ Grid Trading คือ
- ประเภทของ Grid Trading
- การวาง Grid --> ช่วงราคาที่เหมาะสม, ระยะห่างของ Grid แต่ละช่วง
- Trend ไหนที่เหมาะกับ Grid trading
ศึกษาได้ที่ Channel นี้เลย ทำไว้ดีมาก
1
🤖 Martingale Bot
Martingale Theory คิดค้นขึ้นมาจากการเล่นพนัน หลักการคือ การเพิ่มเงินพนันเป็น 2 เท่าของการลงพนันในครั้งแรก (กรณีที่เสีย)
เช่น เมื่อวางเดิมพันครั้งแรกที่ 1$ แล้วถูกกิน ให้วางเดิมพันครั้งถัดไปที่ 2$ หากถูกกินอีก ให้วางเดิมพันครั้งถัดไปที่ 4$ เพิ่มขึ้นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ยิ่งรอบการพนันเยอะขึ้นมากเท่าไร โอกาสที่เราจะชนะจะสูงขึ้นมากเท่านั้น
รอบแรกที่เล่น อัตราการชนะจะอยู่ที่ 50%
รอบที่สอง อัตราการชนะจะอยู่ที่ 75%
รอบที่สาม อัตราการชนะจะอยู่ที่ 87.5%
รอบที่สี่ อัตราการชนะจะอยู่ที่ 93.75%
หรือความน่าจะเป็น อยู่ที่ 1-0.5^(จำนวนรอบ)
Martingale bot ตัวนี้ก็ใช้วิธีเดียวกันในการเทรดคู่เหรียญ
เราสามารถตั้งค่าเป้าหมายในการทำกำไร เช่น ตั้งทำกำไร (Take Profit) ไว้ที่ 2%
แทนที่จะตั้งจุดยอมแพ้ (Stop Loss) แต่ไปตั้งสิ่งที่เรียกว่า
1. Price scale - เปอร์เซ็นของราคาที่ไปผิดทาง
2. Volume scale - จำนวนเงินเดิมพันไม้ถัดไปที่จะลง
2. Safty order - จำนวนไม้ที่จะลงเพิ่ม
เช่น Price Scale (1.5%), Volume scale (2.0), Safety Orders (😎
หมายถึง หากราคาลดต่ำลง 1.5 % ให้ทำการซื้อเหรียญเพิ่มด้วยเงิน 2 เท่า (Volume scale) (กรณีนี้เป็น 2 เท่าเพราะใช้กลยุทธ์ Martingale)
และจะทำการซื้อเหรียญเพิ่มไปเรื่อยๆ อีก 8 ไม้ ทุกๆ 1.5% ที่ราคาลดต่ำลง
จากตัวอย่างข้างบน จะเห็นราคา Bot ตัวนี้ครอบคลุมการตกของราคาที่ 1.5% X 8 = 12%
ถ้าหากเราซื้อที่ไม้แรกแล้วไม่ถัวไม้ถัดๆ ไป เราจะขาดทุนอยู่ 12%
แต่ถ้าหากเราถัวตามสูตรด้านบน เราจะขาดทุนอยู่ที่ 1.6%
ซึ่งโอกาสในการกลับมาทำกำไร จะง่ายกว่า การถือไม้แล้ว Hold ไว้
พูดถึงข้อดีแล้ว มาพูดข้อเสียอีกหลายร้อยอย่าง 555 (ไม่ถึงขนาดนั้น)
1. Martingale ต้องใช้เงินทุนมหาศาล จากตัวอย่างข้างบน หากใช้เงินลงทุนไม้แรกที่ 10$ เราต้องมีเงินพอที่จะซื้อถึงไม้ที่ 8 รวมแล้วทั้งหมด 5110$
ซึ่งเยอะมากๆ
2. การเซต Price Scale มีผลมากๆ หากราคาเหรียญดิ่งลงเกินจำนวน % ที่เราตั้ง cover ไว้ นั่นเท่ากับว่าเราดอยเหรียญนั้นด้วยเงินทุนกว่า 5110$
3. ถ้าหากต้องการให้ Cover การตกของราคาได้เยอะๆ ทำได้ 2 กรณี คือ การลดจำนวนเงินตั้งต้น, การลด Volume scale ให้น้อยกว่า 2 เท่า เพื่อให้มีเงินถัวได้มากขึ้น และ
การเพิ่ม Price Scale ให้สูงขึ้น ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ระยะเวลาในการรอคอยเหรียญกลับมาทำกำไร นานมากขึ้น
⛔️ สิ่งที่ควรไปศึกษาเพิ่ม
- ควรหา Price scale, Volume Scale และ Safety order ที่เหมาะสมกับจำนวนเงินทุนและเหรียญที่ต้องการเล่น
- ศึกษาเหรียญที่คุณจะเล่นว่า พฤติกรรมเป็นแบบไหน, Drawdown แต่ละครั้งเท่าไร
- ควรเล่นเหรียญที่มีอนาคต เหรียญที่คุณติดดอยแล้ว เดี๋ยวซักวันมันจะกลับมา
1
🤖 Spot-future Arbitrage bot
ตัวนี้จะเรียกว่า Bot ก็ไม่ถูกซักทีเดียว
Spot - future Arbitrage สรุปแบบสั้นๆ คือ การทำกำไรจากค่า Fee ที่ได้จากการ Hedging
วิธีการที่ Bot ตัวนี้ทำคือ การแบ่งเงินที่เราต้องการลงทุนออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน
ส่วนแรก จะใช้ไปซื้อเหรียญที่เราเลือกเอาไว้ที่จะทำ Hedging
ส่วนที่สอง จะนำเงินไปเปิด Position Short เหรียญที่เราเลือกไว้
แล้วแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเหรียญราคาขึ้นหรือลง
ถ้าเหรียญราคาขึ้น ฝั่งที่ซื้อเหรียญโดยตรงผ่าน Spot จะทำกำไรได้ ในขณะที่ฝั่ง Short จะขาดทุน แต่สองฝั่งได้กำไรและขาดทุนจำนวนที่เท่ากัน
ทำให้สุดท้ายแล้ว เราจะเท่าทุน และถ้าหากเหรียญราคาลงก็จะเป็นทำนองเดียวกัน เท่าทุนเหมือนกัน
ทำแบบนี้ไปทำไมล่ะ
ที่ทำแบบนี้เพื่อจะทำกำไรในส่วนที่เรียกว่า Funding Rate คือเงินส่วนต่างระหว่าง Futures price กับ Index Prices
กรณีที่ Future Price > index price เงิน Funding จากคนที่ถือ Long Position จะจ่ายให้กับ Short Position
กรณีที่ Future Price < index price เงิน Funding จากคนที่ถือ Short Position จะจ่ายให้กับ Long Position
โดยเงิน Funding ตรงนี้จะจ่ายให้ทุกๆ 8 ชั่วโมง
Spot-future Arbitrage bot ถือเป็น Bot ที่มีความเสี่ยงต่ำมากๆ ดังนั้น APR ที่ได้ก็จะไม่มาก อยู่ที่ 20-50% ต่อปี
⛔️ สิ่งที่ควรไปศึกษาเพิ่ม
- อันนี้มีข้อควรระวังเรื่องการ Luquidate ของการ Short position แต่ทาง Pionex มีระบบป้องกันเอาไว้ หากใกล้ถึงจุด Liquidate จะปิด Bot ทันที
- เนื่องจากความเสี่ยงต่ำมาก ก็คิดข้อความระวังอื่นๆ ไม่ได้ แนะนำว่าให้ไปศึกษาเพิ่มเติมเรื่องนี้ในเน็ตเอาอีกทีนึงก็จะดี
🤖 Rebalancing bot
มีให้เลือก 2 แบบ คือ
Dual-coin mode คือ เลือกคู่เหรียญเพียง 2 เหรียญ
Multi-coins mode คือ เลือกเหรียญได้มากกว่า 2 เหรียญขึ้นไป
Rebalance เหมือนหลักการลงทุนทั่วไป คือ การทำให้มูลค่าของเหรียญในพอร์ต คงอัตราส่วนเท่าเดิมเหมือนตอนแรกที่ตั้งค่าไว้
ซึ่งการ Rebalance ไม่ได้ช่วยให้ทำกำไร ได้ดียิ่งขึ้น แต่เป็นการลดความเสี่ยง และความผันผวนของมูลค่าเหรียญในพอร์ตได้
ตัวอย่าง Dual-coin (SOL 50%, USDT 50%) ลงทุน 500$ สมมติ SOL ราคา 250$
bot จะแบ่งเงินออกเป็น 250$ จำนวน 2 ก้อน ไปซื้อ SOL จำนวน 1 เหรียญ มูลค่า 250$
และเก็บเงิน USDT 250$ ไว้ในพอร์ต
กรณีที่เหรียญ SOL มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 260$ จะแบ่งขาย SOL ออกมา 5$ (จำนวน 0.0192307 หน่วย) มาเป็น USDT
ทำให้ตอนนี้มี SOL มูลค่า 255$ ในพอร์ต และ USDT 255$ ในพอร์ตเช่นกัน (SOL 50%, USDT 50%)
กรณีที่เหรียญ SOL มูลค่าลดลงเหลือ 235$ จะนำเงิน USDT จำนวน 10$ ไปซื้อ SOL
ทำให้ตอนนี้มี SOL มูลค่า 245$ ในพอร์ต และ USDT 245$ ในพอร์ตเช่นกัน (SOL 50%, USDT 50%)
⛔️ สิ่งที่ควรระวัง
- การเลือกคู่เหรียญที่จะมา Rebalance ควรเลือกคู่เหรียญที่มี Potential ด้วยกันทั้งหมด ไม่เช่นนั้น เราจะเหลือเหรียญที่มี Potential สูง จำนวนนิดเดียว
ในขณะที่มีเหรียญที่ไม่มีศักยภาพ อยู่เต็มพอร์ต
- หลักการของ Rebalance คล้ายกับหลักการผูก LP ของโลก Defi หากเข้าใจเรื่องนี้ก็สามารถต่อยอดไปฟาร์มในโลก Defi ได้ต่อ
- Trend ของเหรียญเป็นเรื่องสำคัญในการเริ่มต้น Rebalance หากอยากได้กำไรตั้งแต่เริ่มลงทุน
1
❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️
หลังจากนี้จะเป็น Bot แบบ Advance ซึ่งถ้าไม่เข้าใจ มีโอกาสทำให้คุณหมดตัว
จะขออธิบายคร่าวๆ เท่านั้น เพราะมีความเสี่ยงสูง
❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️❗️
🤖 Leveraged Grid
Leveraged Grid คือ Grid bot แบบที่สามารถใส่ Leverage เข้าไปในแต่ละช่วงของ Grid ได้ ทำให้เพิ่มกำไรในแต่ละช่วง
และเพิ่มอัตราการขาดทุนเช่นเดียวกัน โดย Leveraged Grid สามารถ เพิ่มอัตรา Leveraged ได้สูงสุด 5X
และมี interest อยู่ที่ 0.07%
🤖 Margin Grid
Margin Grid คือ Grid bot อีกเช่นเดียวกัน แต่คราวนี้คือ การยืมเหรียญมาลงทุนตั้งแต่แรกเลย
1
🤖 Reverse Grid
Reverse Grid คือ Grid bot ที่ใช้ตอนช่วง Trend ขาลง กรณีที่เรามีเหรียญที่ซื้อในราคาสูง และต้องการทำให้ราคาต้นทุนเฉลี่ยต่ำลง
คอนเซปต์ คือ การขายที่ราคาสูง แล้วไปรอซื้อกลับที่ราคาต่ำลง ทำให้ต้นทุนเหรียญมีราคาต่ำลง
🤖 Leveraged Reverse Grid
Leveraged Reverse Grid คือ Reverse Grid ที่สามารถใส่ Leverage เข้าไปในแต่ละช่วงได้
🤖 Infinity Grids
Infinity Grids คือ การสร้าง Grid แบบไม่มีระยะเริ่มต้น และสิ้นสุด โดยจะเล่น Grid ไปเรื่อยๆ ไม่ว่าราคาจะสูง หรือต่ำแค่ไหน
จบแล้วสำหรับการรีวิว Pionex หากสนใจสมัครอย่าลืมลิงค์นี้
โฆษณา