23 พ.ย. 2021 เวลา 04:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รายงานหนังทำเงินในอเมริกาเหนือ 12-14 พฤศจิกายน: หนังมาร์เวล ‘Eternals’ ยังครองอันดับ 1 เอาชนะหนังใหม่ ‘Clifford the Big Red Dog’
รายงานหนังทำเงินในอเมริกาเหนือ 12-14 พฤศจิกายน จากวาไรตี้ - หนังมาร์เวล ‘Eternals’ ครองแชมป์ต่อเป็นสุดสัปดาห์ที่สองด้วยรายได้เกือบ 27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนั่นหมายความว่า รายได้ของหนังจะตกลงจากสัปดาห์เปิดตัวถึง 62% โดยหากเทียบกับหนังมาร์เวลเรื่องอื่น ๆ ที่เปิดตัวในปีนี้แล้ว รายได้ตกมากกว่า ‘Shang-Chi and the Ten Rings’ ที่รายได้ลดลงจากสัปดาห์แรก 52% แต่ทำได้ดีกว่า ‘Black Widow’ ที่รายได้ลดฮวบถึง 67% แต่อย่าลืมว่า หนังของสการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน เปิดตัวในโรงกับดิสนีย์พลัสแบบพรีเมียมพร้อมกัน ซึ่งมีผลต่อรายได้จากโรงอย่างไม่ต้องสงสัย
ทำให้ ‘Eternals’ เป็นหนึ่งในหนังจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล รายได้สัปดาห์ที่สองตกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 11 ปี รองจาก ‘Black Widow’ โดยมีหนังแค่ 2 เรื่องที่รายได้ลดลงในระดับ 62% ก่อนหน้านี้คือ ‘Ant-Man and the Wasp’ ในปี 2018 กับ ‘Spider-Man: Homecoming’ ในปี 2017 แต่หนังทั้งสองเรื่องเปิดตัวในช่วงฤดูฉายซัมเมอร์ที่มีหนังใหม่เรื่องเด่น ๆ เข้าฉายอย่างต่อเนื่อง
รายได้ที่ตกลงมากพอดูของ ‘Eternals’ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะการตอบสนองที่ดูก้ำกึ่ง นักวิจารณ์ไม่ชอบหนัง จนกลายเป็นงานเรื่องเดียวที่ได้ค่าความสดเป็น ‘เน่า’ บนเว็บไซต์มะเขือเน่า ผู้ชมแม้ส่วนใหญ่จะชอบ แต่หนังก็ได้ค่าเฉลี่ยจากซีนีมาสกอร์แค่ บี ซึ่งถือเป็นคะแนนกลาง ๆ ออกไปในทางเงียบ ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับหนังมาร์เวล แสดงให้เห็นว่าการตอบสนองของคนดูไม่ค่อยกระตือรือร้นนักกับหนังมาร์เวล ที่ส่วนใหญ่จะทำได้อย่างโดดเด่น หากอย่างน้อยก็ไม่ถึงกับส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศ
อันดับ 2 เป็นหนังเปิดตัวใหม่จากพาราเมานต์ งานสำหรับครอบครับ ‘Clifford the Big Red Dog’ ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือชุดสำหรับเด็กชื่อเดียวกันของนอร์แมน บริดเวลล์ ว่าด้วย เด็กอายุ 12 – เอมิลี่ เอลิซาเบ็ธ ที่ได้ของขวัญเป็นหมาตัวเล็ก ๆ สีแดง ชื่อคลิฟฟอร์ด แต่แล้วกลับเติบโตเป็นหมายักษ์สูงถึง 10 ฟุต ทั้งคู่ออกเดินทางผจญภัยไปทั่วนิวยอร์ก หนังทำรายได้สามวันไป 16.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังทำรายได้ในวันเปิดตัวตั้งแต่วันพุธ 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้วหากรวมรายได้ทั้งหมดห้าวัน หนังจะทำเงินไปถึง 22.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ค่าความสดของหนังอยู่ที่ 48% บนเว็บมะเขือเน่า แต่กับผู้ชมทั่วไปบนซีนีมาสกอร์ หนังได้คะแนน เอ แม้จะเปิดตัวบนสตรีมมิง พาราเมานต์ พลัสพร้อม ๆ กับโรง แต่เสียงบอกปากต่อปาก น่าจะทำให้หนังทำได้ดีกว่าหนังที่เปิดตัวในโรงและสตรีมมิงพร้อมกันเรื่องอื่น ๆ
กับการฉายมาเป็นสุดสัปดาห์ที่สี่ หนังวอร์เนอร์ฯ -เลเจนดารี ที่ดัดแปลงจากนิยายของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ‘Dune’ ทำเงินมาได้อีก 5.54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อยู่ในอันดับ 3 รายได้ตกลงจากสัปดาห์ก่อนแค่ 28% ซึ่งถือว่าหนังยืนระยะได้ดี ทั้ง ๆ ที่มีให้ชมแล้วในเอชบีโอ แม็กซ์ ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะเสียงส่วนใหญ่บอกว่า นี่คือหนังที่สมควรต้องชมในโรงภาพยนตร์ ซึ่งในสุดสัปดาห์นี้ หนังน่าจะทำเงินแตะ 93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และคงทำรายได้ผ่าน 100 ล้านในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
หนังเจมส์ บอนด์ ‘No Time to Die’ มาที่ 4 ในสุดสัปดาห์ที่หกของการฉาย หนังทำเงินเพิ่มอีก 4.53 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และแม้จะมีให้ชมแล้วทางบริการหนังตามสั่ง รายได้ของหนังก็ลดลงจากสัปดาห์ก่อนเพียง 25% เท่านั้น
หนังซูเปอร์ฮีโรมาร์เวลของโซนี ‘Venom: Let There Be Carnage’ ยังอยู่ในท็อปไฟว์ โดยรายได้ตกแค่ 12% จากสุดสัปดาห์ก่อน และทำรายได้ผ่าน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้วในสุดสัปดาห์นี้ โดยเป็นหนังเรื่องที่สองที่ทำได้ในช่วงการระบาด ต่อจาก ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’
ในกลุ่มหนังเปิดตัวจำกัด โฟกัส ฟีเฌอร์สปล่อย ‘Belfast’ ของเค็นเน็ธ บรานาก์ห ฉายใน 580 จอ หนังทำรายได้วันศุกร์ 640,000 เหรียญสหรัฐฯ และปิดสุดสัปดาห์แรกด้วยตัวเลข 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​กับการที่หนังได้คะแนนซีนีมาสกอร์ที่ เอ ลบ และได้เสียงชมถึงการเป็นงานระดับรางวัล น่าจะทำให้หนังขยับขยายวงในการฉายต่อไป
ส่วนหนังของเสิร์ชไลต์ ’The French Dispatch’ ยังไปได้เรื่อย ๆ ในโรงอาร์ตเฮาส์ เมื่อรายได้ตกลงแค่ 31.9% ในสัปดาห์ที่สี่ของการฉาย รายได้ทำมาอีก 1.76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้รายได้รวมผ่าน 10 ล้านไปแล้วในสุดสัปดาห์นี้
ปิดท้ายด้วยหนังของนีออน – ‘Spencer’ ที่เพิ่มโรงอีก 269 จอ ซึ่งทำเงินในวันศุกร์ไป 480,000 เหรียญสหรัฐฯ ตกจากสัปดาห์เปิดตัวเมื่อราว ๆ 1 สัปดาห์ก่อนแค่ 39% หนังได้แรงชมถึงการแสดงของคริสเทน สจวร์ต ที่รับบทเป็นเจ้าหญิงไดอะนาเรื่องนี้ น่าจะดึงผู้ชมได้เรื่อย ๆ ไปจนถึงช่วงฤดูล่ารางวัล
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
#MovieStory: ‘Lords of Dogtown’ ว่าด้วยชีวิตเด็กเล่นสเก็ตบอร์ดและกระดานโต้คลื่น 3 คนที่สไตล์การเล่นบอร์ดและใช้ชีวิตแตกต่างกัน และทำให้การเล่นเสก็ตบอร์ดเปลี่ยนไปจากเดิมจนถึงทุกวันนี้ อ่านเรื่องราวเต็มๆ กันได้ที่นี่ > https://bit.ly/3mH0oDu

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา