23 พ.ย. 2021 เวลา 11:18 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ความรู้สึกหลังดู Tick Tick .. Boom! (2021) / Netflix
"จงปล่อยให้รักนำทางไม่ใช่ความกลัว"
นี่คือสิ่งที่เราได้จะเรียนรู้จากภาพยนตร์มิวสิคัลที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง ซึ่งจะว่าด้วยเรื่องของ ตัวละครโจนาธาน ลาร์สัน (Andrew Garfield) นักแต่งเพลงละครเวทีวัยใกล้เลขสาม ที่ยังไล่ตามความฝันในการสร้างสรรค์ผลงานและส่งไปยังเวทีใหญ่อย่างบรอดเวย์แต่ด้วยอุปสรรคทั้งเวลา โอกาสที่แทบไม่ได้เข้าข้างเขาเลย จึงกลายมาเป็นแรงกดดันที่กำลังจู่โจมชีวิตของเขา
ความรู้สึกหลังดู ต้องบอกว่าด้วยเวลาเกือบสองชั่วโมงของหนังเรื่องนี้มันได้มอบทั้งเสียงเพลงที่ไพเราะ กำลังใจ และตอกย้ำว่าทุกเวลาในชีวิตล้วนมีความหมายแล้วเวลาก็มีอย่างจำกัดจริงๆเพราะฉะนั้นทุกคนควรไขวว่คว้าทุกโอกาสที่จะมีความสุข มีฝันและมีความรักนั้นเอง
โดยสิ่งเหล่านี้ก็ถูกเล่าผ่านตัวละครอย่างโจนาธาน ที่ได้การแสดงที่ธรรมชาติ มากเสน่ห์ของ Andrew Garfield ช่วยเสริมความเพลิดเพลินของหนังเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งพี่เขาก็จัดเต็มทั้งซีนดราม่าหรือร้องเล่นเต้นโชว์ เรียกได้ว่าเป็นการแสดงในรสชาติใหม่ๆที่แปลกตาไปไม่น้อยสำหรับอดีตพระเอกไอ้แมงมุม
นอกจากนั้นก็ยังดึงเอา Vanessa Hudgens นางเอกสาวจากหนังตระกูล High school Music ที่แพรวพราวทั้งแสดงและร้องเพลงมาช่วยขับเน้นหลายบทเพลงในเรื่องให้ไพเราะขึ้นไปอี้ก
แน่นอนว่าไฮไลท์ประจำเรื่องนอกจากเป็นหนังที่สร้างชีวิตจริงของโจนาธาน ลาร์สัน นักแต่งเพลง นักเขียนบทละครชาวอเมริกันและ Andrew Garfield แล้ว ความเป็นมิวสิคัลที่หนังพยายามจะครีเอทและใส่เข้ามาก็อยู่ในระดับที่พอใช้ได้ ไม่ได้เพลิดเพลินหรือเนียนไปกับเส้นเรื่องอย่าง หนัง Lalaland แต่มันก็เพียงพอที่จะ เอนเตอร์เทนคนดูไปเรื่อย ๆแต่ต้องบอกว่าเพลงสุดท้าย lounder than word ก็สามารถส่งอารมณ์ รวมถึงส่งต่อแง่คิดของเรื่อง ในช่วงสุดท้ายให้คนดูทั้งยิ้มตาม ซาบซึ้ง ไปกับเรื่องราวของเหล่าตัวละครทั้งหมด ใน Tick Tick Boom
สามารถดื่มด่ำไปกับทุกบทเพลงและไล่ตามความฝันไปกับทุกตัวละครได้วันนี้ ใน Netflix
#Ticktickboom #ห้องดูหนัง #NetflixTh #AndrewGarfield
โฆษณา