24 พ.ย. 2021 เวลา 15:42 • ไลฟ์สไตล์
👼 พอเป็นแม่ถึงได้เข้าใจ และบอกกับตัวเองว่า..
"โอเค เราจะกลับมาเรียนรู้ เเละเติบโตไปพร้อมๆกันกับเธอนะ....มนุษย์ลูก"
เป็นคนหนึ่งที่ยอมรับเลยว่า ก่อนมีลูกและหลังมีลูก หลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก โดยเฉพาะอารมณ์ อารมณ์ที่มาแบบพายุ ขึ้นๆลงๆ พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ พลิกกันไปมาพึ่บพั่บ จนคนข้างๆขอให้ไปรับยาช่อง 2
ไบโพลาร์นิดๆ ซึมเศร้าหน่อยๆ
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า🤭 (ณ จุดนี้หัวเราะได้แล้ว เพราะเริ่มชิน!!)
👶 พร้อมแล้วเหรอแกจะมีลูก!! เลี้ยงลูกมันเหนื่อยมากนะ ไหวเหรอ!! เลี้ยงลูกต้องเสียสละมากๆเลยนะ!! เรียนรู้เรื่องการเลี้ยงลูกดีแล้วหรือยัง!! ยิ่งโตยิ่งเหนื่อยนะ!!
ประโยคต่างๆเหล่านี้ คือเราได้ยินหลายคนมาเตือนอยู่บ่อยๆ ในช่วงที่ลูกยังเดินทางมาไม่ถึงมดลูก
แต่คนมันไม่เคย หูมักจะดับ บวกความอยากที่มากล้น และความน่ารักของเด็กๆ ที่ยั่วยวน ภาพในจินตนาการตอนนั้นก็เลยจะเป็นแนวทุ่งลาเวนเดอร์ (สวนทางกับสภาพบ้านเมือง เศรษฐกิจ และเงินในบัญชี ฮ่าฮ่าฮ่า) มีฉัน มีพ่อ มีแม่ และมีลูก ครอบครัวสุขสันต์ ไหวอยู่แล้ว เราทำได้....
📍 คำเตือนที่1: "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน"
1
📍 คำเตือนที่2 : มัวแต่คิดมากอายุก็เพิ่มขึ้นไปทุกวันนะ ขอให้ลูกมาก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน ลุยยย!!!
📍 คำเตือนที่3 : ยึดหลักความพอดี กลางๆ ข้อ1+ข้อ2 และทำให้ดีที่สุดในจุดที่ยืน
พอวันที่ลูกเดินทางมาถึงมดลูก ตามที่ขอไว้ทุกวันกับเบื้องบนบ้าง ศาลเจ้าบ้าง ความรู้สึกตอนนั้นคือตื่นเต้น และมีความสุขมากๆ บอกตัวเองว่าฉันจะเป็นแม่ที่มีความสุข ฟังโมสาร์ท ร้องเพลง เล่านิทานให้ลูกฟังทุกวันแน่นอน
เเละในที่สุดโลกแห่งความเป็นจริงก็มาถึง ในวันที่กลับจากโรงพยาบาล 🤭
แน่นอนที่สุดตอนอยู่โรงพยาบาลมีคนช่วยเลี้ยง ช่วยดูแล ถึงเวลาพยาบาลก็เข็นรถเอาลูกมาให้นม ลูกก็ไม่เห็นจะร้องโวยวายเลย เรียบร้อย น่ารักสุดๆ
แต่พอวันที่ต้องออกจากโรงพยาบาลเท่านั้นแหละ!!
"ลูกฉันคือนักร้อง เกิดมาพร้อม🎤"
เปิดคอนเสิร์ต หลับหูหลับตาร้องไม่หยุด!! จำได้ว่าทำตัวไม่ถูกเลยตอนนั้น ทั้งตื่นเต้น ทั้งสงสาร ทั้งกลัว หลายความรู้สึกปนกันไปหมด
ยอมรับเลยว่าพอมาถึงจุดที่ได้สัมผัสจริงๆ ไม่มีเวลามานั่งเปิดกูเกิลหาข้อมูลใดๆเลย ได้แต่รีบทำทุกอย่างแบบงมๆ วนไปจนกว่าลูกจะสงบ
อดหลับอดนอนให้นม เล่น กล่อมหลับ วนไป และสุดท้ายก็ก้าวเท้าเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดจนได้ เข้าบ้านAFพบจิตแพทย์ (โชคดีที่ยังเป็นแบบเริ่มต้น)
📍 พอมาถึงวันนี้ที่ใจสงบลง เริ่มคิดได้
ทุกอย่างที่ทำให้เราต้องไปรับยาช่อง 2 ถ้าไม่นับรวมฮอร์โมน มันก็เป็นเพราะความคาดหวังของเราที่มีมากเกินไป ความเครียดที่อยากจะให้ทุกอย่างเป็นดั่งใจ ไม่มีตรงกลาง มีแต่ตึงไม่ผ่อนไม่ปรับใดๆ เพราะอยากให้ทุกอย่างกับลูกดีที่สุด (ในมุมมองของตัวเอง)
ความไม่ปล่อยวาง ความกลัวที่คิดไปเองล่วงหน้า และที่สำคัญที่สุด คือการปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามอารมณ์เหล่านั้น (รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก🎶🎶)
นั่นแหละมันทำให้เราเหนื่อยมากกก!!!! มองหน้าลูกไปน้ำตาก็ไหลไป ขนาดลูกยังไม่โตยังเหนื่อยขนาดนี้!!
ไปเถอะไปรับยาช่อง 2 กัน 🤣🤣🤣🤣
💆 เมื่อมาถึงจุดที่ไม่ไหวแล้วววว
ต้องขอบคุณสามีแบบสุดๆที่เข้าใจเราทุกอารมณ์ ขอบคุณคนในครอบครัวที่ให้ความช่วยเหลือ สอน และช่วยดึงสติ ดึงใจให้กลับมาเป็นคนปกติ แต่ก็ยังมีขึ้นๆลงๆบ้าง🤭
"คนรอบข้างสำคัญต่อใจจริง"
📍เส้นทางการเลี้ยงลูกยังอีกยาวไกล จุดที่เปลี่ยนเราได้ก็คือ
เด็กชาย"หอมด่วน"ครับ
👶 การได้ค้นพบว่า เด็กคนนึงจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพ มีความสุขบนโลกใบนี้ได้ด้วยตัวเอง
"หัวใจ" "ทัศนคติ" และ"ความสุข" ของพ่อแม่คือหัวเชื้อที่สำคัญ👶
เราไม่สามารถจะส่งผ่านความสุขให้เขาได้เลย ถ้าตัวเราเองยังไม่มีความสุข และเราก็เชื่อว่าเด็กรับรู้
3
✏ "การเลี้ยงลูก" มันทำให้เราได้กลับมาทบทวนใจตัวเองอีกครั้ง กลับมาเข้าใจถึงธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ที่บางทีเราอาจจะละเลยหรือมองข้ามไปในบางมุม
• มนุษย์ตัวเล็กคนหนึ่ง ที่มีสิทธิในร่างกาย และจิตใจของตัวเอง มีความต้องการที่ควรได้รับการตอบสนอง และให้เกียรติกันเช่นเดียวกับผู้ใหญ่
• ลูกทำให้เราได้กลับมาเรียนรู้จิตใจตัวเอง ในการมองเขาด้วยความเข้าใจ และเมตตา ใจเย็นๆก่อนในช่วงเวลาที่ไม่เข้าใจกัน (บางทีก็อยากเท) 🤣
• มนุษย์ตัวเล็กๆที่ยังพูดไม่ได้ ก็มีความต้องการทั้งทางร่างกาย และจิตใจ เช่นเดียวกันกับเราที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
แต่สมองของเขาที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ครบทุกด้าน การร้องคือสิ่งเดียวที่เขาทำได้ เมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือเกิดความต้องการ
• เรียนรู้ที่จะเข้าใจในความเป็นธรรมชาติของแต่ละคน
ไม่เปรียบเทียบ เพราะเด็กแต่ละคนมีพื้นฐานอารมณ์ นิสัย ศักยภาพ ที่ติดตัวมาแตกต่างกัน
• ลูกทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น (ดีที่สุดในจุดที่ยืน🤭) เชื่อในคำพูดที่ว่า "ต้นแบบที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน" อยากสร้างให้เขาเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่แบบไหน ก็พัฒนาตัวเองให้เป็นคนแบบนั้นก่อน (โตไปไม่โกงเนอะ🤭🤭)
"ทำด้วยความสนุก ไม่คาดหวัง เรียนรู้กันไปพร้อมกัน" พลาดบ้าง เบลอบ้าง ก็ขออภัย 🤣
💓 • ถ้ามั่นใจว่าทำดีที่สุดแล้ว สุดท้ายก็ปล่อยวาง....
แต่ละชีวิตย่อมมีลมหายใจ และมีเส้นทางเดินเป็นของตัวเอง
✏ ถึงจุดนี้อยากจะบันทึกบอกลูกว่า "ขอบคุณที่มาอยู่ด้วยกันนะครับ" ถ้ายังไม่ได้เป็นแม่ก็คงยังไม่เข้าใจ รอยยิ้มที่ลูกส่งให้มันสร้างความสุขให้กันได้จริงๆ ความรู้สึกรักในทุกวินาทีที่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งๆที่โคตรเหนื่อย มันเป็นแบบนี้นี่เอง
ถึงแม้หลายคนจะบอกว่า ลูกพอโตไปก็ไม่อยู่กับเราแล้ว ระวังติดสาวบ้าง ติดเพื่อนบ้าง หนักสุดทิ้งแม่บ้าง
แต่เรากลับรู้สึกว่าในวันข้างหน้าจะเป็นยังไงยังไม่รู้ แต่ในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่ปี ที่แม่ยังเป็นโลกทั้งใบของลูก มันคือช่วงเวลาแห่งความสุขที่บริสุทธิ์ ที่ลูกได้มอบให้
"มันเป็นความสุขที่หาจากที่ไหนไม่ได้ และมันคุ้มกับเรามากแล้วที่เขาได้มามอบให้"
1
ที่เหลือเมื่อเขาเติบโต มีความคิดเป็นของตัวเอง เขาจะเลือกเส้นทางเดินแบบไหน นั้นคือของแถมจากการเลี้ยงดูของเราแล้วแหละ
แต่ละชีวิตย่อมมีลมหายใจ และเส้นทางเดินเป็นของตัวเอง ไม่คาดหวังให้ลูกต้องทิ้งความฝันของตัวเอง หรือเสียสละชีวิต เพื่อมาตอบแทนบุญคุณ หรือมาต่อยอดความฝันใดๆ ถ้าเขาไม่ได้เต็มใจต้องการ เพราะเราเชื่อว่าเราไม่ได้มีบุญคุณต่อกัน เราด้วยซ้ำที่ขอให้เขามาเกิด เมื่อเขามาแล้วมันคือหน้าที่เรา สิ่งที่ต้องการคือได้เป็นลมใต้ปีก ได้เห็นในทุกๆการเติบโตของเขา จนลูกค่อยๆเดินไปในเส้นทางที่เขาต้องการ และมีความสุขในชีวิตของตัวเอง
📍เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตกัน และสุดท้ายแล้วเราต่างก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง
และสถานะของเราก็ต้องลดไปตามช่วงเวลา
"มันคือสัจธรรม" 💓
: ที่มาของแนวความคิดในการเลี้ยงลูกจากหนังสือ เลี้ยงบวก ลูกบวก (แพทย์หญิงจิราภรณ์ อรุณากูร) และเพจคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
โฆษณา