#อาฮุย
.
#หลักกระบี่แห่งธรรมชาติ
.
#สงบสยบเคลื่อนไหว
.
#เรียบง่ายพิชิตซับซ้อน
สิบปีคร่ำเคร่งเพลงกระบี่
.
ลุวิถีถ่อมประกายงำสงวน
.
เผยคมกล้าคนชั่วช้าท้าทั้งมวล
.
ธรรมถ่องถ้วนถามไถ่แทนโลกหล้า
.
(กลอน “จอมกระบี่” ประพันธ์โดย เจี๋ยเต้า)
บรรดาศาสตราวุธทั้งปวง มีอาวุธเรียวยาวเล่มหนึ่ง ถูกกล่าวขานหลายยุคหลายสมัยว่าเป็น
“ราชาแห่งอาวุธสั้น” ศาสตราวุธนั้นคือ “ #กระบี่ ”🗡
.
กล่าวได้ว่า กระบี่เป็นศาตราวุธที่ชาวยุทธจักรมักนิยมเลือกฝึกปรือ
เนื่องจากกระบี่มีหนึ่งปลาย สองคม จึงสามารถพลิกแพลงกระบวนท่า
ได้สลับซับซ้อน ทุกส่วนของกระบี่ล้วนสามารถใช้จู่โจมได้สิ้น
กระบี่มีหลายท่าอันเป็นเอกลักษณ์ของอาวุธ
เช่น แต้ม กระดก พาด และท่าที่สำคัญของเพลงกระบี่คือ “#ท่าแทง”
.
หากให้ข้าพเจ้านึกถึงจอมกระบี่ผู้หนึ่ง ที่ใช้ “ท่าแทง” ได้อย่างเรียบง่าย หากแต่ทรงประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง
ข้าพเจ้าพลันนึกถึง “อาฮุย”
.
สหายรักของลี้คิมฮวง มีเพลงกระบี่เป็นอาวุธ
หากแต่เพลงกระบี่ของอาฮุยนั้น ล้วนเกิดจาก
“#หลักธรรมชาติ” ทั้งสิ้น เหตุใดจึงเรียกว่าหลักธรรมชาติ ?
เล่ากันว่า ตอนอาฮุยอายุ 8-9 ขวบ มันเคยเห็น
กระเรียนถูกงูเหลือมใหญ่มหึมากักไว้
.
กระเรียนแม้มีจะงอยปากคมแต่ยังคงไม่กล้าจู่โจมตามอำเภอใจตน
เนื่องเพราะกระเรียนรู้จักสัญชาตญาณของอสรพิษซึ่งที่สุด
ทราบว่าหลังจากอสรพิษขดเป็นวง หัวหางติดต่อกันแล้ว
จะมีความคล่องแคล่วปราดเปรียวยิ่งกว่าสายฟ้าแลบ
.
สภาพการณ์ดังนี้ หากกระเรียนจะใช้จะงอยปากแข็งแกร่งจิกหัวอสรพิษ
ขาทั้งสองของมันย่อมถูกหางงูรัด
.
ในขณะเดียวกัน หากมันจิกถูกหางงูก็ยากยิ่งจะไม่ถูกหัวงูฉกทำร้าย
ดังนั้น กระเรียนจึงได้ยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว
รอจนกระทั่งอสรพิษทนทานไม่ได้ จำต้องจู่โจมไปก่อน
มันจึงได้ใช้จะงอยปากอันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า
จิกที่อสรพิษดุจสายฟ้า
.
อาฮุยหมอบอยู่บนต้นไม้ติดตามชมดูโดยตลอด
จึงได้เข้าใจหลักการต่อสู้ของงูและกระเรียน
.
แม้หัวหางของงูติดต่อกัน ภูมิปัญญาโบราณ
ยังประยุกต์ใช้ถึงการเดินทัพยามสงคราม
แต่ถ้าหากสามารถปฏิบัติได้ถึงหลักการแห่ง
.
“#ใช้สงบสยบเคลื่อนไหว #ใช้กระปี้กระเปร่าทำลายระโหยโรยแรง”
.
ยิ่งสามารถกำชัยอย่างเป็นมั่นเหมาะมั่นคงยิ่งกว่า
นี่เป็นก้าวแรกของหลักกระบี่ของอาฮุย
เมื่อเข้าใจถึงหลักการแห่งกระบี่จาก สำนักธรรมชาติแล้ว
.
การใช้กระบี่ของอาฮุยเล่า ?’
.
กระบี่ของฮุยนับว่าพิสดารผิดแปลกไป
จากแนวทางกระบี่ทุกค่ายสำนักอย่างสิ้นเชิง
.
กระบี่ของมันไม่มีฟัน ไม่มีตวัด ...มีแต่แทง
.
ดังคำกล่าวของมัน
.
“ข้าพเจ้าไม่รู้จักเพลงกระบี่ ข้าพเจ้าเพียงรู้จักใช้กระบี่
แทงเข้าคอหอยของศัตรูด้วยวิธีใดเท่านั้น
กับคนที่ใช้กระบี่ ความหมายของคำว่าช้า ก็คือตาย”
.
นับว่าอาฮุยกล่าวมิผิด วรยุทธ์ในใต้หล้าล้วนตัดสินกันที่ความเร็ว
.
กระบี่ของมันจึงเร็วยิ่ง เร็วอย่างร้ายกาจ หากแต่เรียบง่ายอย่างยิ่ง
เป็นความเรียบง่ายที่พิชิตความซับซ้อนพลิกแพลงของเพลงกระบี่ทั้งมวล
คราแรกที่ลี้คิมฮวงพบกับอาฮุยนั้น
มันเห็นร่างโดดเดี่ยวท่ามกลางหิมะ อาฮุยเดินช้ายิ่ง
แต่มิยอมหยุดเด็ดขาด อาฮุยไม่มีทั้งร่ม
ไม่มีหมวก หิมะละลายไหลลงจากศีรษะสู่ใบหน้า
เข้าไปในซอกคอ ทั้งร่างสวมเสื้อผ้าบางเบาอยู่ชั้นเดียว
.
แต่หลังของมันยืดตรงดั่งปลายทวน ร่างของมันคล้ายหลอมขึ้นจากเหล็กไหล อาฮุยพกแผ่นเหล็กเพียงสามเชียะเศษ
ทั้งไม่มีคม ไม่มีโกร่ง กระทั่งด้ามก็ไม่มี
แต่ใช้ไม้บางๆสองแผ่นตอกไว้สองฟากข้าง
อาฮุยก็นับเป็นด้ามกระบี่แล้ว
.
ชาวยุทธหลายคนเห็นกระบี่อาฮุยมันดูถูก
บางคนถึงกับขำขัน แต่เมื่อคนเหล่านั้นเห็นอาฮุยใช้กระบี่
ส่วนใหญ่ขำไม่ออก
.
เนื่องเพราะพวกมันไม่เคยเห็นกระบี่ที่รวดเร็วปานนี้มาก่อน
สะท้อนให้เห็นหลักแห่งกระบี่ว่า
....กระบี่แม้นมีสภาพเช่นไร แต่เปล่งอานุภาพ
ได้สะท้านสะเทือนแค่ไหน อยู่ที่คนใช้กระบี่เป็นสำคัญ...
แม้อาฮุยจะรู้จักเพียงแต่ การแทงเข้าคอหอย
ซึ่งความจริงเพียงแทงไปข้างหน้าเท่านั้น
แต่มันกลับสามารถแทงไปสู่ทิศทางใดก็ได้
.
แทงออกจากชายโครงแทงออกจากหว่างขา
แทงออกจากข้างหู แทงไปเบื้องหน้า
แทงไปด้านหลัง แทงไปทางซ้าย แทงไปทางขวา
.
กระบี่ของมันไวและเหี้ยมหาญ ต้องประกอบด้วยจิตใจที่สงบ
และเยือกเย็นยิ่ง นี่เป็นคุณสมบัติของจอมกระบี่
.
ด้วยวิถีชีวิตที่กำเนิดอยู่กับธรรมชาติ
ชีวิตในป่าเขารกร้างและกันดารล้วนลำบากยากเข็ญยิ่ง
.
เนื่องจากมันเติบใหญ่ ในป่าเขาที่รกร้าง กันดาร🏞 ลมหิมะ ☃️
และน้ำแข็ง❄ ล้วนเป็นศัตรูที่สำคัญคุกคามต่อชีวิตของมัน
ชีวิตมันต้องอดทนเพียงใด
.
มีบางครั้งอาฮุยจะหาน้ำ และอาหารไม่ได้เลยเป็นเวลาหลายวัน
มันจึงมีแต่ต้องรอคอย จึงมีแต่ต้องอดทน
.
อาฮุยต้องไม่เคลื่อนไหว เนื่องเพราะเมื่อไม่เคลื่อนไหว
มันจึงสามารถออมแรงออมกำลังเอาไว้ได้
.
ในตอนอายุ 10 ขวบ เนื่องเพราะต้องการล่าชะมด
มันเคยซุ่มกับพื้นหิมะเป็นเวลาสองชั่วยาม
โดยมิได้ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
อาการอดกลั้นนี้มิใช่มีมาตามธรรมชาติ
.
หากแต่ต้องผ่านการฝึกฝนด้วยความยากลำบาก
เป็นเวลายาวนานจึงจะสามารถกระทำได้
ไม่เพียงแต่อาฮุยมีความอดกลั้น ความปราดเปรียวของโสตประสาท
ความคมกล้าของสายตาก็แทบไม่เป็นรองใคร
.
ทำให้ตัวมันเปรียบดั่งกระบี่เล่มหนึ่ง ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว
ผ่านการหลอมขึ้นมาจากธรรมชาติอันโหดร้าย
ทำให้มันมีความสงบ สุขุมเยือกเย็น
อดทนอดกลั้นได้อย่างยอดเยี่ยม
เป็นกระบี่วิเศษที่ชื่อว่า “อาฮุย”
.
กระบี่ของอาฮุยรวดเร็วเพียงใด ❓
การสัประยุทธ์ครั้งสำคัญของมันคือการต่อสู้กับ
#พยุหะอรหันต์ (ล้อฮั่นติ่ง)☣️
.ของวัดเส้าหลิน เพื่อช่วยเหลือสหายรักของมัน ลี้คิมฮวง...
....
ทำให้เหล่าชาวยุทธจักรได้ทราบว่ากระบี่ของมันรวดเร็วเพียงใด
ท่าร่างของมันกลับแปรเปลี่ยนยิ่งกว่า
.
พยุหะอรหันต์ ประกอบด้วยหลวงจีนห้ารูป
ฝีเท้ายามเดินแคล่วคล่องราวเมฆพลิ้วน้ำไหล 🌊
พอหยุดยืนก็มั่นคงดั่งบรรพตใหญ่ 🏔
ผู้นำคือ #ซิมไบ๊ไต้ซือ องครักษ์พิทักษ์กฎของเส้าหลิน🧑🦲🛕
พหยุหะนี้ประกอบด้วยยอดฝีมือของเส้าหลินทั้งสิ้น
.
อาฮุยทราบว่า หากกระโดดขึ้นบนอากาศ
ท่อนล่างก็จะกลายเป็นช่องว่างใหญ่
หากซิมไบ๊ไต้ซือซัดลูกประคำมา
เท้าทั้งสองต้องพิการอย่างแน่นอน
.
ดังนั้น จึงมีแต่ฉวยโอกาสพุ่งไปในช่องว่างของสองคนทางด้านข้าง
มิคาด ร่างเพิ่งพุ่งออกจากที่ หลวงจีนเสิ้ยวลิ้มยี่พลันหมุนวนด้วยความคล่องแคล่วดั่งเมฆพลิ้วน้ำไหล
.
ทั้งห้ารูปต่างหมุนวนรอบตัวอาฮุยไม่หยุดยั้ง
.
อาฮุยดูออกว่า หลวงจีนเหล่านี้ไม่เพียงมีฝีมือลึกล้ำสูงส่งเท่านั้น
ยังฝึกร่วมกันจนผสานได้แนบเนียนไม่มีช่องว่างรอยโหว่
แม้น้ำก็ไม่อาจสาดกระเซ็นเข้ามาได้
.
มันจึงต้องใช้ หลักกระบี่ธรรมชาติ คือ
.
“ สงบสยบเคลื่อนไหว ใช้กระปี้กระเปร่าทำลายระโหยโรยแรง ”
.
เมื่อหลวงจีนเส้าหลินไม่เคลื่อนไหว อาฮุยก็ไม่เคลื่อนไหว
พอมันเคลื่อนไหว ก็มีความเร็วดั่งสายฟ้า⚡️
.
แลเห็นประกายกระบี่วูบขึ้น แทงเข้าใส่คอหอยซิมไบ๊ไต้ซือ
ร่างหลวงจีนเส้าหลินก็เคลื่อนไหวทันที
ฝ่ามือแข็งแกร่งทั้งแปดฟาดใส่อาฮุยโดยพร้อมเพรียงกัน
มิคาดกระบี่ของอาฮุยพอแทงออกไป เท้าพลันแปรเปลี่ยน ❗️
.
มิว่าผู้ใดต่างดูไม่ออกว่า เท้าอาฮุยแปรเปลี่ยนอย่างไร❓
เพียงรู้สึกร่างพลันเปลี่ยนทิศทางในบัดดล
กระบี่นั้นแทงใส่คอหอยซิมไบ้ไต้ซือ
พลันเปลี่ยนทิศทาทำให้ฝ่ามือของอีกสี่รูป
คล้ายจงใจส่งให้กระบี่อาฮุยแทงอย่างยินยอมก็ปาน
.
ทำให้ซิมไบ๊ไต้ซือต้องใช้ #วิชาแขนเสื้อเหล็กเส้าหลิน ⚫️
จู่โจมใส่จุดที่อาฮุยจำต้องช่วยตัวเองก่อน
หลวงจีนเส้าหลินทั้งสี่ แม้ประสบภัยคับขัน
แต่ตนเองกลับไม่ต้องลงมือคลี่คลายเลย
นี่เป็นอานุภาพของพยุหะอรหันต์ของเส้าหลิน
.
มิคาด พริบตานั้น กระบี่ของอาฮุยถึงกลับเปลี่ยนทิศทางอีก ☄️
ผู้อื่นเปลี่ยนกระบวนท่ากระบี่ อย่างมากก็เพียงเปลี่ยนเป้าเท่านั้น แต่อาฮุยเปลี่ยนกระบี่
กลับเปลี่ยนไปทั้งทิศทาง❗️❗️
กระบี่ที่ความจริงแทงใส่ทิศบูรพา พลันกลับกลายเป็นแทงใส่ทิศประจิม
ความจริงกระบี่ของอาฮุย มิได้เปลี่ยนแปรเลย
ที่เปลี่ยนแปรคือเท้าทั้งสอง ความรวดเร็วของการแปรเปลี่ยน
.
นับว่าผู้คนไม่กล้าเชื่อถือจริงๆ ในโลกถึงกับมีเท้าเยี่ยงนี้คู่หนึ่ง
มีเสียงขวับเบาๆ แขนจีวรซิมไบ๊ไต้ซือถูกแทงทะลุไปแล้ว❗️
.
จากนั้น ประกายกระบี่พลันกลายเป็นรุ้งยาว
ร่างและกระบี่คล้ายผนึกเป็นน้ำหนึ่งอันเดียว รุ้งกรีดผ่านไป
ร่างติดตามกระบี่ อาฮุยพลันทะลวงออกจากวงล้อมพยุหะอรหันต์ของเส้าหลินได้❗️❗️
……..
เหล่าสหายชาวยุทธคงได้เห็นประจักษ์ ซึ่งการใช้กระบี่ของอาฮุยนั้น🗡
นอกจากจะรวดเร็วด้วยท่าแทง แปรเปลี่ยนด้วยท่าเท้า
ยังแฝงหลักธรรมชาติ คือความสงบสยบเคลื่อนไหว
รวมทั้งแฝงหลักแห่งกลยุทธ์ต่างๆ เช่น ส่งเสียงบูรพา ฝ่าตีประจิม
และกลยุทธ์มีในไม่มี ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการลวงข้าศึกอีกด้วย
.
สิ่งเหล่านี้อาฮุยย่อมได้มาจากการฝึกฝนอันโหดร้าย
และหล่อหลอมขึ้นมาจากสัจธรรมแห่งธรรมชาตินั่นเอง
🍂 🍂 🍂
ขอคารวะเหล่าสหายชาวยุทธทุกท่าน🍶🍶
อนันตทวิ ☯️
#อ้างอิง
◼️ ชุมนมมังกรซ่อนพยัคฆ์ : เสถียร จันทิมาธร
◼️ ฤทธิ์มีดสั้น : ว. ณ เมืองลุง
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
